เจียรมือปรับรอบได้ อเนกประสงค์กว่าอย่างไร

เครื่องมือสามัญประจำช่างที่อยู่คู่ผู้ทำงานช่างมาอย่างยาวนาน ทำงานได้อย่างอเนกประสงค์เพราะช่างไทยเราใช้ทั้งเจียร ตัด ขัด จนกระทั่งดัดแปลงหลายรูปแบบนั่นก็คือเครื่องเจียรมือ หรือที่เรียกกันว่าเจียร์มือ หรือลูกหมู เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นงานเจียร งานขัด งานตัด และการปรับแต่งพื้นผิวที่หลากหลายไปตามการใช้งานร่วมกับใบประเภทต่าง ๆ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ควรมีติดบ้านไว้สำหรับงาน DIY และซ่อมแซมบ้านด้วยตัวคุณเอง ไปจนถึงการทำงานแบบช่างมืออาชีพ เลือกเครื่องเจียรมือ เครื่องเจียรไฟฟ้า หรือลูกหมูอย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ กำหนดเป้าหมายจากลักษณะงานของคุณ ลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน ต้องการคุณลักษณะของเครื่องที่ต่างกัน อย่างเช่นการใช้งานเพื่อเจียร/ขัด ต้องการความเร็วรอบของเครื่องเจียรที่สูง เพื่อให้งานออกมาเรียบ เนียนสวย ส่วนงานตัดนั้นใช้รอบเครื่องที่ต่ำกว่า เพราะฉะนั้น การเลือกเครื่องเจียรที่สามารถปรับความเร็วรอบได้ ก็จะทำให้เราใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ คำนึงถึงขนาดของเครื่องเจียรที่เหมาะกับสรีระของผู้ใช้ เครื่องมือยี่ห้อทางยุโรปอาจจะเหมาะกับขนาดมือของคนยุโรป ในขณะที่สรีระของคนทางเอเชียอย่างเราจะมีขนาดมือที่เล็กมากกว่า เพราะฉะนั้น หากใช้เครื่องเจียรที่ใหญ่เกินไป ไม่เข้ากับสรีระของผู้ใช้ก็จะส่งผลเสียมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาการเหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ ไปจนถึงกล้ามเนื้ออักเสบ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกเครื่องเจียรที่มีขนาดพอเหมาะ จับกระชับมือ ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย แบบมีสายหรือไร้สายดีกว่ากัน แน่นอนว่าช่างส่วนใหญ่น่าจะชื่นชอบเครื่องมือไร้สายเพราะคล่องตัวต่อการใช้งานมากกว่า ไม่ต้องพะวงกับความยาวที่จำกัดของเครื่องมือแบบมีสาย แต่เครื่องมือไร้สายนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เพราะต้องใช้แบตเตอรี่ในการให้พลังงานแทน ซึ่งการใช้งานเจียรมือไร้สาย หรือเจียร์แบตก็ต้องมีแบตสำรองที่เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะฉะนั้นหากเป็นงานที่มีลักษณะที่ต้องใช้งานหินเจียร์ทั้งวัน หรือสถานที่ทำงานนั้นสามารถใช้งานปลั๊กไฟหรือมีเครื่องปั่นไฟ การใช้เจียรมือแบบมีสายนั้นจะมีความเหมาะสมมากกว่า เพราะฉะนั้นช่างมืออาชีพมักจะมีทั้งเครื่องมือแบบมีสายและแบบไร้สายเพื่อการใช้งานที่หลากหลายนั่นเอง […]

ส่องความคุ้มค่า ไขควง/ บล็อกกระแทกไร้สาย 2 ระบบ

สว่าน” เป็นเครื่องมือที่เกือบทุกคนต้องเคยใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการซ่อมแซมบ้าน เจาะผนังเพื่อแขวนกรอบรูปหรือตกแต่ง ใช้ประกอบเฟอร์นิเจอร์ ใช้ถอดล้อรถ ไปจนถึงช่างมืออาชีพที่ใช้ในการทำงาน นอกจากสว่านก็ยังมีเครื่องมือที่มีรูปร่างคล้ายกัน จัดอยู่ในประเภทสว่านเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านของการใช้งาน รวมถึงการใช้งานให้เหมาะกับแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น สว่านไร้สาย เป็นสว่านพื้นฐานที่เน้นใช้งานด้าน “การเจาะ” ไม่ว่าจะเป็นการเจาะไม้ เจาะเหล็ก หรือท่อ PVC นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนดอกใช้ปั่นปูนหรือผสมสีได้อีกด้วย สว่านกระแทกไร้สาย พื้นฐานการทำงานเหมือนกับสว่านไร้สายที่ใช้การหมุนของมอเตอร์และชุดเฟืองเพื่อสร้างแรงบิดขึ้นมา และมี “แรงกระแทก” เพิ่มเติมเข้ามา จึงเหมาะสำหรับ การเจาะอิฐ คอนกรีต และผนังปูนต่าง ๆ ไขควงกระแทกไร้สาย  ไขควงกระแทกไร้สายเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับขันสกรูหรือโบลต์ที่ต้องการแรงบิดสูง โดยเฉพาะงานไม้ งานโลหะ และงานช่างทั่วไป หลักการทำงานของไขควงกระแทกไร้สายจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าภายในตัวเครื่องจะสร้างการหมุนของแกนหมุน (Drive Shaft) เมื่อไขสกรูหรือโบลต์เจอแรงต้านสูง ระบบจะ เปลี่ยนจากการหมุนธรรมดาเป็นการกระแทกหมุน เพื่อเพิ่มแรงบิด กลไกกระแทกทำงานโดยใช้ระบบ ค้อนและทั่ง (Hammer & Anvil) คล้ายกับบล็อกกระแทก แต่เน้นที่แรงหมุนมากกว่าแรงกระแทกแบบแนวแกน กระบวนการทำงานของกลไกกระแทกในไขควงกระแทกไร้สาย จะทำงานโดยมอเตอร์หมุนหัวไขควงตามปกติ เมื่อเมื่อแรงต้านมากขึ้น ค้อนภายในตัวเครื่องจะเริ่มสะสมพลังงาน ค้อนจะตีกระแทกไปที่ทั่งเป็นจังหวะ ส่งแรงบิดเป็นรอบ […]

เลือกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 จาก PUMPKIN

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนไทยส่วนใหญ่เริ่มรู้จักและคุ้นเคยกับสิ่ง ๆ ที่เรียกว่า ฝุ่น PM2.5 ที่มักมาเยือนในช่วงหน้าแล้ง ปกคลุมน่านฟ้าหลายพื้นที่ของประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายฤดูหนาวลากยาวจนถึงช่วงฤดูร้อน ซึ่งต้นตอหลัก ๆ ของปัญหาควันพิษที่เกิดขึ้นนั้น มีทั้งปัญหาไฟป่าและการเผาผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะในหลายจังหวัดทางภาคเหนือที่มีสถิติผู้ป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศนับแสนคนต่อปี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ตามด้วยกลุ่มโรคตาอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง โรคคออักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ โรคจมูกอักเสบเรื้อรัง โรคหอบหืด ไข้หวัดใหญ่ โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ตลอดจนถึงโรคที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายระยะยาว เมื่อพูดถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย หนึ่งในปัจจัยที่ถูกพูดถึงเป็นลำดับต้น ๆ คือเรื่องไฟป่า หมอกควันที่เกิดจากไฟป่า เกิดจากการสันดาปที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิด ควันไฟ ฝุ่นละออง หมอก ขี้เถ้า และแก๊สพิษต่าง ๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2), ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และ ก๊าซโอโซน (O3) เป็นต้น โดยมลพิษพวกนี้จะปนเปื้อนอยู่กับอนุภาคหมอกควัน ซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่ที่อากาศแห้ง นิ่ง ไม่มีลมพัด […]

ครบเครื่องเรื่องสว่านโรตารี ทุกมุมมองการใช้งาน

สว่าน (Drill) เป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญในการทำให้วัสดุเกิดรู ในปัจจุบันมีสว่านมากมายหลายประเภท ทั้งแบบมีสาย/ ไร้สาย แบบเจาะ/ เจาะกระแทก รวมถึงประเภทที่สามารถใช้ได้ 3 ระบบ โดยจะมีการออกแบบตัวสว่านให้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทการใช้งาน หน้าที่ของสว่านคือ ใช้สำหรับเจาะรู กระแทกวัตถุใช้ไขหรือคลายสกรูในการถอดและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันโดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก สว่านมีรูปทรงลักษณะคล้ายปืน มีด้ามจับช่วยให้จับได้อย่างมั่นคงถนัดมือ ส่วนปลายเป็นปากสำหรับยึดดอกสว่าน ซึ่งดอกสว่านมีลักษณะเป็นแท่งเกลียวยาวปลายแหลมแหลมที่สามารถหมุนเจาะทำให้เป็นรูได้ ดอกจะสว่านมีหลายประเภทและมีหลายขนาดสามารถถอดและเปลี่ยนดอกสว่านได้ตามต้องการ ในปัจจุบันสว่านที่นิยมนำมาใช้งานจะมีทั้งสว่านไฟฟ้า สว่านไร้สาย และสว่านโรตารี่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบจะมีฟังก์ชั่นการทำงานและคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้จึงควรเลือกให้เหมาะกับประเภทงาน ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกต่อผู้ใช้งานและลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชิ้นงานได้ สว่านโรตารี่ (Rotary Drill) เป็นสว่านที่ใช้ในการเจาะผนัง เจาะปูนโดยเฉพาะ จะทำงานแบบกระแทกคล้ายกับการเอาค้อนมาทุบจึงเรียกว่า “สว่านกระแทก” ได้เช่นกัน เนื่องจากคอนกรีตบางชนิดจะมีความแข็งกว่าคอนกรีตปกติ ทำให้การเลือกใช้สว่านกระแทกธรรมดาไม่ตอบโจทย์ และทำให้ต้องใช้แรงกดมากขึ้น แต่สว่านโรตารี่จะมาช่วยทำให้งานเจาะคอนกรีตที่แข็งง่ายขึ้น สามารถผ่อนแรงผู้ใช้งานได้มากขึ้น กำลังไฟฟ้าเฉลี่ยจะสูงกว่าสว่านแบบอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์ขึ้นไป สว่านโรตารี่มีทั้งแบบมีสายและไร้สาย และมีหลายขนาดและระดับกำลัง โดยทั่วไปจะมีการตั้งค่าความเร็วแบบแปรผัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วของการหมุนของดอกสว่านให้ตรงกับความแข็งของวัสดุที่กำลังเจาะ นอกเหนือจากการเจาะรูแล้ว สว่านโรตารี่ ยังเหมาะกับพวกงานรื้อถอนอีกด้วย สว่านโรตารี่เหมาะกับการใช้งานประเภทไหน งานที่เหมาะกับการใช้สว่านโรตารี่ ได้แก่ […]

พิชิตทุกปัญหา ร้าว รั่ว ซึม ด้วยกาวซิลิโคนพัมคิน

ร้าว รั่ว ซึม เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจคนรักบ้านมาทุกยุคทุกสมัย ยิ่งในช่วงฝนตกชุกแบบนี้ก็จะยิ่งส่งผลกระทบเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษต่าง ๆ เข้าบ้านผ่านรอยแตกร้าว ซึ่งเราสามารถขจัดปัญหากวนใจนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการยาแนว กุญแจสำคัญในการอุดรอยรั่ว ร้าว ซึมอย่างมีประสิทธิภาพ เรียบเนียน ทนทานนั้นอยู่ที่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับพื้นผิวที่เราต้องการยาแนว บทความนี้พัมคินจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักอีกหนึ่งเคมีภัณฑ์ยาแนวที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือยาแนวซิลิโคนหรือกาวซิลิโคน ซึ่งจะมีกี่ประเภท มีข้อดี/ ข้อเสียอย่างไรบ้าง รวมถึงเทคนิคการใช้กาวซิลิโคนง่าย ๆ ให้คุณยาแนวได้ด้วยต้นเอง กาวซิลิโคนคืออะไร กาวซิลิโคนหรือซิลิโคนยาแนว (Silicone Sealant) เป็นวัสดุอุดรอยต่อที่ทามาจากวัสดุโพลิเมอร์ มีองค์ประกอบหลักคือ ซิลิกอน คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และสารเคมีประเภทอื่น เป็นสารประกอบอนินทรีย์ (Inorrganic Based) ที่มีลักษณะเป็นวัสดุกึ่งเหลวมีความยืดหยุ่นสูง จุดเด่นของกาวซิลิโคนคือสามารถทนความร้อนได้สูง เมื่อแห้งแล้วจะมีความแข็งและเหนียว และยังกันน้ำรวมถึงยึดเกาะได้ดี ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้กาวซิลิโคนจึงถูกนำไปใช้ในงานอุดรอยรั่ว ประสานรอยร้าว ปิดช่องว่างรอยต่อต่าง ๆ ทั้งในครัวเรือน งานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม สามารถใช้งานได้กับหลากหลายพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นปูน หลังคา อะลูมิเนียม กระจก เซรามิก โลหะ […]

กบไสไม้ ไอเทมลับฉบับคนรักงานไม้

กบ เป็นเครื่องมือช่างไม้สำคัญอีกชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องมือแปรรูปไม้ให้ผิวเรียบและได้รูปทรงตามต้องการ กบไสไม้แบบดั้งเดิมจะทำด้วยไม้ นิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ชิงชันเพราะแข็งและเหนียว ตัวกบมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ค่อนไปทางท้ายกบเจาะเป็นช่องให้เอียงไปด้านหลังเล็กน้อยสำหรับใส่ใบกบ ด้านหน้าเจาะเป็นช่องให้ขี้กบออกและช่องบังคับลิ่ม เรียก นม สมัยโบราณนิยมใช้เหล็กกลม ๆ สอดขวางบังคับลิ่มให้กระชับใบกบ เลยช่องใส่ใบกบทางท้ายเจาะรูกลมหรือรี สำหรับสอดไม้ให้ทะลุออกมาทั้งสองข้างเป็นมือจับ กบไสไม้เป็นไอเทมสําคัญอย่างยิ่งสําหรับช่างไม้มืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการทําผิวไม้ขนาดใหญ่ให้เรียบ การขัดเงาผิว การตัดช่องต่อ หรือการทําร่องบนเนื้อไม้ ประเภทของกบที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ “กบไฟฟ้า” ด้วยมีข้อดีคือช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรงของผู้ใช้งาน ให้ความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน บทความนี้พัมคินจะมาแนะนำสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อเลือกกบไสไม้ไฟฟ้าสักเครื่อง รวมไปถึงการใช้งานกบไฟฟ้าให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงในการเลือกกบไฟฟ้า ขนาดของกบไสไม้ ขนาดของ กบไสไม้ไฟฟ้า ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเครื่อง แต่หมายถึงความกว้างที่สามารถไสได้ในแต่ละครั้งด้วย ซึ่งความกว้างมีหน่วยเป็นนิ้ว นอกจากนี้ความหนาที่ กบไสไม้ สามารถไสได้ก็มีให้เลือกเช่นกัน มีทั้งหน่วยเป็น เซนติเมตร มิลลิเมตร หรือนิ้ว กบไฟฟ้าตัวเล็กขนาด 3-4 นิ้ว ใช้เก็บรายละเอียดของงาน ใช้กับไม้อัด ไม้โครง ขอบลามิเนต ส่วนใหญ่มักจะมีหรือเริ่มต้นที่ตัวนี้เพราะใช้ง่าย ส่วนกบไฟฟ้าตัวใหญ่ขนาด 5-10 นิ้ว ใช้ปรับหน้าไม้หรือใช้กับไม้เนื้อแข็ง […]

เคล็ดลับการเลือกและดูแลรักษาเลื่อยยนต์

เลื่อยยนต์ เป็นไอเทมที่มีความสำคัญต่องานสวน โดยเฉพาะในงานเกษตรที่ปลูกไม้ใหญ่ ไม้ยืนต้น ที่ต้องการการตัดแต่งดูแลรักษาอยู่เสมอ ด้วยความสามารถตัดไม้ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว บทความนี้พัมคินจะมาแนะนำการเลือกเลื่อยโซ่ยนต์ที่มีคุณภาพ พร้อมทริคเด็ดเคล็บลับในการบำรุงรักษาเลื่อยยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เครื่องยนต์ 2T หรือ 4T เครื่องยนต์ของเลื่อยยนต์ มีทั้งแบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (2T) และ 4 จังหวะ (4T) โดยเครื่องยนต์ 2 จังหวะ มีจุดเด่นคือน้ำหนักที่เบากว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะ จึงทำให้น้ำหนักของเลื่อยยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะมีน้ำหนักเบากว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องใช้งานเป็นเวลานาน และถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ 2 จังหวะจะมีน้ำหนักเบากว่า แต่กลับให้กำลังในการทำงานมากกว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วเครื่องยนต์ 2 จังหวะยังมีความซับซ้อนน้อยกว่า มีชิ้นส่วนประกอบภายในน้อยกว่า ทำให้มีขนาดกะทัดรัดกว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ช่วยให้ทำงานในพื้นที่แคบได้ดีกว่า นำขึ้นไปตัดบนต้นไม้ที่สูงก็สะดวกสบาย แต่ข้อดีของเครื่องยนต์ 4 จังหวะนั้นก็มีเช่นกันในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น้อยกว่า และมีเสียงการทำงานน้อยกว่าเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เลือกขนาดบาร์เลื่อยโซ่อย่างไรให้ถูกกฎหมาย ความยาวของบาร์กำหนดเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุดที่เลื่อยยนต์สามารถตัดได้ ตัวอย่างเช่น […]

ตัดกิ่งไม้ง่าย ๆ ด้วยเลื่อยพูลซอและเลื่อยโค้ง

การตัดแต่งกิ่งไม้ถือเป็นงานจำเป็นสำหรับคนรักต้นไม้และปลูกไม้ยืนต้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้าน สวนสาธารณะ รีสอร์ต ไปจนถึงการตัดแต่งกิ่งไม้ผล ไม้ใบ ในสวนเกษตรของท่าน การตัดแต่งกิ่งไม้ให้เรียบร้อยสามารถปรับปรุงภูมิทัศน์และดูแลสุขภาพของต้นไม้หรือพุ่มไม้ได้ อีกทั้งยังมีเหตุผลด้านความปลอดภัย ยิ่งในช่วงฤดูมรสุมของไทยที่ยาวนานหลายเดือน การตัดแต่งกิ่งไม้ก่อนที่จะถูกพายุฝนฟ้าพัดหักสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินนั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ  เมื่อพูดถึงการตัดแต่งกิ่งไม้ ไอเทมที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือไอเทมที่เหมาะสมสำหรับการตัดและแต่ง โดยในบทความที่แล้วพัมคินได้แนะนำสองคู่หูเด็ดไร้สาย นั่นก็คือเลื่อยโซ่ไร้สาย และกรรไกรตัดแต่งกิ่งไร้สายไปแล้ว (อ่านบทความ คลิก) ในบทความนี้เราจะมาแนะนำเลื่อยสองชนิดที่สามารถตัดแต่งกิ่งไม้ได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง และที่สำคัญคือเป็นไอเทมที่มีราคาย่อมเยา จับต้องได้ คุ้มค่าทุกงานตัดแต่งกิ่งไม้ของคุณ ทำไมถึงควรใช้เลื่อยตัดกิ่งไม้ ข้อดีของการใช้ เลื่อยตัดกิ่งไม้ คือจะช่วยให้คุณสามารถตัดกิ่งที่หนาขึ้นได้ เลื่อยจำนวนมากสามารถตัดกิ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นิ้ว และถ้าออกแรงอีกหน่อย คุณก็จะสามารถตัดกิ่งที่หนาขึ้นเล็กน้อยได้เช่นกัน ใบเลื่อยตัดกิ่งไม้จำนวนมากสามารถตัดได้ทั้งจังหวะผลักและจังหวะดึง ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่เลื่อยเคลื่อนที่ จะเกิดการตัดวิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าเลื่อยทั่วไปหลายเท่า เนื่องจากเลื่อยเหล่านี้มักจะตัดเฉพาะจังหวะการกด ซึ่งใช้เวลานานกว่าสองเท่าในการทำงานให้เสร็จ พูลซอ เลื่อยง่ายด้วยหลักการ “ดึง” เลื่อยดึงหรือพูลซอเป็นเลื่อยมือประเภทหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ใบเลื่อยค่อนข้างบางและมีฟันที่คมมาก ทำให้สามารถตัดได้ละเอียดมากโดยใช้แรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความแตกต่างที่สำคัญคือเลื่อยญี่ปุ่นใช้งานได้เมื่อดึงและเลื่อยของยุโรปทำงานด้วยการดัน ใบเลื่อยที่ทำงานบนก้นมีใบเลื่อยที่กว้างและแข็งเป็นพิเศษ ในขณะที่เลื่อยญี่ปุ่นใช้ใบเลื่อยที่บางและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เนื่องจากใบเลื่อยแบบบางทำให้ได้รอยตัดแบบบาง การเลื่อยไม้ด้วยเลื่อยญี่ปุ่นจึงกินเนื้อไม้น้อยลง ไม่เปลืองเนื้อไม้ ผลิตขี้เลื่อยน้อยลง และต้องการกำลังของกล้ามเนื้อน้อยลง จึงทำให้ตัดได้นานมากขึ้นโดยไม่เมื่อยล้า รวมถึงให้ความแม่นยำในการตัดเพิ่มขึ้นอีกด้วย หากคุณเป็นมือใหม่ การตัดไม้แบบญี่ปุ่นนั้นง่ายกว่ามาก […]

คัมภีร์ลับฉบับช่างเชื่อม อ่านจบปรับกระแสไฟเป็น

การเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Shielded Meral Arc Welding; SMAW) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ MMA เป็นกรรมวิธีการเชื่อมโดนอาศัยความร้อนที่ได้จากการอาร์กระหว่างลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์กับชิ้นงาน อาศัยเครื่องเชื่อมเป็นต้นกำลังในการผลิตกระแาเชื่อม และจ่ายกระแาไปตามสายเชื่อมสู่ชิ้นงานและลวดเชื่อม โดยแกนลวดเชื่อมทำหน้าที่เป์นอิเล็กโทรด และเป็นโลหะเติมลงไปในแนวเชื่อม ส่วนฟลักซ์ที่ห่อหุ่มนั้น เมื่อได้รับความร้อน ฟลักซ์บางส่วนจะกลายเป็นแก๊สคลุมบ่อหลอมเหลวไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำโลหะที่บ่อหลอมเหลว และฟลักซ์อีกบางส่วนจะหลอมละลายปกคลุมแนวเชื่อมเพื่อช่วยลดอัตราการเย็นตัว และเมื่อตัวฟลักซ์นั้นเย็นตัวลงก็จะกลายเป็ยของแข็งลักษณะเปราะ เรียกว่า “สแลก” วิธีการเชื่อมด้วยการอาร์กนี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะมีกระบวนการเชื่อมง่าย ไม่ซับซ้อน มีความสะดวกและคล่องตัวสูง เครื่องมือและอุปกรณ์มีราคาถูก หาซื้อง่าย โดยเครื่องเชื่อมที่นิยมใช้กันในปัจจุบันนั้นเป็นเครื่องเชื่อมในระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์เป็นเครื่องเชื่อมชนิดใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมกระแสไฟเชื่อม โดยข้อดีของเครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์คือ มีน้ำหนักเบา สามารถใช้ได้ทั้งกับไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ โดยสามารถใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้า 220 โวลต์ที่ใช้ตามบ้านเรือนทั่วไปได้ นอกจากนั้นแล้วยังประหยัดค่าไฟฟ้า (มากกว่าเครื่องเชื่อมระบบอื่น ๆ) มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง ความสูญเสียพลังงานน้อยกว่าระบบหม้อแปลง ให้กระแสไฟที่สูงและคงที่สม่ำเสมอ ควบคุมกระแสและแรงดันไฟฟ้าได้ละเอียดแม่นยำ มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องเชื่อมมีดังนี้ หัวจับลวดเชื่อม (Electrode Holder) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อเข้ากับสายเชื่อมซึ่งต่อมาจากเครื่องเชื่อมเพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร นอกจากนี้ยังใช้จับลวดเชื่อมและเป็นมือถือขณะเชื่อมอีกด้วย หัวจับลวดเชื่อมมีหลายขนาดและหลายรูปร่างตามความเหมาะสมกับการใช้งาน โดยแบ่งขนาดตามกระแสไฟฟ้าสูงสุดของเครื่องเชื่อมที่ใช้ เช่น ถ้าใช้เครื่องเชื่อมขนาด 350 แอมแปร์ ควรเลือกหัวจับลวดเชื่อมที่ใช้กับกระแสไฟฟ้า […]

เจาะลึกตู้เชื่อมพัมคินซีรีส์ Scorpion เหมาะกับใคร

เนื่องจากเครื่องเชื่อมของพัมคินมีอยู่หลายซีรีส์ หลายรุ่น บทความนี้พัมคินจะพาท่านมาทำความรู้จักกับตู้เชื่อมในซีรีส์ที่เหมาะกับช่างมืออาชีพ แต่ในขณะเดียวกันก็เหมาะสำหรับผู้เริ่มเชื่อมหรือผู้ที่ทำงานเชื่อมแบบ DIY ด้วยเช่นกัน เพราะมีฟังก์ชันช่วยเชื่อมแบบจัดเต็ม พร้อมสเปคเครื่องที่พัมคินให้คุณได้มากกว่าใคร นั่นก็คือตู้เชื่อม MMA พัมคินในซีรีส์ Scorpion Weld นั่นเอง ก่อนอื่นพัมคินอยากจะทบทวนพื้นฐานกระบวนการเชื่อม MMA หรือ SMAW กันสักเล็กน้อย การอาร์กด้วยลวดหุ้มฟลักซ์หรือการเชื่อมธูป เป็นกรรมวิธีการเชื่อมไฟฟ้าที่ใช้ความร้อนจากการอาร์กระหว่างลวดเชื่อมกับชิ้นงาน โดยความร้อนจากการอาร์กจะหลอมเหลวให้ลวดเชื่อมและชิ้นงานรวมกันเป็นแนวเชื่อม ขณะเดียวกันฟลักซ์ที่ห่อหุ้มแกนลวดเชื่อมไว้ก็จะหลอมละลายแล้วสร้างแก๊วคลุมแนวเชื่อมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนและไนโตรเจนที่มีอยู่ในอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำโลหะ ฟลักซ์ที่หลอมละลายคลุมแนวเชื่อมนี้เมื่อแข็งตัวจะกลายเป็นสแลค โดยการเชื่อม MMA นี้จะอาศัยเครื่องเชื่อมเป็นต้นกำลังในการผลิตกระแสเชื่อมและจ่ายกระแสไปตามสายเชื่อมสู่ชิ้นงานและลวดเชื่อมเพื่อให้เกิดการอาร์ดขึ้นระหว่างปลายลวดเชื่อมกับชิ้นงานขณะทำการเชื่อม เครื่องเชื่อมที่มีความนิยมใช้กันมากในปัจจุบันคือเครื่องเชื่อมระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ด้วยข้อดีที่โดดเด่นคือน้ำหนักเบา สามารถใช้กับไฟบ้านได้ ประหยัดค่าไฟฟ้า ควบคุมกระแสและแรงดันไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง มีหลายขนาดตามกระแสไฟฟ้าที่ใช้ โดยในปัจจุบัน ตู้เชื่อม MMA : Inverter ของทางพัมคินนั้นมี 3 ซีรีส์ ได้แก่ PUMPKIN HOME : เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน งาน DIY ไปจนถึงช่างมืออาชีพที่ไม่ได้ทำงานเชื่อมเป็นหลัก XTREME ฉลาด ทนทาน […]

1 2 4

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.