คัมภีร์ลับฉบับช่างเชื่อม อ่านจบปรับกระแสไฟเป็น

การเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Shielded Meral Arc Welding; SMAW) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ MMA เป็นกรรมวิธีการเชื่อมโดนอาศัยความร้อนที่ได้จากการอาร์กระหว่างลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์กับชิ้นงาน อาศัยเครื่องเชื่อมเป็นต้นกำลังในการผลิตกระแาเชื่อม และจ่ายกระแาไปตามสายเชื่อมสู่ชิ้นงานและลวดเชื่อม โดยแกนลวดเชื่อมทำหน้าที่เป์นอิเล็กโทรด และเป็นโลหะเติมลงไปในแนวเชื่อม ส่วนฟลักซ์ที่ห่อหุ่มนั้น เมื่อได้รับความร้อน ฟลักซ์บางส่วนจะกลายเป็นแก๊สคลุมบ่อหลอมเหลวไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำโลหะที่บ่อหลอมเหลว และฟลักซ์อีกบางส่วนจะหลอมละลายปกคลุมแนวเชื่อมเพื่อช่วยลดอัตราการเย็นตัว และเมื่อตัวฟลักซ์นั้นเย็นตัวลงก็จะกลายเป็ยของแข็งลักษณะเปราะ เรียกว่า “สแลก” วิธีการเชื่อมด้วยการอาร์กนี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะมีกระบวนการเชื่อมง่าย ไม่ซับซ้อน มีความสะดวกและคล่องตัวสูง เครื่องมือและอุปกรณ์มีราคาถูก หาซื้อง่าย โดยเครื่องเชื่อมที่นิยมใช้กันในปัจจุบันนั้นเป็นเครื่องเชื่อมในระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์เป็นเครื่องเชื่อมชนิดใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมกระแสไฟเชื่อม โดยข้อดีของเครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์คือ มีน้ำหนักเบา สามารถใช้ได้ทั้งกับไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ โดยสามารถใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้า 220 โวลต์ที่ใช้ตามบ้านเรือนทั่วไปได้ นอกจากนั้นแล้วยังประหยัดค่าไฟฟ้า (มากกว่าเครื่องเชื่อมระบบอื่น ๆ) มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง ความสูญเสียพลังงานน้อยกว่าระบบหม้อแปลง ให้กระแสไฟที่สูงและคงที่สม่ำเสมอ ควบคุมกระแสและแรงดันไฟฟ้าได้ละเอียดแม่นยำ มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องเชื่อมมีดังนี้ หัวจับลวดเชื่อม (Electrode Holder) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อเข้ากับสายเชื่อมซึ่งต่อมาจากเครื่องเชื่อมเพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร นอกจากนี้ยังใช้จับลวดเชื่อมและเป็นมือถือขณะเชื่อมอีกด้วย หัวจับลวดเชื่อมมีหลายขนาดและหลายรูปร่างตามความเหมาะสมกับการใช้งาน โดยแบ่งขนาดตามกระแสไฟฟ้าสูงสุดของเครื่องเชื่อมที่ใช้ เช่น ถ้าใช้เครื่องเชื่อมขนาด 350 แอมแปร์ ควรเลือกหัวจับลวดเชื่อมที่ใช้กับกระแสไฟฟ้า […]

ทำความรู้จักสายเชื่อม สายดิน และหน้ากากเชื่อม

นอกจากการเลือกเครื่องเชื่อมให้เหมาะสมกับงานแล้ว ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่จะทำให้งานเชื่อมของคุณสวยปังไม่แพ้ช่างเชื่อมมืออาชีพ หนึ่งในนั้นก็คืออุปกรณ์เสริมที่ดี บทความนี้พัมคินมีทิปส์เด็ดในการเลือกสายเชื่อมมาฝากกันค่ะ พร้อม ไอเทมสำหรับงานเชื่อมที่เป๊ะกว่าเดิม นั่นคือคีมจับสายดิน หน้ากากเชื่อม และแม่เหล็กจับฉากงานเชื่อมนั่นเอง สายเชื่อม เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการทำงานเชื่อม โดยมีหน้าที่นำกระแสเชื่อมไปยังบริเวณที่ใช้อาร์ก หรือชิ้นงานเชื่อม ภายในสายเชื่อมประกอบด้วยลวดทองแดงขนาดเล็กจำนวนมากเพื่อให้สามารถโค้งงอได้ดีตามการใช้งาน เนื่องจากต้องรองรับประจุไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา สายเชื่อมที่ดีจึงควรเป็นสายเชื่อมที่ “ทองแดงเต็ม” ซึ่งจะมีคุณสมบัตินำกระแสเชื่อมได้ดี และทนความร้อนสูง โดยดูจากขนาดของลวดและจำนวนเส้นลวดในสายเชื่อม โดยการเลือกสายเชื่อมให้เหมาะสมกับงานเชื่อมนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ ความยาวของสายเชื่อม ความยาวของสายเชื่อมเหมาะสมกับพื้นที่ในการทำงาน/ ความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ปริมาณกระแสไฟของตู้เชื่อมที่ใช้งาน (Ampacities) การเลือกสายเชื่อมต้องมีความเหมาะสมกับกระแสไฟเชื่อม เช่น ถ้าเครื่องเชื่อมใช้กระแสไฟฟ้าขนาด 140 แอมแปร์ ควรเลือกสายไฟเชื่อมที่ใช้กับกระแสไฟขนาด 140 แอมแปร์เป็นต้น ฉนวนหุ้มต้องมีความทนทานพิเศษ  ฉนวนหุ้มของสายเชื่อมไฟฟ้าสายช่างจะต้องมีความทนทานเป็นพิเศษเพราะลักษณะหน้างานมีความแตกต่างกัน ต้องสามารถทนต่อการลากถู ดึงไปมาได้ ทนต่อแรงกดทับได้ และที่สำคัญต้องมีความทนต่อการกัดกร่อนและป้องกันน้ำได้ดี ความยืดหยุ่นต่อการบิดงอ สายเชื่อมไฟฟ้าที่สายช่างชอบใช้จะต้องมีคุณสมบัติสามารถบิดงอและคืนสภาพได้ง่าย เนื่องจากลักษณะการใช้งานของช่างมีหลากหลายรูปแบบ การเลือกสายเชื่อมไฟฟ้าจึงนิยมใช้เส้นทองแดงที่มีขนาดเล็กเป็นฝอย มากกว่าสายเชื่อมไฟฟ้าที่เป็นเส้นทองแดงขนาดใหญ่เพราะมันแข็งมากเกินไปไม่สะดวกต่อการใช้งาน สำหรับเครื่องเชื่อมพัมคินทุกรุ่น จะมีสายเชื่อมแถมในกล่องด้วยค่ะ โดยความยาวก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ซึ่งสายเชื่อมที่เป็นอุปกรณ์เสริมพร้อมใช้ในกล่องนี้ สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมั่นใจ เพราะผลิตจากวัสดุที่ได้มาตรฐานทั้งทองแดงและตัวฉนวน นอกจากนั้นแล้วก็ยังรองรับกระแสเชื่อมได้อย่างเหมาะสมกับตัวตู้เชื่อมในรุ่นนั้น ๆ นั่นเอง […]

สัญลักษณ์บน Name Plate ตู้เชื่อมบอกอะไร

จุดเริ่มต้นที่ดีก่อนซื้อเครื่องเชื่อม เราต้องทราบถึงขอบเขตและข้อกำหนดในการใช้งาน ซึ่งจะทำให้สามารถทำความเข้าใจการใช้งานและเลือกเครื่องเชื่อมได้อย่างถูกต้อง โดยวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถทราบถึงข้อกำหนดทางเทคนิคของเครื่องเชื่อมนั้น สามารถดูได้ที่ Name Plate ซึ่งติดอยู่กับเครื่องเชื่อม โดยในเนมเพลทของเครื่องเชื่อมแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีรายละเอียดที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยจะเป็นการบอกถึงข้อกำหนดทางเทคนิคที่จำเป็นที่เครื่องเชื่อมนั้นได้รับการออกแบบมา เช่น แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ กระแสเชื่อมที่ปรับได้ หรือ ค่า Duty Cycle เป็นต้น บทความนี้พัมคินจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนเนมเพลทของเครื่องเชื่อม หากเราเข้าใจสัญลักษณ์ต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ก็จะทำให้เราทำงานเชื่อมได้อย่างมืออาชีพ สัญลักษณ์เครื่องเชื่อม : ระบบ Inverter การเชื่อมโดยใช้กระแสไฟฟ้าเป็นพลังงาน มี 2แบบ คือ การเชื่อมแบบความต้านทาน (Resistance welding) และการเชื่อมแบบอาร์ค (Arc welding) วิธีเชื่อมด้วยไฟฟ้าแบบอาร์คมี หลักการจากการไหลของกระแสฟฟ้าผ่านช่องว่าง ในบรรยากาศของแก๊สจากตัวนำไฟฟ้าตัวหนึ่ง ไปยังตัวนำไฟฟ้าอีกตัวหนึ่ง การไหลของกระแสไฟฟ้าดังกล่าว เรียกว่าอาร์ค ผลจากการอาร์คทำ ให้เกิดความร้อนประมาณ 10,000 -12,000 องศาฟาเรนไฮด์ เครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์ หรือเครื่องเชื่อม MMA (ย่อมาจาก Manual Metal […]

ส่องฟังก์ชันช่วยช่างเชื่อมจากตู้เชื่อมพัมคิน

การเชื่อมเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่จะรังสรรค์ชิ้นงานออกมาให้สวยงาม มีความแข็งแรงทนทาน การเลือกตู้เชื่อมที่ดีเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้งานเชื่อมของคุณออกมาเนียนสวย ไม่แพ้ช่างเชื่อมมืออาชีพ วันนี้พัมคินจะมาแนะนำ 4 ฟังก์ชั่น ช่วย ช่าง เชื่อม ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นเสริมในตู้เชื่อมรุ่น Xtreme , Scorpion Weld และตู้เชื่อม Home ในรุ่น HOME 140A PLUS อีกด้วย หน้าที่ของฟังก์ชัน Hot Start นั้นจะเป็นการเพิ่มกระแสเมื่อเริ่มต้นเชื่อม โดยจะช่วยให้จรดปลายลวดเชื่อมลงบนชิ้นงานเพื่อเริ่มต้นเชื่อมได้อย่างง่ายดายมากขึ้น จากนั้นกระแสเชื่อมจะกลับมาคงที่ตามที่ตั้งไว้หน้าเครื่อง ฟังก์ชัน Hot Start จึงเป็นฟังก์ชันที่จะมีบทบาทสำคัญในการเริ่มต้นการเชื่อม จากนั้นจึงส่งไม้ต่อให้กับฟังก์ชัน Arc Force Hot Start ทำให้เริ่มเชื่อมชิ้นงานได้ง่ายขึ้น แต่ควรระมัดระวังในการใช้เชื่อมเหล็กบาง เพราะกระแสไฟสูงเมื่อเริ่มเชื่อมอาจทำให้ชิ้นงานทะลุได้ สำหรับฟังก์ชัน Arc Force นั้น จะทำการเพิ่ม (หรือลด) กระแสเชื่อมอย่างรวดเร็วเมื่อระยะในการเชื่อมหรือปลายลวดอยู่ในตำแหน่งอันไม่คงที่ เช่น ห่างหรือเข้าใกล้ชิ้นงานมากเกินไป ฟังก์ชัน Arc Force จะสร้างสมดุลของกระแสอุณหภูมิเพื่อให้เหมาะกับสภาวะหลอมละลายของลวดเชื่อม ป้องกันการติดชิ้นงานของลวดเชื่อมได้อีกด้วย Arc […]

วิธีเลือกสว่านไฟฟ้า พร้อมแนะนำสว่าน 2 หุนจากพัมคิน

สว่าน (Drill) เป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญในการทำให้วัสดุเกิดรู ในปัจจุบันมีสว่านมากมายหลายประเภท ทั้งแบบมีสาย/ ไร้สาย แบบเจาะ/ เจาะกระแทก รวมถึงประเภทที่สามารถใช้ได้ 3 ระบบ โดยจะมีการออกแบบตัวสว่านให้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทการใช้งาน หน้าที่ของสว่านคือ ใช้สำหรับเจาะรู กระแทกวัตถุใช้ไขหรือคลายสกรูในการถอดและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันโดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก สว่านมีรูปทรงลักษณะคล้ายปืน มีด้ามจับช่วยให้จับได้อย่างมั่นคงถนัดมือ ส่วนปลายเป็นปากสำหรับยึดดอกสว่าน ซึ่งดอกสว่านมีลักษณะเป็นแท่งเกลียวยาวปลายแหลมแหลมที่สามารถหมุนเจาะทำให้เป็นรูได้ ดอกจะสว่านมีหลายประเภทและมีหลายขนาดสามารถถอดและเปลี่ยนดอกสว่านได้ตามต้องการ ในปัจจุบันสว่านที่นิยมนำมาใช้งานจะมีทั้งสว่านไฟฟ้า สว่านไร้สาย และสว่านโรตารี่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบจะมีฟังก์ชั่นการทำงานและคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้จึงควรเลือกให้เหมาะกับประเภทงาน ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกต่อผู้ใช้งานและลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชิ้นงานได้ โดยทั้งนี้การเลือกใช้สว่านไฟฟ้าอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นใช้งานที่จำเป็นจะต้องมีไฟฟ้าเข้าถึง ข้อดีของสว่านไฟฟ้านั้นก็คือผู้ใช้สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ตลอดทั้งวัน โดยไม้ต้องกังวลใจกับกำลังของเครื่อง แต่ทั้งนี้สว่านไฟฟ้าอาจจะทำให้ลดความคล่องตัวในการทำงาน อันเนื่องมาจากปัญหาสายไฟที่ทำให้ผู้ทำงานไม่ได้รับความสะดวกมากนัก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก่อนที่จะซื้อสว่านไฟฟ้าควรตรวจเช็ค วิธีการทำงานและวิธีการใช้งานให้เหมาะสมกับขนาดสว่านที่เลือกด้วย ไม่ว่าจะมีสว่านเกิดขึ้นมากมายหลายประเภทขนาดไหน สว่านไฟฟ้าธรรมดาก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับช่างทั่วไป ด้วยลักษณะการใช้งานที่เรียบง่าย ไม่มีระบบซับซ้อน แค่ใส่ดอกสว่านแล้วเดินเครื่องให้หมุนและเจาะลงบนชิ้นงานที่ต้องการ  สว่านไฟฟ้าเป็นสว่านที่ได้รับความนิยมจากช่างทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นช่างผู้รับเหมา หรือต้องการสว่านไว้สำหรับทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน สว่านไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่โดยจะออกแบบในลักษณะงานที่ต่าง ๆ กันไป โดยวันนี้พัมคินจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับสว่านไฟฟ้า 2 หุน เล็กพริกขี้หนูที่อยู่คู่ช่างไทยมาอย่างช้านาน สว่านไฟฟ้า […]

เทคนิคเลือกเลื่อยวงเดือนให้เหมาะกับงานของคุณ

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือสามัญประจำช่างไม้ที่มีความสำคัญ สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ ซอยไม้ ตัดเข้ามุม ทำเดือย และงานตกแต่งไม้แบบต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ทำงานไม้ตั้งแต่ระดับ DIY ไปจนถึงช่างมืออาชีพ โดยขนาดของเลื่อยวงเดือนนั้นมีตั้งแต่ขนาดเล็ก 4 นิ้ว ไปจนถึง 10 นิ้ว นอกจากนั้นยังมีแยกย่อยไปเป็นแบบมีสายและแบบไร้สายอีกด้วย บทความนี้พัมคินจะพาคุณมาทำความรู้จักทุกมิติของเลื่อยวงเดือน มีข้อดีอย่างไร จำเป็นหรือไม่สำหรับงานของเรา มีปัจจัยใดบ้างในการเลือกเลื่อยวงเดือนให้เหมาะกับงาน และวิธีการใช้งานอย่างไรให้ปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สำรวจส่วนประกอบของเลื่อยวงเดือน ส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนของเลื่อยวงเดือน ได้แก่ “ตัวเครื่อง” และ “ใบเลื่อย” โดยตัวเครื่องนั้นจะมีส่วนประกอบแยกย่อยลงไปอีก ได้แก่ ฐานรองรับโครงเครื่อง ทำหน้าที่เป็นฐานคอยรองรับน้ำหนักในทุกส่วนและรองรับการทำงานของเครื่อง การ์ดป้องกัน ทำหน้าที่ป้องกันใบมีดที่จะหมุนอย่างรวดเร็วขณะใช้งาน นอกจากนั้นและยังป้องกันการกระเด็นของเศษเลื่อยอีกด้วย ด้ามจับ เป็นจุดที่ผู้ใช้งานจับเพื่อประคองเครื่องในขณะตัดชิ้นงาน ด้ามจับที่ดีต้องมีความกระชับมือ จับได้อย่างมั่นคง ไม่ลื่นหลุดขณะใช้งาน กลไกปรับระดับความลึกและองศา เป็นส่วนที่ช่วยในการตัดให้ได้ระดับความลึกและองศาของการตัดตามต้องการ สวิตช์เปิด-ปิด ระบบล็อกไกปืน เป็นระบบสั่งการในการทำงานของเครื่องเลื่อยวงเดือน ควรเลือกเครื่องเลื่อยวงเดือนที่มีปุ่มเปิด-ปิดอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการทำงาน นอกจากนั้นยังควรคำนึงถึงความปลอดภัยอีกด้วย ข้อดีของเครื่องเลื่อยวงเดือน เครื่องเลื่อยวงเดือนนั้นถูกออกแบบมาให้สามารถตัเได้อย่างรวดเร็วโดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องออกแรงมากนัก  นอกจากการเดินเครื่องเพื่อตัดตรงแล้วยังสามารถปรับองศาในการตัดได้อีกด้วย จึงสามารถตัดไม้เป็นแนวเข้ามุมได้อย่างแม่นยำ ข้อดีที่เป็นจุดเด่นของเลื่อยวงเดือนคือสามารถติดตั้งและใช้งานได้งาน […]

สว่านกระแทกไร้สาย 20V พัมคินโฉมใหม่ ให้แรงบิดสูง

ถ้าพูดถึงเครื่องมือสามัญประจำช่างยอดนิยมคู่ใจทั้งช่างมืออาชีพและผู้ทำงาน DIY คงหนีไม่พ้น “สว่าน” ด้วยความเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีประโยชน์หลากหลาย ตอบโจทย์ตั้งแต่การทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงการเจาะสำหรับงานหนักไปจนถึงงานอุตสาหกรรม สว่านจึงเป็นเครื่องมือสามัญประจำบ้านที่ทุกคนควรมีไว้ซ่อมแซมเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเรียกหาช่างทุกครั้งไป สว่านที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเห็นจะหนีไม่พ้น “สว่านไร้สาย” หรือที่บางคนเรียกว่า “สว่านแบต” หรือ “สว่านแบตเตอรี่” ซึ่งมีข้อได้เปรียบกว่าสว่านแบบมีสายก็คือความคล่องตัว นำไปใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ง้อปลั๊กไฟ พัมคินขอเริ่มต้นบทความนี้ด้วยการชวนทุกท่านมาสำรวจกันว่าสว่านไร้สายนั้นมีความจำเป็นสำหรับงานของเราหรือไม่ และมีวิธีเลือกอย่างไรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดความต้องการในการใช้งานของคุณ ก่อนอื่นต้องสำรวจความต้องการในการใช้งานสว่านของเราก่อน ว่าเราใช้งานสว่านสำหรับงานประเภทใด ใช้บ่อยแค่ไหน ในแต่ละครั้งที่ใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานหรือเจาะแต่แป๊บ ๆ สว่านไร้สาย (Cordless drill) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเจาะรูหรือตัดวัสดุต่างๆ โดยที่ไม่ต้องใช้สายไฟไปยังแหล่งจ่ายไฟเหมือนกับสว่านไฟฟ้าปกติ สว่านไร้สายมีความสะดวกสบายและเหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกหรือภายในบ้านที่ไม่สะดวกในการเชื่อมต่อสายไฟ รุ่นที่มีจำหน่ายบนตลาดออนไลน์และห้างสรรพสินค้ามีหลากหลายรุ่นและความสามารถที่ต่างกัน บางรุ่นมีความสามารถเพิ่มเติม เช่น มีฟังก์ชันการหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน หรือมีฟังก์ชันเจาะตัวเท่านั้น ราคาของสว่านไร้สายจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความสามารถของรุ่นนั้นๆ ซึ่งอยู่ในช่วงราคาตั้งแต่หลักร้อยบาทถึงหลักหมื่นบาทหรือมากกว่านั้น การเลือกซื้อสว่านไร้สายควรพิจารณาตามความต้องการและการใช้งานของคุณเองเพื่อเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมและมีคุณภาพที่ดีสำหรับงานของคุณ คำนึงถึงขนาดแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่สว่านไร้สายจะมีกำลังไฟเป็นโวลต์ (V) และโดยทั่วไปแล้วสว่านไร้สายมีตั้งแต่ 12V จนถึง 20V ยิ่งแรงดันไฟฟ้าต่ำ […]

ส่องเครื่องสูบลมยางไร้สายไอเทมเด็ดต้องมีติดรถ

ยางรั่วหรือยางแบนเป็นหนึ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผู้ขับขี่รถยนต์อาจต้องเผชิญได้บ่อยครั้ง การรู้วิธีรับมือกับเหตุการณ์เช่นนี้อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถป้องกันหรือจัดการกับมันได้อย่างเหมาะสม ควรทำอย่างไรเมื่อรถยางรั่ว ยางแบน ในระหว่างขับขี่ ควรทำอย่างไรเมื่อรถยางรั่ว ยางแบน ในระหว่างขับขี่ เมื่อพบว่ารถยนต์มียางรั่วหรือยางแบนในระหว่างการขับขี่ จะต้องดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ ลดความเร็ว : ปรับลดความเร็วของรถลงอย่างปลอดภัยทันที หลีกเลี่ยงการหยุดรถกะทันหันหรือเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมรถและลดแรงกระแทก ซึ่งจะช่วยควบคุมรถได้ง่ายขึ้นในสถานการณ์ที่มีปัญหายางรั่วหรือยางแบน หาที่ปลอดภัย : ถ้าเป็นไปได้ ขับรถไปยังที่จอดรถหรือที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเพิ่มเติม เปลี่ยนยาง : เปลี่ยนยางโดยใช้ยางสำรอง (spare tire) ที่มีอยู่ในรถ แต่ต้องระวังว่ายางสำรองนั้นต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วย โดยจะต้องตรวจสอบยางทุกด้าน และควรใช้ยางสำรองเป็นระยะเวลาชั่วคราวเท่านั้น ควรนำรถไปที่อู่เพื่อตรวจเช็กและเปลี่ยนยางที่เสียทันที โทรหาบริการช่วยเหลือ : ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนยางเอง หรือมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ให้โทรหาบริการช่วยเหลือหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น รถยางรั่ว ยางแบน ขับต่อได้ไหม การขับรถที่มียางรั่วหรือยางแบนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะทำให้ยากต่อการควบคุมรถโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนเลนหรือเมื่อขับผ่านทางโค้ง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้การขับต่อด้วยยางที่ไม่มีลมหรือแบนจะทำให้ยางเสียหายอย่างถาวร ทำให้คุณต้องเปลี่ยนยางใหม่แทนที่จะแค่ซ่อมแซม รวมถึงอาจทำให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถ เช่น ช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนอีกด้วย ปัญหายางแบนเกิดขึ้นได้เสมอในขณะขับขี่ หากคุณขับรถอยู่ในพื้นที่ห่างไหลที่อาจจะหาปั๊มน้ำมันยากก็อาจจะเกิดปัญหาได้ ซึ่งพัมคินอาสาแก้ปัญหาให้คุณด้วยไอเทมสุดอเนกประสงค์ เครื่องสูบลมยางไร้สาย รุ่น INF-15TF ขุมกำลัง INFINITY […]

ทำไมต้องใช้เครื่องขัดหน้าปูนฉาบ PUMPKIN

ในปัจจุบันคนทั่วไปหันมาทำงาน DIY กันมากขึ้น ตั้งแต่งานชิ้นเล็ก ๆ อย่างการทำกล่องไม้ใส่ของ ต่อประกอบชั้นวางของ ปูกระเบื้องเอง ไปจนถึงต่อเติม ซ่อมแซมบ้านด้วยตนเองกันเลยทีเดียว บทความนี้พัมคินจะติดอาวุธ เสริมเทคนิคในอีกหนึ่งงานที่หลายคนคิดว่ายากเกินจะทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเรารู้เคล็ดลับและมีตัวช่วยที่ดี ก็จะสามารถทำได้ด้วยตัวเอง นั่นก็คืองานฉาบปูนนั่นเอง การฉาบปูนถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการตกแต่ง รวมไปถึงซ่อมแซมผนัง และเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากต้องฉาบให้มีความเรียบเนียนสวยงามแล้ว ยังต้องมีความแข็งแรงพอที่จะไม่เกิดการแตก หลุดร่อน ซึ่งถ้าเกิดความเสียหายเช่นนี้ขึ้นแล้ว การแก้ไขจะยุ่งยากยิ่งกว่าการฉาบใหม่เสียอีก สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการฉาบปูนซีเมนต์คือรอยแตกร้าว ความไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน ซึ่งมีสาเหตุได้ทั้งการเตรียมปูนที่ไม่ถูกต้อง การฉาบผิดวิธี ใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม ไปจนถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ปัจจัยเหล่านี้เองที่จะชี้ชะตาว่างานฉาบของคุณจะออกมาเป็นเช่นไร แต่อย่าเพิ่งตกใจและท้อแท้ว่าเราคงไม่สามารถฉาบปูนด้วยตนเองได้แล้ว พัมคินขออนุญาตเพิ่มความมั่นใจให้คุณค่ะว่าทำได้แน่นอน เพียงแค่เรารู้เทคนิคและมีตัวช่วยที่ดีพอก็พร้อมลุยได้ทุกงานปูน เตรียมพื้นผิวด้วยการบ่ม หลังการก่อผนังประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อปูนก่อเริ่มเซตตัว สิ่งที่เราต้องทำคือการบ่มด้วยการรดน้ำผนัง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ปูนก่อมีน้ำเพียงพอ เสริมความแข็งแรงให้มากยิ่งขึ้น โดนทำการบ่มไปอีก 3-7 วัน รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะต้องใช้เวลาในการเซทตัวและพัฒนาความแข็งแรง รวมถึงน้ำที่ระเหยออกจากเนื้อปูนจะทำให้ปูนยุบตัวลงเล็กน้อย แม้จะเพียงไม่กี่มิลลิเมตรแต่ก็ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวของผนังหลังฉาบได้เช่นกัน .ก่อนทำการฉาบ 1 วัน ต้องทำความสะอาดผิวผนังให้สะอาดและรดน้ำผนังในช่วงเย็น […]

เลือกประแจหกเหลี่ยมให้ใช้งานได้อเนกประสงค์

ประแจหกเหลี่ยม อีกหนึ่งไอเทมที่ควรมีไว้ติดบ้าน หากคุณเคยซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องประกอบด้วยตัวเอง หรือมีการซ่อมแซมต่างๆจักรยาน คุณจะสังเกตเห็นสกรูที่มีหัวหกเหลี่ยม ซึ่งใช้ไขควงทั่วไปไม่ได้ มันต้องใช้ ประแจหกเหลี่ยม ในการทำงานเหล่านี้ ในบางครั้งคุณอาจเคยเห็น ประแจหกเหลี่ยม เล็กๆที่มักจะแถมมาหากซื้อเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้น ประแจหกเหลี่ยม ถือว่าเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้บ่อยในงานต่าง ๆ ภายในบ้านของคุณได้เป็นอย่างดี  คุณต้องเข้าใจวิธีใช้ประแจหกเหลี่ยมอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของคุณ ประแจหกเหลี่ยม ส่วนใหญ่มักใช้เพื่อขัน หรือคลายสกรูที่เป็นหกเหลี่ยม วิธีนี้มักทำกับจักรยานหรือพวกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมต่างๆ หันมาใช้ประแจหกเหลี่ยม กันมากขึ้นประแจหกเหลี่ยม ส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบตัว L การใช้ ประแจหกเหลี่ยม ผู้ใช้จะสอดปลายด้านใดด้านหนึ่งลงในสกรูหรือสลักเกลียวหัวหกเหลี่ยม แล้วหมุนประแจตามเข็มนาฬิกาเพื่อขันให้แน่น และทวนเข็มนาฬิกาเพื่อคลาย ประแจหกเหลี่ยม มีข้อได้เปรียบในการให้แรงงัดสำหรับแรงบิดจำนวนมาก บทความนี้พัมคินจะมาแนะนำวิธีการเลือกประแจหกเหลี่ยมให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ค่ะ ประเภทของประแจหกเหลี่ยม ประแจหกเหลี่ยม ตัว L ถือเป็นประเภทที่ได้รับความนิยม และใช้งานมากที่สุด มันโค้งงอเป็นรูปตัว “L” โดยด้านหนึ่งสั้นและยาวอีกด้าน สามารถเสียบทั้งสองด้านเข้ากับเสกรูได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ โดยปกติแล้ว การใช้ส่วนที่ยาวกว่าเป็นด้ามจับจะให้แรงบิดมากกว่า แต่ยังต้องมีระยะห่างมากขึ้นเพื่อให้คุณสามารถขันสกรู/โบลท์ได้ แต่ในทางกลับกัน ด้านที่สั้นกว่าสามารถใช้เป็นด้ามจับได้หากคุณกำลังมองหาความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น ส่วนประแจหกเหลี่ยมหัวบอล เป็นอีกประเภทที่มีประโยชน์ ตามชื่อเลย […]

1 2 3

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.