อย่าเพิ่งซื้อ สว่านแบต ถ้ายังไม่ได้อ่านบทความนี้
ในปัจจุบัน “สว่านไร้สาย” ถือเป็นเครื่องมือช่างสามัญที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งหลายคนเรียกติดปากว่า สว่านแบต หรือ สว่านแบตเตอรี่ ด้วยจุดเด่นเรื่องความคล่องตัวที่เหนือกว่าสว่านไฟฟ้าแบบมีสาย สามารถพกพาไปใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องต่อปลั๊กไฟให้ยุ่งยาก
บทความนี้เราจะพาไปรู้จักความสำคัญของสว่านไร้สายสำหรับงานช่าง เปรียบเทียบสว่านไร้สายชนิดต่าง ๆ วิธีเลือกสว่านแบตที่เหมาะกับงานของคุณ ตลอดจนเหตุผลที่ควรเลือกสว่านไร้สายคุณภาพจากแบรนด์ PUMPKIN พร้อมส่องไลน์อัปรุ่นเด่นแห่งปี 2025 ในกลุ่มสว่านแบตของ PUMPKIN ทั้งพิกัด 12V, 16V และ 20V อย่างครบถ้วน
สว่านไร้สาย สว่านแบต เครื่องมือสำคัญสำหรับงานช่าง
สว่านไร้สายเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญมากสำหรับช่างมืออาชีพและงาน DIY เนื่องจากให้ความสะดวกและคล่องตัวสูง เมื่อเทียบกับสว่านไฟฟ้าแบบมีสายที่ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลา สว่านแบตไม่ต้องพึ่งพาแหล่งจ่ายไฟภายนอก จึงหยิบไปใช้งานได้ทุกที่ แม้ในบริเวณที่ไม่มีปลั๊กไฟหรือไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เช่น บนหลังคาบ้าน หน้างานก่อสร้างกลางแจ้ง หรือพื้นที่แคบๆ ในมุมอับของตัวอาคาร ก็สามารถเจาะยึดชิ้นงานได้โดยไม่ต้องคอยระวังสายไฟให้เกะกะ ประโยชน์ข้อนี้ทำให้สว่านไร้สายกลายเป็นเครื่องมือช่างที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ทั้งในหมู่ช่างมืออาชีพและเจ้าของบ้านทั่วไป
นอกจากความสะดวกในการพกพา สว่านแบตเตอรี่ ยังมีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้สว่านไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่ Li-ion เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งมีกระแสไฟคงที่ นิ่งและเรียบ ทำให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาไฟตกหรือไฟเกินมากวนใจ เทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมอเตอร์ชนิดไร้แปรงถ่าน (Brushless) ที่ให้พลังงานสูงขึ้นในขนาดตัวเครื่องที่เล็กลง และทนทานกว่ามอเตอร์แบบแปรงถ่านทั่วไป ส่งผลให้สว่านไร้สายรุ่นใหม่ๆ มีทั้งขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่กำลังเหลือเฟือสำหรับงานเจาะขันหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้การทำงานของช่างง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และปลอดภัยขึ้น ไม่ว่าจะใช้ในงานก่อสร้าง ซ่อมบำรุง หรืองานประดิษฐ์ DIY ก็ตาม การเลือกสว่านแบตให้เหมาะสมกับงานยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการทำงานได้อย่างมากอีกด้วย
เลือก สว่านแบต แบบไหนดี แบบธรรมดา หรือแบบมีโหมดกระแทก
สว่านไร้สายธรรมดา (Cordless Drill) จะเน้นการเจาะโดยอาศัยแรงบิดหมุนของดอกสว่านเป็นหลัก เครื่องจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนส่งกำลังไปยังดอกสว่านเพื่อเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ โลหะ หรือพลาสติก สว่านประเภทนี้ไม่มีแรงกระแทกเสริมเข้ามาในแนวดิ่งขณะเจาะ จึงไม่เหมาะกับการเจาะผนังคอนกรีตหรืออิฐปูน อย่างไรก็ตาม สว่านไร้สายทั่วไปมักมีชุดเกียร์ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ (ความเร็วต่ำ-แรงบิดสูง และความเร็วสูง-แรงบิดต่ำ) และมีคลัตช์ปรับตั้งค่าแรงบิดได้หลายระดับ (เช่น 16+1 หรือ 18+1 ระดับ) เพื่อควบคุมแรงบิดไม่ให้สูงเกินไปเวลาขันสกรูหรือน็อต ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้หัวสกรูหวานหรือวัสดุเสียหายจากแรงที่มากเกินไป
นอกจากนี้ยังสามารถปรับหมุนซ้าย/ขวา (เดินหน้าและถอยหลัง) สำหรับงานขันหรือคลายสกรูได้ตามต้องการ สว่านไร้สายแบบธรรมดาจึงเหมาะกับงานเจาะวัสดุทั่วไปที่ไม่แข็งมาก เช่น งานเจาะไม้แผ่น โลหะบาง พลาสติก ประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ งาน DIY ทั่วไป รวมถึงงานขันสกรูยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน แต่จะไม่สามารถใช้เจาะวัสดุก่อสร้างแข็งๆ อย่างคอนกรีตหรือปูนได้เนื่องจากไม่มีระบบกระแทกช่วยเจาะนั่นเอง
สว่านกระแทกไร้สาย (Cordless Hammer Drill) จะมีระบบเสริมที่เรียกว่า “Hammer Action” หรือกลไกกระแทกในแนวดิ่งควบคู่กับการหมุนของดอกสว่าน เมื่อเปิดโหมดกระแทก มอเตอร์จะขับชุดลูกเบี้ยวหรือเฟืองกระแทกภายในเครื่อง เพื่อสร้างแรงตอกกระแทกเป็นจังหวะเร็วๆ คล้ายการตอกสกัดขนาดเล็กขณะดอกสว่านหมุนไปด้วย ส่งผลให้สามารถเจาะวัสดุที่แข็งและเปราะอย่างอิฐ ปูน หรือคอนกรีตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าสว่านไร้สายธรรมดา โดยสว่านกระแทกไร้สายส่วนใหญ่อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเปิดหรือปิดโหมดกระแทกได้ตามต้องการ (เมื่อไม่ต้องการก็ใช้เป็นสว่านปกติ) สว่านกระแทกไร้สายจึงตอบโจทย์งานเจาะยึดในงานก่อสร้าง หรือติดตั้งโครงสร้างที่มีวัสดุก่อสร้างประเภทอิฐ-ปูนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การติดตั้งพุกยึดผนังคอนกรีต แขวนโคมไฟบนเพดานปูน เจาะผนังก่ออิฐเพื่อเดินท่อสายไฟ ฯลฯ นอกจากนั้นยังใช้งานกับวัสดุทั่วไปอย่างไม้หรือโลหะได้เหมือนสว่านปกติด้วย
โดยสรุป สว่านไร้สายและสว่านกระแทกไร้สายแม้จะจัดอยู่ในตระกูลสว่านไร้สายเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในระบบการทำงานและลักษณะงานที่เหมาะสม สว่านไร้สายธรรมดาเหมาะกับงานเจาะทั่วไปและงานขันสกรูในบ้าน ส่วนสว่านกระแทกไร้สายเหมาะกับงานเจาะวัสดุก่อสร้างแข็ง ๆ อย่างอิฐ ปูน และคอนกรีต เป็นต้น ซึ่งแบรนด์ PUMPKIN เองก็มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกครบทั้งสองประเภท เพื่อตอบโจทย์งานช่างทุกรูปแบบ ทั้งในพิกัดแรงดันแบตเตอรี่ 12V, 16V และ 20V ตามความต้องการของผู้ใช้
เลือกสว่านแบตอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
เมื่อตัดสินใจจะซื้อสว่านแบตสักเครื่อง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของคุณมากที่สุด หลักการเลือกสว่านไร้สาย มีปัจจัยสำคัญหลายด้านที่ควรพิจารณาดังนี้
ประเภทของงานที่ใช้งานจริง
ก่อนอื่นให้ประเมินงานหลักที่คุณจะใช้สว่าน เช่น งานเบาในบ้าน (เจาะชั้นวาง ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ขันน็อตทั่วไป) หรือ งานหนักระดับก่อสร้าง/งานช่างมืออาชีพ (เจาะคอนกรีต โครงสร้างเหล็ก ขันสกรูขนาดใหญ่) หากเป็นงานเบาทั่วไป สว่านแบต 12V ซึ่งมีขนาดเล็กน้ำหนักเบาก็เพียงพอและคล่องตัวกว่า แต่ถ้าเป็นงานช่างที่หนักขึ้นหรือต้องการกำลังมาก เช่น เจาะปูนหรือโครงเหล็กหนา ก็ควรเลือก สว่านแบต 20V ที่มีกำลังสูงและรองรับงานหนักได้ดีกว่า ส่วนกรณีที่ต้องการความลงตัวระหว่างขนาดและพลังงาน สว่านแบต 16V ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีขนาดกะทัดรัดใกล้เคียง 12V แต่ได้แรงบิดสูงขึ้นใกล้เคียงรุ่น 20V ในบางรุ่น
ความจำเป็นในการใช้งานโหมดกระแทก
พิจารณาว่างานของคุณจำเป็นต้องเจาะวัสดุก่อสร้าง (ปูน, อิฐ, คอนกรีต) บ่อยแค่ไหน หากใช่ ควรเลือก สว่านกระแทกไร้สาย ที่มีระบบ Hammer Drill ในตัว เพื่อให้การเจาะผนังหรือปูนเป็นเรื่องง่ายและไม่กินแรง แต่หากการใช้งานของคุณจำกัดแค่งานไม้ งานโลหะบาง และงานขันสกรูทั่วไป สว่านไร้สายธรรมดา (ไม่มีระบบกระแทก) ก็อาจเพียงพอและประหยัดงบประมาณกว่า
แรงดันแบตเตอรี่และแรงบิดสูงสุด
ค่าการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ เช่น 12V, 16V, 20V มักสัมพันธ์กับแรงบิด (Torque) และพลังในการเจาะของสว่าน รุ่นที่แรงดันสูงกว่ามักให้แรงบิดสูงกว่า สามารถเจาะวัสดุหนาและขันสกรูใหญ่ได้ง่ายกว่า แต่ ก็มาพร้อมขนาดและน้ำหนักที่มากขึ้น เลือกแรงดันที่เหมาะสมโดยชั่งน้ำหนักระหว่างความคล่องตัวกับความแรงของงานที่ต้องทำ เช่น ถ้าต้องปีนบันไดทำงานเหนือศีรษะนาน ๆ สว่าน 12V ที่เบากว่าจะช่วยลดความเมื่อยล้า แต่ถ้าต้องเจาะคอนกรีตเยอะ ๆ 20V จะทำงานได้เร็วกว่ามาก
ชนิดของมอเตอร์และฟีเจอร์เสริม
สว่านแบต ในปัจจุบันมีทั้งรุ่นที่ใช้มอเตอร์แปรงถ่าน (Brushed) และมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน (Brushless) ให้เลือก รุ่นมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน จะมีข้อดีคือให้แรงหมุนสูงกว่า ความร้อนสะสมต่ำกว่า อายุใช้งานยาวนานกว่า เพราะไม่มีการเสียดสีของแปรงถ่านภายใน อีกทั้งมักมาพร้อมวงจรควบคุมอัจฉริยะที่ช่วยจ่ายพลังงานคงที่เต็มประสิทธิภาพและป้องกันแบตเตอรี่ไปในตัว แต่ก็มีราคาสูงกว่ารุ่นมอเตอร์ธรรมดา
หากงบประมาณเอื้อและต้องการความทนทาน แนะนำให้เลือกสว่านแบตแบบ Brushless สำหรับงานหนักหรือใช้งานประจำจะคุ้มค่ากว่า ในขณะที่รุ่น Brushed ก็เพียงพอกับงานไม่หนักมากและราคาย่อมเยากว่า นอกจากนี้อย่าลืมดูฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ เช่น จำนวนเกียร์ความเร็ว (ควรมี 2 ระดับขึ้นไปเพื่อความอเนกประสงค์), ระดับการปรับคลัตช์ความแรง (มีอย่างน้อย 15-20 ระดับขึ้นไปจะดี), ไฟ LED ส่องพื้นที่ทำงาน, ระบบป้องกันการสะบัดกลับ (Kickback Protection) เป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน
ทำไมต้องเลือกสว่านไร้สายและสว่านกระแทกไร้สาย จากพัมคิน
PUMPKIN ได้พัฒนาสินค้ากลุ่ม สว่านแบตเตอรี่ ให้ครอบคลุมทุกการใช้งานของผู้ใช้ ตั้งแต่รุ่นเล็ก 12V สำหรับงานซ่อมแซมทั่วไปภายในบ้าน ไปจนถึงรุ่นใหญ่ 20V เกรดงานหนักสำหรับมืออาชีพ รวมถึงมีซีรี่ส์ระดับกลาง 16V Compact ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องขนาดที่เล็กลงแต่มีกำลังเจาะสูง เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่ผู้ใช้งานอีกด้วย
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้สว่านแบต PUMPKIN น่าใช้นั้น นอกจากจะอยู่ที่การมีรุ่นสินค้าให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังอยู่ที่เทคโนโลยีอันทันสมัยที่ถูกใส่มาอย่างจัดเต็มในรุ่นต่าง ๆ อาทิ การนำมอเตอร์ Brushless ไร้แปรงถ่าน มาใช้ในสว่านแบต 20V และ 16V แทบทุกรุ่น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเจาะและยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือให้ยาวนานขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนแปรงถ่านบ่อย ๆ และลดปัญหาความร้อนสะสมขณะใช้งานหนัก
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบแผงวงจรควบคุมอัจฉริยะที่คอยสื่อสารระหว่างตัวเครื่องกับแพ็คแบตเตอรี่ ช่วยจ่ายพลังงานได้คงที่สม่ำเสมอ ป้องกันการจ่ายไฟเกินหรือลัดวงจร ทำให้เครื่องมือทำงานได้เต็มกำลังและช่วยถนอมแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมเร็ว
อีกหนึ่งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ PUMPKIN ภาคภูมิใจคือระบบ Kickback Stop หรือระบบป้องกันการสะบัดกลับอย่างรุนแรงขณะเจาะ ซึ่งติดตั้งอยู่ในสว่านกระแทกไร้สายเกรดมืออาชีพบางรุ่น เช่น รุ่นท็อป INF-13IMDB15 แรงบิด 150Nm ระบบนี้จะตรวจจับการกระตุกสะบัดผิดปกติเมื่อดอกสว่านเจาะติดวัสดุแข็งและเกิดแรงดีดกลับ จากนั้นเครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติในเสี้ยววินาทีเพื่อลดแรงสะบัด ไม่ให้ตัวเครื่องสะบัดกลับมาหาผู้ใช้ อันช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่มือ แขน หรือใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่อง LINE–UP สุดยอดสว่านแบตแห่งปี 2025 จาก PUMPKIN
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า PUMPKIN มีสว่านไร้สายให้เลือกหลายรุ่นหลายระดับแรงดัน เรามาสรุปไฮไลท์สุดยอดสว่านแบตเตอรี่ของปี 2025 จาก PUMPKIN ในแต่ละระดับกัน ดังนี้ โดยจะแบ่งเป็นกลุ่ม 12V, 16V Compact และ 20V Infinity Power Share ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็มีตัวชูโรงที่โดดเด่นในแบบของตน

สว่านแบต 12V จาก PUMPKIN เล็กพริกขี้หนู ครบครันเกินตัว
สว่านไร้สาย 12V เป็นสว่านขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย และเหมาะกับงานเบาถึงปานกลาง โดยมีแรงบิดและกำลังไฟที่เพียงพอสำหรับงานทั่วไปในบ้านและงาน DIY รวมถึงงานสำหรับช่างมืออาชีพที่โดยปกติไม่ได้ต้องการเจาะงานหนักหรือต้องการแรงบิดที่สูง งานเจาะไม้ เช่น แผ่นไม้อัด ไม้ MDF หรือไม้เนื้ออ่อน หรือเจาะโลหะบาง เช่น อะลูมิเนียม แผ่นเหล็กบาง , งานประกอบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ใช้ขันสกรู ติดตั้งชั้นวางของ โต๊ะ ตู้ และเก้าอี้ ใช้งานร่วมกับพุกพลาสติกเพื่อยึดของเบา ๆ บนผนังไม้หรือยิปซัม ไปจนถึงการขัน/คลายสกรูและน็อต เช่น งานติดตั้งบานพับ ตู้ครัว โคมไฟ และงานเจาะผนังเบา เช่น ติดตั้งตะขอแขวนรูป กระจก ชั้นวางของขนาดเล็ก
ในกลุ่มสว่านแบต 12V PUMPKIN ขึ้นชื่อเรื่องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับงาน DIY และงานซ่อมแซมทั่วไป ภายในบ้านเป็นหลัก แต่แม้ตัวจะเล็กก็อัดแน่นด้วยฟังก์ชันมาตรฐานที่ช่างต้องการมาอย่างครบถ้วน
สว่านไร้สาย และสว่านกระแทกไร้สาย 12V จากพัมคินนั้น มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน โดยมีทั้งแบบที่ใช้แบตเตอรี่ใส่สว่านแนวตั้ง และแบบเสียบแนวนอน มีให้เลือกทั้งมอเตอร์แบบแปรงถ่านและแบบไร้แปรงถ่าน และแม้จะเป็นสว่านในพิกัดเล็ก แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการปรับตั้งแรงบิด/ การปรับซ้าย-ขวา / ไฟส่องสว่างขณะใช้งาน เรียกได้ว่าครบเครื่อง คุ้มค่า ในราคาเอื้อมถึงง่าย นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นตรงขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา

สว่านแบต 16V PUMPKIN XTREME กะทัดรัดแต่ทรงพลัง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Xtreme 16V Compact Series จาก PUMPKIN เป็นไลน์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการสว่านไร้สายกำลังสูงขึ้นกว่ารุ่น 12V แต่ยังคงขนาดเล็กกระทัดรัด จับถนัดมือ มาพร้อมมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน จุดเด่นของซีรีส์นี้คือขนาดหัวจับดอกเล็กลงเหลือ 10 มม. ทำให้ตัวเครื่องบาลานซ์ดีในมือ แต่สมรรถนะเกินตัวเพราะเป็นระบบ Brushless Motor ที่ให้แรงบิดสูงและทนทาน
สำหรับผู้ที่ต้องทำงานขันสกรูจำนวนมาก เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์หรือช่างประกอบโครงสร้างโลหะ PUMPKIN ยังมี ไขควงกระแทกไร้สาย 16V รุ่น XT-1416IDBL (แรงบิดสูงสุดถึง 160 Nm) จับดอกไขควงหกเหลี่ยม 1/4″ พร้อมระบบกระแทกสำหรับขันสกรู/โบลท์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้คู่กับสว่าน 16V ข้างต้นเป็นชุด Combo ที่เสริมประสิทธิภาพกันและกันในการทำงาน ช่วยให้งานทั้งการเจาะและการขันเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สว่านแบต 20V PUMPKIN INFINITY POWER ขุมพลังแห่งประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ
มาถึงไลน์อัพพี่ใหญ่ตัวท็อป ทุกรุ่นในกลุ่มนี้มาพร้อมมอเตอร์ Brushless เต็มระบบ และใช้แบตเตอรี่ลิเทียม 20V ความโดดเด่นของสว่านแบต 20V คือกำลังและสมรรถนะที่สูง เหมาะสำหรับงานระดับมืออาชีพหรืองาน HEAVY DUTY อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นงานเจาะไม้เนื้อแข็งหนาๆ งานเจาะโลหะแผ่นหนาหรือสแตนเลส งานขันโบลท์ขนาดใหญ่ ตลอดจนงานเจาะติดตั้งพุกในผนังคอนกรีตหรือปูนแดงหนา ๆ ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สว่านแบต 20V ของ PUMPKIN มีให้เลือกทั้งรุ่นสว่านไร้สาย (ไม่มีโหมดกระแทก)สำหรับงานเจาะทั่วไปที่ต้องแรงบิดสูงเป็นพิเศษ และรุ่นสว่านกระแทกไร้สายที่เพิ่มโหมด Hammer สำหรับงานเจาะปูนโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกให้เหมาะกับลักษณะงานของตน
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นเป็นสินค้าในซีรีส์ INFINITY POWER SHARE 20V ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ P20 และ X20 ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ทางพัมคินพิถีพิถันในการผลิต การเลือกแหล่งจ่ายพลังงานที่มีคุณภาพ ซึ่งทำให้สามารถใช้งานกับตัวเครื่องได้อย่างเสถียร ซึ่งมีข้อดีที่สำคัญคือสามารถนำไปใช้งานร่วมกับเครื่องมือรุ่นใดก็ได้ของพัมคินที่อยู่ในซีรีส์ INFINITY POWER SHARE ด้วยกัน นอกจากนั้นยังสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยเพราะมีระบบ overcharge
สิ่งที่เสริมให้สว่านไร้สายและสว่านกระแทกไร้สาย 20V ของพัมคินมีความครบเครื่องก็คือฟังก์ชันเสริมเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการปรับความเร็วรอบได้ , ปรับตั้งแรงบิดได้, สามารถปรับสวิตช์ซ้าย-ขวาได้ นอกจากนั้นยังให้ไฟส่องสว่างขณะใช้งานเพื่อการใช้งานในที่มืดได้ดีอีกด้วย
เลือกได้ทั้งแบบครบชุดและเครื่องเปล่า สว่านไร้สายและสว่านกระแทกไร้สาย 20V จากพัมคินนั้น มีจำหน่ายทั้งแบบเครื่องเปล่า สำหรับแบบชุดจะประกอบด้วยแบตเตอรี่ 20V, แท่นชาร์จ , อุปกรณ์เสริมในชุด มาในกล่อง Stacking แข็งแรง ทนทาน สามารถต่อประกอบกับกล่องเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของพัมคินได้ และสามารถต่อประกอบกับกล่องเปล่าพัมคินในซีรีส์ Xtreme ทั้งไซส์ L และไซส์ M และถ้าใครมีแบตเตอรี่ 20V จากเครื่องมือรุ่นอื่น ๆ ทั้งรุ่น P20 และ X20 ก็สามารถนำมาใช้งานกับสว่านไร้สาย 20V ของพัมคินได้ทุกรุ่น
การเลือกซื้อสว่านแบตเตอรี่สักเครื่องควรเริ่มจากการประเมินความต้องการและลักษณะงานของตนเอง แล้วเลือกประเภทและรุ่นที่เหมาะสมที่สุด ปัจจุบัน PUMPKIN มีไลน์สินค้า สว่านไร้สาย/สว่านกระแทกไร้สาย ให้เลือกครบครันทุกระดับตั้งแต่ 12V, 16V ไปจนถึง 20V แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวตามที่ได้รีวิวไปข้างต้น หากคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความคล่องตัวสูง 12V ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หากต้องการพลังมากขึ้นในเครื่องเล็ก 16V Xtreme ก็ลงตัว หรือถ้าต้องการแรงสุดขีดสำหรับงานหนัก 20V ก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์
สว่านแบตที่เหมาะสมจะกลายเป็นเสมือน “ผู้ช่วยคู่ใจ” ของช่าง ที่ช่วยให้งานเสร็จไว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ดังนั้นอย่าลืมพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้านก่อนตัดสินใจซื้อ และที่สำคัญคือ เลือกสว่านแบตเตอรี่คุณภาพสูงจาก PUMPKIN เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุณจะได้เครื่องมือที่คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และใช้งานได้ยาวนาน