ความแตกต่างระหว่าง เครื่องตัดหญ้า เครื่องยนต์ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ
เครื่องตัดหญ้า ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินมีอยู่หลักๆ 2 ประเภท คือ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (2-stroke) และ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (4-stroke) ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีหลักการทำงานและคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ผู้ใช้งานหลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหนดีจึงจะเหมาะกับงานของตน
บทความนี้จะอธิบายข้อดี-ข้อเสีย จุดเด่น ข้อจำกัดของเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะและ 4 จังหวะ โดยเปรียบเทียบในประเด็นสำคัญ เช่น น้ำหนักเสียงของเครื่อง เสียงดัง-เงียบ การสั่นสะเทือน การประหยัดน้ำมัน ความง่ายในการซ่อมบำรุง และลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีหัวข้อย่อยพิเศษเกี่ยวกับการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงและการดูแลรักษาเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะกับ 4 จังหวะว่าต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณเข้าใจการบำรุงรักษาเครื่องตัดหญ้าแต่ละประเภทได้ดียิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยการพาไปทำความรู้จักกับเครื่องตัดหญ้ารุ่นใหม่จากแบรนด์ PUMPKIN 2 รุ่น คือ เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ รุ่น PTT-XT411 และเครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะ รุ่น PTT-XTGX35 เจาะลึกจุดเด่นและฟีเจอร์สำคัญของแต่ละรุ่น ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้าที่ตอบโจทย์งานของคุณได้ง่ายขึ้น
เครื่องตัดหญ้าเครื่องยนต์ 2 จังหวะ
ข้อดีและจุดเด่น
เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (2T) เป็นระบบที่พบได้ทั่วไปในเครื่องตัดหญ้าสะพายหลังหลายยี่ห้อ เนื่องจากมีโครงสร้างภายในที่เรียบง่ายกว่าระบบ 4 จังหวะ เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะมีจุดเด่นหลายประการ ได้แก่
- กำลังต่อน้ำหนักสูง: เครื่องยนต์ 2 จังหวะไม่มีชุดวาล์วกลไก ทำให้การส่งกำลังถึงใบตัดเกิดขึ้นรวดเร็ว และให้พลังงานสูงเมื่อเทียบกับขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน กล่าวคือ เครื่อง 2T ขนาดเท่าๆ กันสามารถให้กำลังมากกว่าเครื่อง 4T ได้เกือบสองเท่า ดังนั้นจึงตัดหญ้าได้รวดเร็วและเหมาะกับงานตัดหญ้าหนาแน่นหรืองานหนักในเรือกสวนไร่นา
- น้ำหนักเบาและคล่องตัว: ด้วยชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่น้อยกว่า (ไม่มีวาล์ว กระเดื่อง และกลไกซับซ้อนอื่นๆ) ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบากว่าเครื่อง 4 จังหวะอย่างเห็นได้ชัด ผู้ใช้สามารถสะพายและควบคุมเครื่องได้นานโดยไม่เมื่อยล้ามาก เหมาะกับการตัดหญ้าพื้นที่กว้างหรืองานที่ต้องสะพายนานๆ
- โครงสร้างง่าย บำรุงรักษาง่าย: เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะมีระบบเครื่องยนต์ที่เรียบง่าย อุปกรณ์และอะไหล่ภายในมีจำนวนน้อย ทำให้การซ่อมบำรุงทำได้ง่ายกว่าและมีโอกาสเสียหายน้อยชิ้นกว่า อีกทั้งอะไหล่และชิ้นส่วนหาซื้อได้ทั่วไป ราคาค่อนข้างถูก ช่างทั่วไปก็สามารถซ่อมบำรุงได้ไม่ยาก
ข้อจำกัดและข้อเสีย
แม้จะมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะก็มีข้อจำกัดที่ควรทราบ ได้แก่
- ต้องผสมออโต้ลูบกับน้ำมันเชื้อเพลิง: เครื่องยนต์ 2T จำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซินที่ผสมกับน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (เรียกว่า น้ำมันออโต้ลูบ 2T) ทุกครั้งที่เติม ซึ่งอัตราส่วนผสมต้องแม่นยำ (เช่น 25:1 หรือ 40:1 ตามคู่มือของรุ่นนั้นๆ) หากผสมไม่ถูกต้อง เครื่องอาจเกิดความสึกหรอหรือจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ การเตรียมน้ำมันผสมจึงเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการใช้งาน (น้ำมัน 2T มีราคาสูงกว่าน้ำมันเบนซิน)
- ใช้น้ำมันมากกว่าและก่อมลพิษสูง: เครื่อง 2 จังหวะมีการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ 100% ในทุกรอบการทำงาน ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า และมีไอเสียออกมาเป็นควันมาก เครื่องจะส่งเสียงดังและมีกลิ่นควันจากการเผาไหม้น้ำมัน 2T ที่ระเหยออกมาในอากาศ ซึ่งเป็นข้อเสียในแง่สิ่งแวดล้อมและสุขภาพผู้ใช้หากสูดดมควันนาน ๆ
- ความร้อนสะสมและการใช้งานต่อเนื่อง: ด้วยการที่ต้องเผาไหม้ในทุกจังหวะขึ้นลงของลูกสูบ เครื่อง 2T จะเกิดความร้อนสะสมสูง หากใช้งานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป เครื่องอาจร้อนจัดจนกำลังตกลง ผู้ผลิตหลายรายแนะนำว่าไม่ควรเดินเครื่อง 2 จังหวะติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป ควรมีการพักเครื่องเป็นระยะเพื่อยืดอายุการใช้งาน (อย่างไรก็ตาม เครื่องตัดหญ้า 2T จาก PUMPKIN ได้ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ออกแบบเพื่อลดปัญหานี้)
- ชิ้นส่วนสึกหรอง่ายกว่า: เพราะการทำงานที่รอบสูงและการหล่อลื่นที่เกิดจากน้ำมันผสมซึ่งอาจไม่ทั่วถึงเท่าระบบแยกน้ำมัน เครื่อง 2T จึงมีบางชิ้นส่วนที่สึกหรอไวกว่า เช่น แหวนลูกสูบ ลูกปืนข้อเหวี่ยง เป็นต้น ต้องคอยตรวจสอบและเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา แต่โชคดีที่อะไหล่มีราคาถูกและหาได้ง่ายตามท้องตลาด
เสียงดังและสั่นมากกว่า: โดยธรรมชาติของการจุดระเบิดทุกรอบการหมุนของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่อง 2T ส่งเสียงดังและเกิดการสั่นสะเทือนมากกว่าเครื่อง 4T ผู้ใช้ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันเสียง หรือที่ครอบหู และพักมือเป็นระยะเพื่อลดความเมื่อยล้า
เครื่องตัดหญ้าเครื่องยนต์ 4 จังหวะ
ข้อดีและจุดเด่น
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (4T) เป็นระบบที่นิยมใช้ในเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น (เช่น รถตัดหญ้านั่งขับ หรือเครื่องยนต์การเกษตรอื่นๆ) แต่ปัจจุบันก็มีการนำมาทำเครื่องตัดหญ้าสะพายหลายรุ่นเช่นกัน เครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะมีข้อดีที่โดดเด่น ดังนี้
- เสียงเครื่องเงียบและสั่นน้อยกว่า: ด้วยการทำงานเผาไหม้ทุกๆ สองรอบการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง ทำให้เครื่องยนต์ 4T มีความนุ่มนวลกว่า เสียงไม่ดังจัดจ้านเหมือนเครื่อง 2T การสั่นสะเทือนขณะเดินเครื่องก็ต่ำกว่า ผู้ใช้จึงรู้สึกสบายกว่าเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน เหมาะกับการตัดหญ้าในบริเวณใกล้บ้านหรือชุมชนที่ไม่ต้องการให้เสียงดังรบกวนมาก
- ไม่ต้องผสมน้ำมันเชื้อเพลิง: จุดเด่นสำคัญของเครื่อง 4 จังหวะคือ ใช้น้ำมันเบนซินเพียว ๆ ไม่ต้องผสมออโต้ลูบ เพราะเครื่องมีระบบหล่อลื่นแยกภายใน (มีอ่างน้ำมันเครื่อง) ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมาก เติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากปั๊มได้ทันที ไม่ต้องคอยตวงผสมให้ยุ่งยาก ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการผสมน้ำมันไม่ถูกอัตรา
- ประหยัดน้ำมันและปล่อยมลพิษน้อยกว่า: เครื่องยนต์ 4T เผาไหม้เชื้อเพลิงได้หมดจดกว่าระบบ 2T จึงใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าสำหรับงานเท่ากัน ช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว นอกจากนี้ไอเสียจะสะอาดกว่า ไม่มีควันน้ำมัน 2T เพราะใช้น้ำมันเครื่องแยกต่างหาก ลดมลพิษทางอากาศและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้ใช้งานก็ไม่ต้องสูดดมควันมากเหมือนเครื่อง 2T
- เครื่องยนต์ทนทาน อายุการใช้งานยาว: การหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพและการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่อง 4 จังหวะสึกหรอน้อยลง เครื่องโดยรวมมักมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเครื่อง 2 จังหวะ เมื่อบำรุงรักษาตามระยะอย่างเหมาะสม เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด
เดินเครื่องต่อเนื่องได้ดี: เครื่อง 4T สามารถทำงานต่อเนื่องได้นานกว่าโดยไม่ต้องหยุดพักบ่อย เนื่องจากระบบระบายความร้อนและการหล่อลื่นมีประสิทธิภาพ ความร้อนสะสมไม่สูงเท่า 2T ทำให้ลดปัญหาเครื่องดับหรือกำลังตกเมื่อเครื่องร้อนจัด จึงเหมาะกับงานที่ต้องใช้เวลานาน ๆ หรือในวันที่อากาศร้อน
เหมาะกับงานที่ต้องระวังเรื่องสุขภาพและเสียง: หากคุณต้องทำงานใกล้บ้าน ใกล้ชุมชน หรือกังวลเรื่องสุขภาพจากการสูดควัน เครื่อง 4 จังหวะจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะเงียบกว่าและมลพิษต่ำกว่า
ข้อจำกัดและข้อเสีย
แม้เครื่อง 4 จังหวะจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียบางประการ ดังนี้
- น้ำหนักมากขึ้น: โครงสร้างเครื่อง 4T ซับซ้อนและมีชิ้นส่วนมากกว่า (เช่น วาล์ว เพลากลาง กลไกวาล์ว และอ่างน้ำมันเครื่อง) จึงมีน้ำหนักตัวเครื่องมากกว่าเครื่อง 2T อย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้ใช้อาจรู้สึกเมื่อยล้าเร็วขึ้นเมื่อต้องสะพายทำงานนาน ๆ อย่างไรก็ตาม เครื่องตัดหญ้า 4T จาก PUMPKIN ได้ออกแบบสายสะพายและด้ามจับให้รับน้ำหนักได้ดีขึ้นเพื่อช่วยผ่อนแรงผู้ใช้งาน
- กำลังเครื่องต่อขนาดต่ำกว่า: เมื่อเทียบขนาดซีซีเท่ากัน เครื่อง 4T มักให้กำลังหรือแรงม้าน้อยกว่า 2T เล็กน้อย เพราะสูญเสียพลังงานไปกับกลไกมากกว่า ดังนั้นการเร่งความเร็วใบตัดอาจช้ากว่า และอาจตัดหญ้าหนาแน่นได้ช้ากว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเครื่อง 2T ขนาดเดียวกัน แต่จุดนี้มักไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในงานทั่วไป เพราะเครื่อง 4T จาก PUMPKIN ออกแบบให้สามารถให้กำลังเพียงพอสำหรับการตัดหญ้าทั่วไปได้สบาย
- โครงสร้างซับซ้อน บำรุงรักษามากขึ้น: มีชิ้นส่วนภายในมากกว่า ทำให้ต้องการการดูแลมากขึ้น เช่น ต้องหมั่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนถ่ายตามระยะ ตรวจวาล์วและระบบต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

การผสมน้ำมันเชื้อเพลิงและการดูแลรักษา เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ vs 4 จังหวะต่างกันอย่างไร
ดังที่กล่าวมาในหัวข้อก่อนหน้านี้ เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะต้องใช้น้ำมันเบนซินผสมกับน้ำมันออโต้ลูบ 2T ก่อนนำไปใช้งานทุกครั้ง การผสมต้องทำอย่างถูกต้องตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับเครื่องตัดหญ้าแต่ละรุ่น ถ้าน้ำมัน 2T มากเกินไป เครื่องจะเกิดควันเยอะ หัวเทียนและท่อไอเสียจะมีเขม่าสะสม ถ้าน้อยเกินไป เครื่องจะหล่อลื่นไม่พอ ส่งผลให้ลูกสูบและกระบอกสูบสึกหรอหรือเกิดความร้อนจัดจนเครื่องพังได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรมีขวดผสมที่มีมาตรวัดสำหรับตวงน้ำมันช่วยให้ผสมได้แม่นยำ ส่วนเครื่อง 4 จังหวะนั้นง่ายกว่า ไม่ต้องผสมอะไรทั้งสิ้น แค่เติมน้ำมันเบนซินลงถังเชื้อเพลิงก็พร้อมใช้งานทันที ช่วยประหยัดเวลาขั้นเตรียมก่อนใช้งานไปได้มาก
ในด้านการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เครื่อง 2T มีจุดสำคัญคือการดูแลระบบเชื้อเพลิงผสมน้ำมัน ผู้ใช้ต้องคอยสังเกต หัวเทียนอยู่เสมอ เนื่องจากถ้าผสมน้ำมัน 2T เข้มไป หัวเทียนอาจบอดมีเขม่า ทำให้เครื่องสตาร์ทยาก ควรถอดออกมาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่เมื่อเริ่มสตาร์ทยาก และควรใช้น้ำมัน 2T คุณภาพดีเพื่อลดเขม่า นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาด กรองอากาศ บ่อยๆ เพราะคราบน้ำมันและฝุ่นอาจอุดตันได้ ส่วนการดูแลอื่นๆ เช่น การอัดจาระบีที่ชุดหัวเกียร์ตรงใบมีด ควรทำทุกประมาณ 25 ชั่วโมงการทำงาน เพื่อรักษาการหล่อลื่นของเฟืองท้าย (ใช้จาระบีทนความร้อนเติมที่จุดหัวเฟือง)
สำหรับเครื่อง 4T สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การดูแลน้ำมันเครื่อง ให้คอยตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในเกณฑ์เสมอ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามคู่มือ (เช่น ทุกๆ 50 ชั่วโมงหรือทุก 3-6 เดือน) เพื่อป้องกันเครื่องยนต์สึกหรอ นอกจากนี้ก็คล้ายกับ 2T คือทำความสะอาดกรองอากาศ, หัวเทียน, และอัดจาระบีที่หัวเกียร์ตามระยะเวลา
หากไม่ได้ใช้งานเครื่องตัดหญ้าเป็นเวลานาน ควรถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกทั้งใน 2T และ 4T เพราะน้ำมันเบนซินเสื่อมคุณภาพเมื่อทิ้งไว้นานเกิน 3 เดือน และอาจอุดตันระบบคาร์บูเรเตอร์ได้ สำหรับเครื่อง 2T เมื่อเลิกใช้งานอาจปิดก๊อกน้ำมันแล้วเร่งเครื่องให้เบนซินผสมที่เหลือถูกใช้จนหมดเครื่องดับเอง เพื่อป้องกันน้ำมันผสมค้างในคาร์บูเรเตอร์ ส่วน 4T ก็เช่นกัน ปิดก๊อกน้ำมันและติดเครื่องทิ้งไว้จนดับ หลังจากนั้นควรเก็บเครื่องในที่ร่ม แห้ง และอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงความชื้นเพื่อลดการเกิดสนิม และควรสตาร์ทเครื่องวอร์มเป็นระยะ เพื่อให้เครื่องยนต์ได้ขยับหล่อลื่นอยู่เสมอ
เครื่องตัดหญ้า เครื่องยนต์ 2 จังหวะ หรือ 4 จังหวะ แบบไหนที่เหมาะกับงานของคุณ
เมื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียข้างต้น การเลือกเครื่องตัดหญ้าแบบ 2 จังหวะหรือ 4 จังหวะขึ้นอยู่กับลักษณะงานและความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อดังนี้
หากคุณต้องการเครื่องที่พลังสูง น้ำหนักเบา และงานของคุณคือการตัดหญ้าในสวนหรือไร่พื้นที่กว้าง ไม่ติดปัญหาเรื่องควันหรือเสียงดังมาก เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ ตอบโจทย์ได้ดี เพราะคุณจะได้เครื่องแรงที่คุ้มค่ากับงบประมาณ สามารถซ่อมบำรุงเองได้ง่าย แต่ก็ต้องแลกกับการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงทุกครั้งและหมั่นพักเครื่องไม่ให้ร้อนเกินไป
หากงานของคุณอยู่ใกล้บ้านหรือชุมชน ต้องระวังเรื่องเสียงและมลพิษ หรือคุณไม่ต้องการความยุ่งยากในการผสมน้ำมัน รวมถึงอยากได้เครื่องที่ทนทานใช้งานยาวๆ แม้ราคาสูงกว่า เครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะเดินเครื่องได้นิ่งเงียบ ประหยัดน้ำมันกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องการผสมน้ำมันผิดสัดส่วน การบำรุงรักษาก็เพียงแค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดก็พร้อมใช้งานเสมอ
เพื่อช่วยให้เห็นภาพยิ่งขึ้น ในส่วนต่อไปเราจะแนะนำเครื่องตัดหญ้า 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ PUMPKIN ซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งระบบ 2 จังหวะและ 4 จังหวะ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นและฟีเจอร์อะไรบ้าง เหมาะกับงานแบบไหน ไปดูกันเลย
เครื่องตัดหญ้า PUMPKIN : XTREME ตอบโจทย์ทุกความต้องการทำงานของคุณ
เจาะลึกเครื่องตัดหญ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่นจาก PUMPKIN ซีรี่ส์ XTREME ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนัก ทนทาน และมีฟีเจอร์ทันสมัย จุดแข็งและการใช้งานที่เหมาะสมของแต่ละรุ่นมีดังนี้

เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ PUMPKIN รุ่น PTT-XT411 – รอบจัด ตัดไว ร้อนแค่ไหนก็ไม่ดับ
XT411 คือเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่าที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2 จังหวะ โดดเด่นด้วยขนาดเครื่อง 40.2 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 1.45 กิโลวัตต์ (ประมาณ 2 แรงม้า) ที่รอบเครื่องประมาณ 8500 รอบต่อนาที จัดว่าเป็นเครื่อง 2T ที่กำลังแรง เหมาะสำหรับงานตัดหญ้าหนาแน่นหรือวัชพืชที่มีลำต้นใหญ่ ฟีเจอร์สำคัญและจุดเด่นของรุ่นนี้ ได้แก่
ระบบ EASY START (ลานสตาร์ทเบา): รุ่น XT411 มาพร้อมชุดเชือกดึงสตาร์ทออกแบบพิเศษที่ช่วยผ่อนแรงขณะดึง เชือกไม่กระตุกติดขัด ผู้ใช้ดึงเชือกเพียงไม่กี่ครั้งเครื่องก็ติดได้อย่างง่ายดาย ลดปัญหาเครื่องสตาร์ทยากเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า นอกจากนี้ยังมีการปรับจูนคาร์บูเรเตอร์มาอย่างดี ทำให้ติดเครื่องได้รวดเร็วและเดินเบานิ่ง
คลัตช์คุณภาพสูง (Heavy Duty Clutch): ภายในใช้ชุดคลัตช์แบบแรงเหวี่ยงอัตโนมัติที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีโลหะผง (Powder Metallurgy) ให้ผ้าคลัตช์ที่หนาและทนทาน การจับยึดของคลัตช์ทำได้แน่นหนาไม่ลื่นไถล ส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังใบตัดได้เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้นาน เหมาะกับงานตัดหญ้าหนักๆ ที่ต้องการความทนทาน
ระบบคาร์บูเรเตอร์และเครื่องยนต์สมรรถนะสูง: PTT-XT411 ใช้คาร์บูเรเตอร์ชนิดลูกลอยคุณภาพสูง จ่ายน้ำมันแม่นยำ ช่วยให้เครื่องเดินเรียบในทุกช่วงรอบ เครื่องยนต์ถูกออกแบบให้ระบายความร้อนได้ดี แม้จะเป็นระบบ 2T แต่เครื่องรุ่นนี้สามารถทำงานต่อเนื่องได้นานโดยเครื่องไม่ดับเมื่อร้อนจัด นอกจากนั้นยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์เบนซินได้หลายชนิด เช่น แก๊สโซฮอล์ 91, 95 หรือเบนซิน 91, 95 โดยผสมกับน้ำมัน 2T อัตราส่วน 25:1
ชุดอุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้งาน: ในกล่องของ XT411 มีการให้อุปกรณ์มาตรฐานมาอย่างครบครัน ประกอบด้วย ใบมีดตัดหญ้าแบบจานกลมขนาด 12-14 นิ้ว 1 ใบ (สำหรับงานตัดหญ้าทั่วไปและงานตัดวัชพืชเนื้อแข็ง), สายสะพายบ่าแบบมาตรฐาน 1 ชุด ที่ช่วยกระจายน้ำหนักเครื่องเวลาสะพาย, ขวดสำหรับผสมน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ใบ มีขีดบอกระดับเพื่อให้ตวงน้ำมันเบนซินกับออโต้ลูบได้อย่างแม่นยำ, และ ชุดเครื่องมือพื้นฐาน 1 ชุด (เช่น ประแจบ๊อกถอดหัวเทียน ประแจหกเหลี่ยม ไขควง) พร้อมถุงเก็บ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถประกอบติดตั้งอุปกรณ์และบำรุงรักษาเบื้องต้นได้ทันที
โครงสร้างแข็งแรงและปลอดภัย: ตัวก้านเครื่องผลิตจากเหล็กคุณภาพดี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28 มม. พร้อมแกนเพลาแบบ 9 ฟัน แข็งแรงไม่บิดงอง่าย หัวเกียร์ที่ปลายก้าน (ชุดเฟืองขับใบมีด) เป็นหัวเกียร์ขนาดใหญ่ทำจากวัสดุเกรดสูง ทนต่อแรงเสียดสีของงานหนัก ช่วยให้การหมุนของใบมีดทรงพลังสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมี การ์ดใบมีดขนาดใหญ่ ช่วยป้องกันเศษหญ้าหรือหินดีดใส่ผู้ใช้งานเพิ่มความปลอดภัย และด้ามจับ (แฮนด์จับ) ออกแบบตามสรีระ จับถนัดมือ พร้อมหุ้มวัสดุกันกระแทก ลดการสั่นสะเทือนที่ส่งมายังมือผู้ใช้
ความจุถังเชื้อเพลิงและน้ำหนัก: ถังน้ำมันเชื้อเพลิงแบบติดบนของรุ่นนี้จุได้ 0.85 ลิตร เพียงพอสำหรับการทำงานต่อเนื่องได้นานพอสมควรต่อการเติมหนึ่งครั้ง ตัวเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม จัดว่าอยู่ในเกณฑ์เบาสำหรับเครื่องยนต์ขนาด 40 ซีซี ทำให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องได้ง่าย
เครื่องตัดหญ้า รุ่น PTT-XT411 เหมาะกับงานหลากหลายทั้งงานบ้านและงานสวน เช่น การตัดหญ้าสนามหญ้าขนาดกลางถึงใหญ่ ที่หญ้าขึ้นรกเร็ว, การตัดวัชพืชในพื้นที่การเกษตรหรือริมไร่นา, ตลอดจนการถางหญ้าหรือกอวัชพืชหนา ๆ ที่ต้องการพลังเครื่องสูง รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาเครื่อง 2 จังหวะกำลังแรง คุ้มค่าราคา และซ่อมบำรุงง่าย โดยยังได้คุณภาพและความทนทานจากแบรนด์ PUMPKIN มีระบบสตาร์ทง่ายช่วยลดแรงเหนื่อย เหมาะทั้งกับช่างสวนมืออาชีพและเจ้าของบ้านที่ต้องการดูแลสวนเอง

เครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะ PUMPKIN รุ่น PTT-XTGX35 – เครื่องเบา สตาร์ทง่าย ไม่ต้องยุ่งยากผสมน้ำมัน
XTGX35 เป็นเครื่องตัดหญ้าแบบ 4 จังหวะ ในซีรี่ส์ XTREME โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 จังหวะขนาด 35.8 ซีซี ซึ่งเทียบเท่ากับมาตรฐานเครื่อง Honda GX35 ที่เป็นที่รู้จัก เครื่องรุ่นนี้ให้กำลังสูงสุดประมาณ 1.0 กิโลวัตต์ (1.3 แรงม้า) ที่รอบเครื่องประมาณ 7,500 รอบต่อนาที การออกแบบมุ่งเน้นความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องผสมน้ำมัน และลดเสียงรบกวน จุดเด่นสำคัญของรุ่น XTGX35 มีดังนี้
เครื่องยนต์ 4 จังหวะแท้ ไม่ต้องผสมน้ำมัน 2T: หัวใจหลักของรุ่นนี้คือเครื่องยนต์ 4T ที่มีระบบวาล์วเหนือสูบ (OHV) ในตัว ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องผสมออโต้ลูบกับน้ำมันเบนซินอีกต่อไป เพียงเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 หรือเบนซินลงถังเชื้อเพลิงก็ใช้งานได้ทันที ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 0.88 ลิตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการตัดหญ้าทั่วไปหลายสิบนาทีต่อการเติมหนึ่งครั้ง ความสะดวกนี้ลดภาระการเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิง และยังช่วยให้เครื่องเผาไหม้สะอาด ไอเสียปราศจากควันขาวจากน้ำมัน 2T
ระบบ EASY START และสตาร์ทติดง่าย: แม้จะเป็นเครื่อง 4T ที่มีอุปกรณ์มากขึ้น แต่ PUMPKIN ได้ติดตั้งระบบ EASY START ให้กับรุ่น XTGX35 ด้วย ชุดเชือกดึงสตาร์ทได้รับการออกแบบให้หมุนเครื่องยนต์ด้วยแรงต้านที่น้อยลง ผู้ใช้สามารถดึงเชือกสตาร์ทได้เบาแรง เครื่องติดง่ายไม่ต้องกระชากแรงหลายครั้ง นอกจากนี้คาร์บูเรเตอร์ได้รับการจูนมาอย่างดี ทำให้สตาร์ทตอนเครื่องเย็นได้ไม่ยาก เพียงปั๊มเชื้อเพลิงและดึงเชือกไม่กี่ทีเครื่องก็เดินได้อย่างราบรื่น
เดินเครื่องนิ่ม เสียงเบา และสั่นสะเทือนต่ำ: จุดแข็งของเครื่อง 4T รุ่นนี้คือความเงียบและการสั่นต่ำ เมื่อเครื่องติดจะสัมผัสได้ว่าเสียงเครื่องเงียบกว่าเครื่อง 2T อย่างมาก เสียงท่อไอเสียไม่ดังแสบแก้วหู สามารถใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็นใกล้บ้านโดยไม่รบกวนเพื่อนบ้านมาก การสั่นสะเทือนของด้ามจับก็น้อย ทำให้ควบคุมใบตัดได้อย่างแม่นยำและมือไม่ชาแม้ใช้งานต่อเนื่องนานๆ ในภาพรวม รุ่น XTGX35 เน้นการใช้งานที่สบายและลดความเหนื่อยล้าของผู้ใช้เป็นสำคัญ
ชุดเกียร์และเพลาขับคุณภาพสูง: แม้จะเป็นเครื่อง 4 จังหวะ แต่โครงสร้างส่วนก้านและหัวเกียร์ยังคงแข็งแรงสมกับซีรี่ส์ XTREME ก้านเพลาขับทำจากเหล็กเกรดดีเส้นผ่านศูนย์กลาง 28 มม. พร้อมแกนเพลา 9 ฟันมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ทนแรงบิดสูง หัวเกียร์ (gearbox) ปลายก้านมีขนาดใหญ่ พักตัวเฟืองทำจากวัสดุคุณภาพ รองรับความเร็วรอบและแรงบิดของเครื่องได้เต็มที่ ส่งกำลังสู่ใบมีดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทนทานต่อการสึกหรอ
- อุปกรณ์เสริมมาตรฐานพร้อมใช้งาน: เช่นเดียวกับรุ่น 2T เครื่องตัดหญ้า PUMPKIN XTGX35 ให้อุปกรณ์มาครบชุด ประกอบด้วย ใบมีดตัดหญ้าแบบวงเดือน 1 ใบ (สำหรับตัดหญ้าและกิ่งวัชพืชขนาดเล็ก), สายสะพายบ่า 1 ชุด ที่รองรับน้ำหนักเครื่องให้ผู้ใช้สะพายได้สมดุล, กรวยเติมน้ำมันเชื้อเพลิง 1 อัน เพื่อช่วยรินเติมน้ำมันเบนซินลงถังได้สะดวกโดยไม่หกเลอะ (เนื่องจากรุ่นนี้ไม่ต้องมีขวดผสมออโต้ลูบแล้ว), และ ชุดเครื่องมือพื้นฐานพร้อมซอง เช่นเดียวกับรุ่น XT411 ช่วยในการประกอบและบำรุงรักษาเครื่อง
วัสดุและความทนทาน: รุ่น XTGX35 ใช้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์คุณภาพสูง ตั้งแต่ คาร์บูเรเตอร์ระดับเกรดอุตสาหกรรม, กระบอกสูบและลูกสูบที่ผลิตด้วยความปราณีต, ไปจนถึงชุดคอยล์จุดระเบิดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เครื่องเดินเรียบและอายุใช้งานยาวนาน ทาง PUMPKIN เคลมว่าเครื่องสามารถทำงานต่อเนื่องได้นานโดยไม่ดับกลางคันเมื่อเครื่องร้อน ช่วยเพิ่มความต่อเนื่องในงานตัดหญ้าพื้นที่ใหญ่
เครื่องตัดหญ้ารุ่น PTT-XTGX35 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกและสบายสูงสุดในการตัดหญ้า เช่น การดูแลสนามหญ้ารอบบ้านหรือสวนหย่อม ที่ต้องทำเป็นประจำ, งานตัดหญ้าในเขตที่อยู่อาศัยที่ต้องการเครื่องเงียบและไม่ปล่อยควันรบกวนเพื่อนบ้าน, หรือผู้สูงอายุ/ผู้ที่ไม่อยากยุ่งยากกับการผสมน้ำมันและต้องการเครื่องที่สตาร์ทง่าย ใช้งานง่าย นอกจากนี้ ด้วยความทนทานและระบบเกียร์แข็งแรง รุ่นนี้จึงสามารถใช้ในงานสวนหรือไร่ขนาดกลางได้ดีเช่นกัน เครื่องเดินเรียบไม่สะดุดแม้ใช้งานต่อเนื่องนาน ทำให้ประสิทธิภาพการตัดหญ้าสูงอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้ไม่ต้องหยุดพักเครื่องบ่อย ๆ
PUMPKIN ครบทุกเรื่องเครื่องมือช่าง ได้พัฒนาเครื่องตัดหญ้าคุณภาพสูง ทั้ง PTT-XT411 และ PTT-XTGX35 โดยออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการพลังแรงสุดคุ้มและคล่องตัวอาจถูกใจกับรุ่น 2 จังหวะ XT411 ส่วนผู้ที่เน้นความสะดวก เงียบ และใช้งานง่ายก็น่าจะชื่นชอบรุ่น 4 จังหวะ XTGX35 ไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องยนต์แบบใด PUMPKIN ก็ได้ใส่ใจเรื่องคุณภาพวัสดุและความปลอดภัยมาให้อย่างเต็มที่ หวังว่าข้อมูลเปรียบเทียบและการแนะนำรุ่นใหม่ทั้งสองนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าเครื่องตัดหญ้าแบบไหนเหมาะกับงานของคุณ และเลือกรุ่นที่ตอบสนองความต้องการได้มากที่สุด