ในช่วงนี้หลายพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมขังน่าจะกำลังเริ่มลดแล้วนะคะ ซึ่งหลังจากน้ำท่วมขังมาหลายวัน แน่นอนว่าต้องมีงานทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่รออยู่ สิ่งสำคัญในการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมด้วยตัวเอง คือ การป้องกันตัวเองจากอันตรายและสิ่งสกปรกทั้งหลายที่มากับน้ำ โดยการแต่งตัวให้มิดชิด ใส่เสื้อและกางเกงขายาว และควรใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่าง ถุงมือยางและรองเท้าบู๊ท จะช่วยไม่ให้ผิวหนังไปสัมผัสกับเชื้อราและสารเคมี ทั้งยังช่วยป้องกันไฟดูดได้ และควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปิดปากและจมูก ป้องกันการหายใจเอาสปอร์เชื้อราและไอระเหยของสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ไม่ควรทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมด้วยตัวคนเดียว เพราะหากมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นคนอื่นๆ จะได้เตรียมพร้อมและให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
พัมคินขอแนะนำ 5 อุปกรณ์สำคัญ ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมให้สะอาดเหมือนก่อนน้ำเข้าท่วมขัง
ถุงมือยาง ใช้ป้องกันสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของมีคม รวมถึงกระแสไฟฟ้ารั่วระหว่างการทำความสะอาด นอกจากนั้นควรสวมเสื้อผ้าปกปิดให้มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แว่นตา และอย่าลืมใส่ หน้ากากปิดปากเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเราได้ง่าย ๆ
รองเท้าบูท สวมใส่เพื่อป้องกันสิ่งมีคม สัตว์มีพิษ กระแสไฟฟ้ารั่ว รวมไปถึงป้องกันโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อรา
น้ำยาทำความสะอาด ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นผิวต่าง ๆ อย่างไม้ ผ้า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เช่น น้ำยาซักผ้าขาวที่มี เบคกิ้งโซดา ส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค 70 % น้ำยาทำความสะอาด หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อ
หน้ากากอนามัยใช้ใส่ระหว่างทำความสะอาดได้ดี เพราะนุ่ม ใส่สบาย กันละอองน้ำ ละอองสารเคมี ละอองเชื้อราได้ดี
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ทุ่นแรงในการขัดคราบโคลน คราบตะไคร่ ราดำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังน้ำท่วม ขจัดคราบฝังแน่น รวมถึงใช้ล้างแอร์ ล้างข้าวของเครื่องใช้ที่สกปรกจากน้ำท่วมได้อีกด้วย
เชื้อราในบ้าน ปัญหาน่าปวดหัวหลังน้ำลด
หลายๆ ท่านที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมน่าจะทราบดีว่าในระหว่างที่น้ำท่วมนั้นมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตขนาดไหน หลังน้ำลดแทนที่จะได้ดีใจอย่างเต็มที่กลับต้องมาเครียดซ้ำกับอีกหลายปัญหาที่ตามมา ทั้งข้าวของเสียหาย เฟอร์นิเจอร์ไม้บวมน้ำ คราบสกปรก กลิ่นอับชิ้น และปัญหาเชื้อราที่สร้างทั้งความไม่สวยงามและส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัยของคนในบ้าน บริเวณที่มักพบเชื้อราหลังน้ำลด ได้แก่ พื้นบ้าน ฝนผนัง วอลเปเปอร์ ที่นอน โซฟา พรม หมอน ผ้าม่าน รวมถึงอาหารที่เก็บไว้ในบ้านอีกด้วย
แม้จะเป็นปัญหาจุกจิกกวนใจที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เราสามารถลดการเกิดเชื้อราในบ้านได้ ด้วยการทำความสะอาดพื้นและผนัง รวมถึงส่วนต่างๆ ภายในบ้านให้รวดเร็วไม่เกิน 24-48 ชั่วโมงหลังน้ำลด
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในงานกำจัดเชื้อรา
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
เครื่องเป่าลม
น้ำส้มสายชู
น้ำยาทำความสะอาด/ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ผงฟอกขาว
สิ่งที่ใช้สวมระหว่างทำความสะอาด เช่น รองเท้าบูท ถุงมือ แว่น หน้ากากอนามัย
แปรงและไม้ถูพื้น
เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้ว ก่อนลงมือทำสงครามกับเชื้อรา ควรสำรวจบ้านกันก่อนค่ะ ว่ามีจุดไหนได้รับความเสียหาย มีสัตว์มีพิษซุกซ่อนอยู่บริเวณใดหรือไม่ มีเศษแก้ว เศษโลหะที่อาจเป็นอันตรายระหว่างการทำความสะอาดหรือเปล่า และควรเปิดประตู-หน้าต่าง เพื่อระบายความชื้นออกจากบริเวณบ้านให้มากที่สุดด้วยค่ะ
จากนั้นเรามาเริ่มภารกิจพิชิตเชื้อรากันเลย โดยเริ่มจากใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกตะกอนจนฝังแน่นบนพื้น หรือตะไคร่ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างน้ำท่วม จากนั้นไล่น้ำออกแล้วปล่อยให้แห้ง หากเป็นผนังหรือพื้นปูนขัดด้วยแปรงขัด โดยใช้ร่วมกับ ผงฟอกขาว 1 ถ้วยตวงผสมน้ำ 1 แกลลอน
ล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง จากนั้นใช้เครื่องเป่าลมเป่าให้แห้ง ส่วนเครื่องใช้ในบ้านที่มีเชื้อราขึ้น ให้นำไปทำความสะอาดนอกบ้านในที่โล่ง ขั้นตอนต่อมาผสมแอลกอฮอร์หรือผลิตภัณฑ์ซักผ้า อัตราส่วน 300 มล. ต่อน้ำ 3.8 ลิตร แล้วใช้ผ้าชุบเพื่อเช็ดคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สำหรับบ้านไหนที่มีน้ำส้มสายชู 5-7% ก็สามารถใช้กระดาษชุบเพื่อเช็ดทำความสะอาดป้องกันเชื้อราได้เช่นกัน
เคล็ดไม่ลับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หลังน้ำท่วม
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน โดยทั่วไปแล้วจะใช้วัสดุในการผลิต 2 กลุ่มใหญ่ คือ วัสดุที่ทนต่อน้ำ เช่น ไม้จริง, เหล็ก, กระจก หิน และวัสดุที่ไม่สามารถทนต่อน้ำ เช่น ไม้อัด, Particle Board , ผ้า , ใยสังเคราะห์ เป็นต้น การดูแลรักษาในภาวะปกติอาจทำได้ง่ายๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์จากไม้ อาจใช้แค่ผ้านุ่ม ไม้ขนไก่ปัดฝุ่น , หนัง อาจใช้ผ้าชุบน้ำหรือน้ำยาเคลือบหนังเช็ดทำความสะอาด, เหล็ก ใช้ผ้านุ่มหรือชุบน้ำเช็ดเบา ๆ , หิน อาจใช้ผ้านุ่มชุบน้ำยาล้างจานบิดหมาด เช็ดถู เมื่อเลอะคราบสกปรก เป็นต้น
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ หากทำจากไม้จริง (Solid Wood) ให้ทำความสะอาดคราบสกปรก ตะไคร่น้ำ โดยใช้แปรงขนอ่อนชุบด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน จากนั้นเช็ดให้แห้ง และวางไว้ในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อไม้คายความชื้นออกไป ห้ามนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ตากแดดโดยเด็ดขาด เพราะไม้อาจแตกหรือคดงอได้ เมื่อความชื้นหมดแล้ว อาจใช้สีหรือแลกเกอร์ทาเพิ่มเติม เพื่อความเงางามขึ้นก็ได้ (วิธีการทดสอบความชื้นแบบง่ายๆ ใช้แผ่นพลาสติกขนาดพอประมาณ ใช้เทปกาวแปะติดผิวบนเฟอร์นิเจอร์ ทิ้งไว้ 1-2 วัน สังเกตหากมีไอน้ำขึ้นที่พลาสติกแสดงว่ายังคงมีความชื้นหลงเหลืออยู่) หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากชิ้นไม้อัด (Particle Board ) ในกรณีที่โดนความชื้นจากน้ำเพียงเล็กน้อยอาจนำมาวางในที่ร่ม เพื่อไล่ความชื้น
5 อุปกรณ์กู้สีบ้านพังให้สวยปังดังเดิม
ฝนตก พายุเข้า ฝนสาด น้ำขัง น้ำเข้าบ้าน นอกจากจะทำให้ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ในบ้านเสียหายแล้ว ยังเป็นภัยร้ายทำลายสีบ้านที่อาจก่อปัญหาทั้งรอยราดำบริเวณผนัง หรือสีบวม พอง พอแห้งแล้วก็แตกร้าวไม่เรียบเนียนสวยเหมือนเดิม หรือบางบ้านที่แม้ไม่โดนน้ำท่วม ก็อาจได้รับความชื้นจนสีบ้านพังได้เช่นกัน สำหรับเครื่องมือที่ต้องเตรียมเพื่อซ่อมแซมสีบ้านที่เสียหายหลังน้ำท่วมมีดังนี้
PUMPKIN เกียงโป้วสีสแตนเลสอย่างดี PTT-PTK3/ 28173
ตัวช่วยขูดสีผนังที่หลุดลอกลอกออกก่อนเตรียมผนังเพื่อทาสีใหม่
PUMPKIN PRO ชุดด้ามจับฟองน้ำกระดาษทรายรุ่นด้ามหมุนแพ็ค3ก้อน PRO-3PSR/ 30407
ขัดผนังให้เรียบเนียนเพื่อให้พร้อมต่อการซ่อมแซม
PUMPKIN PRO เทป+พลาสติกกันเปื้อนอเนกประสงค์(30mx55cm) PRO-T30M55/ 30405
คลุมไว้อุ่นใจกว่า ช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์และพื้นเลอะระหว่างทาสี