แชร์ไปที่

บล็อคกระแทกไร้สาย PUMPKIN มีกี่รุ่น

ถ้าพูดถึงเครื่องมือที่ช่างตัวจริงต้องมีติดตัวไว้ บล็อกกระแทกไร้สาย (Cordless Impact Wrench) น่าจะเป็นหนึ่งในไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลย เพราะมันช่วยให้การขันหรือคลายสกรู-น็อตที่แน่นๆ เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องออกแรงเยอะเหมือนเมื่อก่อน แถมยังใช้งานได้สะดวกเพราะไม่มีสายไฟให้เกะกะ ขึ้นที่สูงก็คล่องตัว งานซ่อมรถ งานโครงสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานติดตั้งเครื่องจักร บล็อกกระแทกไร้สายช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นแบบสุดๆ

บล็อกกระแทกไร้สายต่างจากไขควงกระแทกไร้สายอย่างไร? แล้วมันเหมาะกับงานแบบไหน? ถ้าจะซื้อมาใช้ต้องดูอะไรบ้าง? วันนี้พัมคินมาเล่าให้ฟังแบบไม่มีกัํก รวมถึงการเลือกบล็อกกระแทกไร้สายรุ่นไหนให้เหมาะกับงานของคุณ บทความนี้มีคำตอบ

บล็อกกระแทกไร้สายทำงานอย่างไร 

บล็อกกระแทกไร้สายทำงานโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนกลไกภายในที่สร้างแรงบิดสูง ผ่านกระบวนการ “กระแทกเป็นจังหวะ” ซึ่งช่วยเพิ่มแรงบิดแบบเฉียบพลัน ทำให้สามารถขันและคลายน็อตที่แน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการนี้แตกต่างจากไขควงกระแทกไร้สาย (Impact Driver) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับสกรูหรืองานไม้เป็นหลัก

บล็อกกระแทกไร้สายต่างจากไขควงกระแทกไรสายอย่างไร

ไขควงกระแทกไร้สาย จะใช้หัวจับแบบหกเหลี่ยม 1/4 นิ้ว (Hex Shank) ออกแบบมาเพื่อขันสกรูและสลักเกลียวขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ และงานติดตั้งที่ต้องการความแม่นยำมากกว่าความแข็งแรงของแรงบิด ส่วน บล็อกกระแทกไร้สาย จะใช้หัวจับขนาด 1/2 นิ้ว (Square Drive) รองรับลูกบล็อกสำหรับขันน็อตขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงบิดสูง เช่น งานซ่อมยานยนต์ งานก่อสร้าง และการบำรุงรักษาเครื่องจักรหนัก

งานแบบไหนที่ต้องใช้บล็อกกระแทกไร้สาย

งานซ่อมบำรุงยานยนต์และเครื่องจักรกลหนัก

บล็อกกระแทกไร้สายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในงานซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรม เนื่องจากสามารถขันและคลายน็อตที่แน่นได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่น็อตจะเสียหายจากการใช้แรงที่มากเกินไป

งานก่อสร้างและโครงสร้างโลหะ

ในงานติดตั้งโครงสร้างเหล็ก บล็อกกระแทกไร้สายช่วยให้การขันน็อตขนาดใหญ่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเวลาการทำงาน และเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง

งานติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบเครื่องกล

งานระบบ เช่น งานติดตั้งท่อ งานซ่อมบำรุงเครื่องจักร และงานประกอบโครงสร้างที่ต้องการความแน่นหนาของน็อต บล็อกกระแทกไร้สายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถให้แรงบิดสูงได้โดยไม่ต้องใช้แรงมือมาก

งานภาคสนามและพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟ

ความสามารถในการทำงานแบบไร้สายทำให้บล็อกกระแทกไร้สายเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับงานภาคสนาม เช่น การซ่อมบำรุงนอกสถานที่ หรือในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง

ปัจจัยสำคัญในการเลือกบล็อกกระแทกไร้สาย

จะซื้อบล็อกกระแทกไร้สายสักเครื่องต้องคำนึงถึงเรื่องใกบ้าง นี่คือสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

แรงบิด (Torque)

แรงบิดเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา บล็อกกระแทกที่มีแรงบิดสูงเหมาะสำหรับงานหนัก เช่น งานเครื่องจักรกลและงานโครงสร้างเหล็ก ส่วนแรงบิดระดับปานกลางเหมาะกับงานซ่อมบำรุงยานยนต์ ยิ่งแรงบิดสูง ยิ่งขันน็อตใหญ่ๆ ได้ง่ายขึ้น งานรถยนต์ใช้ประมาณ 300-600 นิวตันเมตร แต่ถ้างานหนักมากๆ อย่างเครื่องจักรหรือโครงสร้างเหล็ก อาจต้องใช้แรงบิด 800-1000 นิวตันเมตรขึ้นไป

ขนาดและน้ำหนัก

บล็อกกระแทกที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาจะช่วยให้ทำงานในพื้นที่แคบหรือในงานที่ต้องถือเครื่องมือเป็นเวลานานได้สะดวกขึ้น บล็อกกระแทกไร้สายบางรุ่นออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการทำงานในที่แคยหรือบนที่สูว

ขนาดหัวจับดอก (Drive Size)

  • 1/2 นิ้ว: เหมาะสำหรับงานทั่วไป รวมถึงงานซ่อมรถยนต์และงานติดตั้งทั่วไป

  • 3/4 นิ้ว – 1 นิ้ว: เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงบิดสูง เช่น งานก่อสร้างสะพาน หรือการซ่อมบำรุงเครื่องจักรขนาดใหญ่

ระบบควบคุมความเร็วและโหมดการทำงาน

การเลือกบล็อกกระแทกไร้สาย รุ่นที่มีการปรับระดับความเร็ว/ แรงบิดได้หลายระดับช่วยให้สามารถเลือกแรงบิดที่เหมาะสมกับแต่ละงานได้ ช่วยลดความเสี่ยงของการขันน็อตแน่นเกินไปจนเกิดความเสียหาย

ระบบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

เนื่องจากบล็อกกระแทกไร้สายเป็นเครื่องมือที่ต้องใช้แรงบิดสูงในการทำงาน เมื่อการขันเกิดติดขัด อาจมีแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อหัวบล็อกหมุนย้อนเร็วเกินไป จึงควรเลือกบล็อกกระแทกไร้สายที่มีระบบป้องกันอาการข้อมือบิดหรือแรงสะท้อนกลับ (Reaction Torque) ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน

บล็อกกระแทกไร้สายเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างมากในงานช่างยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในงานที่ต้องการแรงบิดสูงและความรวดเร็วในการขัน-คลายน็อต ไม่ว่าจะเป็นงานซ่อมบำรุงยานยนต์ งานโครงสร้าง งานเครื่องจักร หรือการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ หากเลือกบล็อกกระแทกที่เหมาะสมกับลักษณะงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการทำงานได้

บล็อกกระแทกไร้สาย 20V ของพัมคิน รุ่นไหนเหมาะกับงานของคุณ

ปัจจุบัน PUMPKIN ได้วางจำหน่ายบล็อกกระแทกไร้สาย 20V ทั้งหมด 3 รุ่น ในพิกัดแรงบิดสูงสุดที่ 450 Nm , 800 Nm และ 1000 Nm ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งานของคุณ โดยข้อมูลของสินค้าแต่ละรุ่นมีดังนี้

PUMPKIN บล็อกกระแทกไร้สาย 20V รุ่น INF-34IWCB10

มอเตอร์: ไร้แปรงถ่าน (Brushless)

ขนาดหัวจับดอก: 3/4 นิ้ว

ความเร็วรอบหมุนเปล่า: 1,000 / 1,400 / 1,800 รอบต่อนาที

อัตรากระแทก: 1,250 / 1,400 / 2,250 ครั้งต่อนาที

โหมดปรับความเร็ว: 3 Speed – 600 Nm / 800 Nm / 1,000 Nm

แรงบิดสูงสุด:  1,000 นิวตันเมตร

เหมาะสำหรับ: งานหนักที่ต้องการแรงบิดสูงมากกว่าปกติ อู่รถยนต์ อู่รถอุตสาหกรรมต่าง ๆ รถแม็คโคร แทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว งานอู่ต่อเรืองานซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่ งานที่ใช้ลูกบล็อก ขนาด 32 มม. ขึ้นไป

PUMPKIN บล็อกกระแทกไร้สาย 20V รุ่น INF-12IWCB8

มอเตอร์: ไร้แปรงถ่าน (Brushless)

ขนาดหัวจับดอก: 1/2 นิ้ว

ความเร็วรอบหมุนเปล่า: 1,500/1,900/2,400 รอบต่อนาที

อัตรากระแทก: 1,500/1,900/2,400 ครั้งต่อนาที

โหมดปรับความเร็ว: 3 Speed – 800 Nm / 500 Nm / 300 Nm

แรงบิดสูงสุด: 800 นิวตันเมตร

เหมาะสำหรับ: งานหนักที่ต้องการแรงบิดสูง เช่น งานก่อสร้าง งานประกอบโครงสร้างเหล็ก และงานที่ต้องการความทนทานและประสิทธิภาพสูง ด้วยแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ทำให้สามารถรับมือกับงานที่ต้องการแรงขันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

PUMPKIN บล็อกกระแทกไร้สาย 20V รุ่น INF-12IWCB

มอเตอร์: ไร้แปรงถ่าน (Brushless)

ขนาดหัวจับดอก: 1/2 นิ้ว

ความเร็วรอบหมุนเปล่า: 1,850/2,450 รอบต่อนาที

อัตรากระแทก: 2,500/3,500 ครั้งต่อนาที

โหมดปรับความเร็ว: 2 Speed – 450 Nm / 220 Nm

แรงบิดสูงสุด: 450 นิวตันเมตร

เหมาะสำหรับ: งานซ่อมบำรุงทั่วไป งานประกอบชิ้นส่วน งานในอู่ซ่อมรถยนต์ และงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง ด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำให้เหมาะกับการขันและคลายสลักเกลียวขนาดกลางถึงใหญ่

ซึ่งทั้งสามรุ่น มีคุณสมบัติที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในงานขันและคลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างขณะทำงาน และยังมีระบบ Auto Stop Reverse Rotation ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยป้องกันน็อตหลุดตก หยุดการหมุนอัตโนมัติทันทีที่น็อตถูกคลายออกหมด ป้องกันไม่ให้น็อตหล่นหายหรือเด้งออกจากตำแหน่งป้องกันน็อตหลุดตก โดยเมื่อลดความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนจะกระเด็นหรือเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องขันหรือคลายในพื้นที่แคบ จากนั้นเซ็นเซอร์จะคอยตรวจจับแรงต้าน (Torque) และความเร็วรอบ (RPM) ของน็อตที่กำลังหมุนออก หากน็อตยังติดแน่น แรงบิดจะยังทำงานเต็มที่ เมื่อระบบตรวจพบว่าแรงต้านลดลงอย่างรวดเร็ว (แสดงว่าน็อตถูกคลายออกหมด) ระบบจะ หยุดการหมุนอัตโนมัติทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น็อตหลุดตก ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ช่างมืออาชีพทำงานสะดวกขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำชิ้นส่วนหล่นหาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงหรือประกอบชิ้นงาน

และทั้งหมดก็คือสาระเกี่ยวกับบล็อกกระแทกไร้สายที่เรารวบรวมมาให้คุณ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการเลือกบล็อกกระแทกไร้สายให้เหมาะสม เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากบล็อกกระแทกไร้สายแล้ว PUMPKIN ครบทุกเรื่องเครื่องมือช่าง ยังมีสินค้ามากกว่า 6,000 รายการเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคุณ


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.