เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับงานสวน
เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย ไอเทมคู่ใจของคนรักสวนยุคใหม่ ช่วยให้การแต่งพุ่มไม้เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องออกแรงมากเหมือนกรรไกรตัดกิ่งแบบเดิม โดบ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ก็มีให้เลือกกันถึง 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกและเปรียบเทียบคุณสมบัติสำคัญของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นใบมีดตรง 12 นิ้ว, รุ่นใบมีดโค้ง 14 นิ้ว และรุ่นใบมีดตรง 20 นิ้ว เพื่อช่วยให้คุณค้นหา “คู่แท้” สำหรับงานสวนของคุณได้อย่างตรงใจ
ประเภทมอเตอร์และระบบแบตเตอรี่ของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN
เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทั้งสามรุ่นใช้เทคโนโลยีมอเตอร์ Brushless แบบ Outer Rotor หรือมอเตอร์ไร้แปรงถ่านที่โรเตอร์อยู่ด้านนอก ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและทนทานกว่ามอเตอร์แบบมีแปรงถ่านทั่วไป ระบบมอเตอร์นี้ให้แรงบิดคงที่และกำลังหมุนต่อเนื่องแม้ในงานหนัก ช่วยให้ใบมีดตัดกิ่งได้อย่างมีพลังและไม่สะดุด อีกทั้งยังลดการสึกหรอของมอเตอร์ ทำให้อายุการใช้งานยาวนานและดูแลรักษาง่าย
ในด้านแหล่งพลังงาน ทั้งสามรุ่นใช้ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 20V ในระบบ Infinity Power Share ของ PUMPKIN ได้ทั้งรุ่น P20 และ X20 ที่สามารถถอดเปลี่ยนใช้งานร่วมกับเครื่องมือไร้สายอื่น ๆ ของ PUMPKIN ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นสว่าน เลื่อย หรือเครื่องมือช่างชนิดอื่น การมีแบตเตอรี่ระบบร่วมนี้หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้อแบตเตอรี่ใหม่ทุกครั้งเมื่อซื้อเครื่องมือเพิ่ม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกในการจัดการแบตเตอรี่
นอกจากนี้ PUMPKIN ยังมีแบตเตอรี่หลายขนาดความจุให้เลือก ตามระยะเวลาการใช้งานที่ต้องการ ยิ่งความจุ (Ah) สูง เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ก็จะใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งรอบ เหมาะสำหรับงานที่ใช้เวลาตัดนานหรือสวนขนาดใหญ่
รูปแบบและความยาวใบมีดของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN
รูปแบบของใบมีด (ตรงหรือโค้ง) เป็นจุดต่างสำคัญที่ส่งผลต่อรูปแบบการตัดแต่งพุ่มไม้ของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN แต่ละรุ่น
- รุ่นใบมีดตรง 12 นิ้ว (INF-S12CHB) ใช้ใบมีดทรงตรง ความยาวใบมีด 12 นิ้ว เหมาะกับงานตกแต่งพุ่มไม้ทั่วไปและการตัดแนวตรงหรือแนวเรียบ เช่น การเล็มพุ่มเตี้ยริมรั้ว หรือการแต่งกิ่งไม้พุ่มทรงเหลี่ยม ใบมีดตรงช่วยให้ควบคุมแนวตัดได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแม่นยำในการแต่งทรงพุ่มไม้เรียบ ๆ
- รุ่นใบมีดโค้ง 14 นิ้ว (INF-C14CHB) มีใบมีดทรงโค้งยาว 14 นิ้ว ความโค้งของใบมีดถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรวบกิ่งไม้เข้าหาใบมีดขณะตัด ทำให้การตัดแต่งกิ่งและใบเป็นไปอย่างประณีตและเรียบเนียนมากขึ้น ใบโค้งช่วยให้การทำพุ่มทรงกลมหรือทรงโค้งง่ายขึ้น โดยสามารถตัดแต่งพุ่มไม้ให้ได้ทรงโค้งมนสวยงามตามต้องการ รุ่นนี้เหมาะสำหรับงานตกแต่งพุ่มไม้ดอกไม้หรือพุ่มไม้ประดับที่ต้องการรายละเอียดสูง เช่น การทำทรงพุ่มกลม พุ่มกรวย หรือรูปทรงตามจินตนาการต่างๆ นอกจากนี้ใบโค้งยังช่วยให้ตัดกิ่งที่อยู่ลึกหรือซับซ้อนได้ถนัดขึ้น เพราะใบมีดจะโอบล้อมกิ่งไว้บางส่วน ลดโอกาสที่กิ่งจะดีดหนีขณะตัด
- รุ่นใบมีดตรง 20 นิ้ว (INF-S20CH) ใช้ใบมีดทรงตรงความยาวมากเป็นพิเศษถึง 20 นิ้ว เหมาะอย่างยิ่งกับงานตัดแต่งพุ่มไม้พื้นที่กว้างหรือแนวรั้วยาวๆ ในแต่ละช่วงการกวาดตัดจะครอบคลุมพื้นที่มาก ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในการแต่งพุ่มไม้ใหญ่หรือแนวยาว เช่น การตัดเล็มแนวกำแพงต้นไม้หรือตัดแต่งแนวรั้วยาวโดยรอบสวน ใบมีดตรง 20 นิ้วนี้สามารถเข้าถึงพุ่มไม้สูงหรือลึกได้มากกว่า ทำให้ไม่ต้องขยับตำแหน่งบ่อย ๆ ในการเล็มพุ่มไม้ใหญ่ แต่ด้วยความยาวใบมีดที่มาก ผู้ใช้จำเป็นต้องควบคุมเครื่องให้มั่นคงสองมือเพื่อความแม่นยำในการตัด
ฟันใบมีดและขนาดการตัดกิ่ง
ฟันใบมีดของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย ทั้งสามรุ่นถูกออกแบบมาแตกต่างกันเล็กน้อย ส่งผลต่อขนาดกิ่งสูงสุดที่สามารถตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ระยะห่างระหว่างฟัน (ช่องฟัน): รุ่น 12 นิ้วมีระยะห่างฟันประมาณ 19 มม., รุ่น 14 นิ้วกว้างขึ้นเป็น 25 มม. ส่วนรุ่น 20 นิ้วช่องฟันประมาณ 16 มม. ระยะฟันที่กว้างขึ้นหมายถึงสามารถรองรับกิ่งไม้ที่ใหญ่ขึ้นเข้าไปในช่องฟันได้ รุ่นใบโค้ง 14 นิ้วจึงโดดเด่นเรื่องช่องฟันกว้างสุด (25 มม.) ทำให้จับและตัดกิ่งหนาได้ดี
- ความลึกและความหนาของฟัน: ฟันใบมีดของรุ่น 12 และ 14 นิ้วยาวลึกประมาณ 20-23 มม. และมีความหนาประมาณ 2.0 มม. ในขณะที่รุ่น 20 นิ้วฟันจะบางกว่าเล็กน้อยที่ความหนา 1.5 มม. และความลึกฟันประมาณ 16 มม. ฟันที่หนากว่า (ในรุ่น 12 และ 14) ให้ความแข็งแรงทนทานสูง รองรับการตัดกิ่งแข็งได้โดยไม่บิดงอง่าย ส่วนฟันบางของรุ่น 20 นิ้วช่วยลดน้ำหนักใบมีดโดยรวม ทำให้เครื่องไม่หนักจนเกินไปเมื่อใบมีดยาวมาก แต่ยังคงแข็งแรงพอสำหรับงานแต่งพุ่มไม้ทั่วไป ทั้งสามรุ่นใช้วัสดุใบมีดเป็นเหล็กกล้าคาร์บอนสูงคุณภาพสูงที่ผ่านการทำคมด้วยเลเซอร์ จึงมีความคมและทนทานต่อการใช้งาน ฟันใบมีดถูกลับคมสองด้านในลักษณะ Dual-Action (ใบมีดสองแผ่นวางซ้อนกันและเคลื่อนสวนทาง) ส่งผลให้แต่ละฟันสามารถตัดได้ทั้งขณะเดินหน้าและถอยหลังของจังหวะการเคลื่อนที่ ทำให้การตัดเร็วและสะอาด ผิวกิ่งที่ถูกตัดเรียบไม่แตกหรือเป็นขุย การออกแบบฟันคู่แบบนี้ยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนขณะใช้งาน ทำให้มือไม่ชาและควบคุมเครื่องได้ง่ายขึ้น
- ขนาดกิ่งสูงสุดที่ตัดได้: จากคุณสมบัติฟันใบมีดที่กล่าวมา ส่งผลให้ความสามารถในการตัดกิ่งของแต่ละรุ่นแตกต่างกัน รุ่นใบมีดโค้ง 14 นิ้วสามารถตัดกิ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุดได้ถึงประมาณ 20 มม. ซึ่งถือว่ามากที่สุดในสามรุ่น เนื่องจากช่องฟันกว้างและใบมีดมีความแข็งแรงสูง จึงเหมาะกับพุ่มไม้หรือกิ่งที่ค่อนข้างหนาและแข็ง ส่วนรุ่นใบตรง 12 นิ้วและ 20 นิ้วจะรองรับกิ่งได้ราว ไม่เกิน 16 มม. อย่างปลอดภัย (ประมาณ 1.6 ซม.) แม้ว่ารุ่น 20 นิ้วจะใบยาวกว่า แต่ช่องฟันแคบกว่าจึงจำกัดขนาดกิ่งที่สอดเข้าไปตัด อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริง รุ่น 20 นิ้วก็ยังสามารถจัดการกิ่งขนาด ใกล้เคียง 16 มม. ได้ต่อเนื่อง และด้วยกำลังมอเตอร์ที่สูง ผู้ผลิตระบุว่าสามารถรับมือกับกิ่งสูงสุดราว 20 มม. ได้ในบางกรณี แต่เพื่อความราบรื่นควรใช้กับกิ่งไม่เกิน 16 มม. จะดีที่สุด สำหรับรุ่น 12 นิ้ว นั้นออกแบบมาสำหรับงานตัดแต่งกิ่งเล็กๆ และพุ่มไม้ทั่วไป ขนาดกิ่งที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 มม. หรือน้อยกว่า เพื่อการตัดที่เบาแรงและรวดเร็ว
ความเร็วในการตัดและการปรับความเร็ว
ความเร็วรอบใบมีดและระบบควบคุมความเร็วเป็นอีกสิ่งที่แตกต่างใน เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN แต่ละรุ่น มีดังนี้
- ทั้งสามรุ่นใช้กลไกใบมีดคู่แบบ Dual-Action ที่เคลื่อนที่สวนทางกันด้วยความเร็วสูง ทำให้ได้อัตราการตัดหรือจังหวะการกระแทก (Stroke per Minute, SPM) ที่รวดเร็ว ส่งผลให้ตัดแต่งพุ่มไม้ได้เร็วขึ้น เครื่องรุ่น 12 นิ้วและ 14 นิ้วมีความเร็วช่วงชักสูงสุดประมาณ 3,480 ครั้งต่อนาที ในขณะที่รุ่น 20 นิ้วจะช้าลงเล็กน้อยที่ประมาณ 2,900-3,100 ครั้งต่อนาที ความเร็วช่วงชักที่สูงทำให้ใบมีดกวาดตัดกิ่งไม้อย่างต่อเนื่องและเรียบเนียน ไม่มีอาการใบมีดติดหรือชะงักเมื่อเจอกิ่งถี่ ๆ
- ความเร็วรอบของมอเตอร์ (RPM): มอเตอร์ไร้แปรงถ่านในรุ่น 12 นิ้วถูกปรับให้มีความเร็วรอบสูงสุดประมาณ 1,600 รอบต่อนาที ส่วนรุ่น 14 และ 20 นิ้วความเร็วสูงสุดจะสูงกว่าอยู่ที่ประมาณ 1,850 รอบต่อนาที ซึ่งหมายความว่ารุ่นใบมีดโค้ง 14 นิ้วและใบตรง 20 นิ้วจะมีศักยภาพการตัดที่รวดเร็วกว่ารุ่นเล็กเล็กน้อย ทั้งนี้ ความเร็วรอบที่สูงขึ้นช่วยให้ตัดกิ่งหนาได้คล่องกว่า แต่ในงานแต่งพุ่มไม้ทั่วไป ความแตกต่างนี้อาจไม่รู้สึกชัดมากนักหากใช้งานในระดับความเร็วเดียวกัน
ระบบปรับความเร็ว: เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทุกรุ่นมาพร้อมความสามารถในการปรับความเร็วการตัดให้เหมาะสมกับงานเพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
รุ่น 12 นิ้ว – มี ไกควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามน้ำหนักการกด นั่นคือสามารถกดไกเบาเพื่อใช้ความเร็วต่ำหรือกดสุดเพื่อความเร็วสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จึงปรับความเร็วได้ทันทีด้วยปลายนิ้ว เหมาะสำหรับการเล็มกิ่งเล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้ความเร็วเต็มที่ เพื่อถนอมพลังงานแบตเตอรี่
รุ่น 14 นิ้ว – มาพร้อม สวิตช์ปรับระดับความเร็วแบบหมุน ที่ตัวเครื่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าความเร็วที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้าตามลักษณะงานที่ทำ เช่น ปรับไปที่ความเร็วต่ำสำหรับการแต่งพุ่มไม้ใบอ่อนหรืองานละเอียด และปรับความเร็วสูงเมื่อจะตัดกิ่งที่หนาและแข็งกว่า การมีสวิตช์ปรับระดับช่วยให้ความเร็วคงที่ตามโหมดที่เลือก ทำให้ได้งานตัดที่สม่ำเสมอและช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพราะไม่ใช้ความเร็วสูงเกินความจำเป็น
รุ่น 20 นิ้ว – รุ่นใหญ่นี้มีแนวโน้มที่จะใช้ความเร็วสูงเป็นหลักเพื่อให้ได้พลังการตัดเต็มประสิทธิภาพ จึง ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ (High/Low) หรือเปิดปิดที่ความเร็วคงที่เดียว โดยมีการตั้งค่าความเร็วให้เหมาะกับงานทั่วไปมาให้แล้ว สำหรับงานพุ่มไม้ทั่วไปจะใช้โหมดความเร็วสูงเพื่อความรวดเร็ว แต่หากต้องการประหยัดแบตเตอรี่หรือทำงานละเอียด สามารถปรับลงโหมดความเร็วต่ำได้ ทั้งนี้รุ่น 20 นิ้วออกแบบมาเพื่อการตัดในพื้นที่กว้าง จึงคำนึงถึงพลังสูงสุดมากกว่าการใช้ความเร็วต่ำ
ในภาพรวม ทั้งสามรุ่นมีความเร็วและพลังในการตัดเพียงพอสำหรับงานสวนทั่วไป แตกต่างกันเล็กน้อยตามขนาดรุ่น แต่ทุกรุ่นก็ให้ผลงานการตัดที่รวดเร็วคมกริบไม่แพ้กัน
ระบบความปลอดภัยและระดับเสียงระหว่างใช้งาน
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ PUMPKIN ให้ความสำคัญกับเครื่องมือทุกชนิด เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สายทั้งสามรุ่นจึงมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุขณะใช้งาน ดังนี้
- ปุ่มหรือสวิตช์นิรภัย (Safety Lock) รุ่น 12 นิ้วและ 14 นิ้วมาพร้อมปุ่มเซฟตี้ล็อกบริเวณด้ามจับ ที่ต้องกดปลดล็อกก่อนจึงจะสามารถกดไกเดินเครื่องได้ ฟังก์ชันนี้ป้องกันการเปิดเครื่องโดยไม่ตั้งใจ เช่น ในกรณีที่เราบังเอิญไปเผลอบีบไกหรือเด็กมากดเล่น ปุ่มนิรภัยนี้จะต้องถูกกดค้างไว้พร้อมกับไกถึงจะเดินเครื่อง ทำให้ผู้ใช้วางใจได้ในระดับหนึ่งว่าจะไม่มีการสตาร์ทเครื่องโดยอุบัติเหตุ
- ระบบสวิตช์นิรภัยคู่ (Double Safety Switch) เฉพาะในรุ่น 20 นิ้ว ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่และมีพลังสูง รุ่นนี้จึงออกแบบให้ต้องใช้สองมือในการเปิดเครื่อง กล่าวคือจะมีสวิตช์อยู่ทั้งที่ด้ามจับหลักด้านหลังและที่มือจับเสริมด้านหน้า ผู้ใช้ต้องกดสวิตช์ทั้งสองจุดพร้อมกันเครื่องจึงจะทำงาน หากปล่อยมือจากจุดใดจุดหนึ่ง เครื่องจะหยุดทันที ระบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานเมื่อผู้ใช้ไม่ได้จับเครื่องทั้งสองมือในท่าทางพร้อมใช้งาน ลดความเสี่ยงที่เครื่องจะหลุดมือหรือไปโดนสิ่งที่ไม่ตั้งใจตัด
- แผ่นกันใบและเศษวัสดุ (Hand Guard) เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทั้งสามรุ่นจะมีแผ่นพลาสติกกันเศษอยู่ด้านหน้าตรงระหว่างด้ามจับกับใบมีด ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันมือผู้ใช้จากเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือสะเก็ดต่างๆ ที่อาจกระเด็นย้อนมาขณะตัด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมือไม่ให้เลื่อนหลุดไปโดนใบมีดอีกด้วย
- ระบบหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อปล่อยไก เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทุกรุ่นออกแบบวงจรให้หยุดการขับเคลื่อนใบมีดทันทีเมื่อผู้ใช้ปล่อยไกหรือสวิตช์ควบคุม ความเฉื่อยของใบมีดต่ำมาก ทำให้ใบมีดหยุดสนิทได้อย่างรวดเร็ว ลดโอกาสเกิดอันตรายหลังหยุดใช้งาน
- เสียงรบกวนต่ำ เนื่องจาก เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ทั้ง 3 รุ่น ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำให้มีเสียงค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์น้ำมันแบบเก่า ระดับเสียงขณะทำงานประมาณ 94 dB ในรุ่น 20 นิ้ว ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้งานในสวนได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อการได้ยินเมื่อใช้งานช่วงสั้น ๆ และรุ่นเล็กกว่าเสียงก็จะเบาลงตามกำลัง ช่วยลดมลภาวะทางเสียงและเพิ่มความปลอดภัยด้านการสื่อสาร ผู้ใช้ยังพอได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้งาน ไม่โดนเสียงเครื่องกลบจนหมด
น้ำหนักเครื่อง
น้ำหนักของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย มีผลอย่างมากต่อความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะการยกตัดพุ่มไม้ที่สูงระดับศีรษะหรือการใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ โดยรายละเอียดเรื่องน้ำหนักของแต่ละรุ่นมีดังนี้
- รุ่น 12 นิ้ว น้ำหนักเครื่องเปล่า 1.2 กิโลกรัม เบาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ทำให้สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเล็มพุ่มไม้ต่ำๆ หรือตัดแต่งกิ่งบนที่สูงระดับไหล่ก็ยกได้คล่องตัว น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ (ขนาดมาตรฐาน 2.0Ah) จะอยู่ที่ราว 1.5-1.6 กก. เท่านั้น จุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบานี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่อาจไม่ถนัดถือเครื่องหนัก หรือจำเป็นต้องใช้งานต่อเนื่องนานๆ เพราะช่วยลดความเมื่อยล้าของแขนและไหล่ได้มาก
- รุ่น 14 นิ้ว น้ำหนักเครื่องเปล่า 1.45 กิโลกรัม เมื่อใส่แบตเตอรี่รวมแล้วประมาณ 1.8-1.9 กก. จัดว่ายังเป็นเครื่องที่น้ำหนักเบาและสมดุลดี สามารถถือใช้งานมือเดียวได้เมื่อจำเป็น แต่การใช้สองมือจะให้การควบคุมที่มั่นคงกว่า รุ่นนี้ถือว่ามีน้ำหนักกลางๆ ที่ผสานข้อดีคือยังเบาพอสำหรับงานละเอียด ลดอาการล้า แต่ก็มีน้ำหนักถ่วงที่พอเหมาะช่วยให้เครื่องนิ่งขณะตัด ไม่เบาจนสะบัดง่าย
- รุ่น 20 นิ้ว ด้วยขนาดใบมีดและมอเตอร์ที่ใหญ่ขึ้น ทำให้รุ่นนี้จะมีน้ำหนักเครื่องเปล่า 3.9 กิโลกรัม ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ สามารถยกขึ้นสูงเพื่อตัดยอดพุ่มไม้หรือกวาดด้านบนของรั้วต้นไม้ได้โดยไม่เมื่อยล้ามากเกินไป หากใช้ร่วมกับสายสะพายหรือพักแขนบ้างเป็นระยะก็จะยิ่งช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น
การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics) ของ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN แต่ละรุ่นก็มีรายละเอียดที่ช่วยให้ใช้งานได้สบายและคล่องตัว โดยทุกรุ่นใช้ด้ามจับที่ออกแบบตามสรีระมือ มีการหุ้มยางกันลื่น (Soft Grip) ที่ด้ามจับหลักเพื่อให้จับได้กระชับ ไม่ลื่นหลุดง่ายเมื่อเหงื่อออก และยังช่วยซับแรงสั่นสะเทือนบางส่วนก่อนถึงมือ ลดอาการมือชาเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
ในด้านการบำรุงรักษา ตัวเครื่องทั้งสามรุ่นมี ช่องเติมจาระบีภายนอก ที่ออกแบบไว้ให้ผู้ใช้สามารถหยอดน้ำมันหล่อลื่นชุดเฟืองใบมีดได้ง่ายโดยไม่ต้องแกะเครื่องมาก และมี ฝาครอบเกียร์อะลูมิเนียม ที่แข็งแรงและถอดออกง่ายสำหรับเปลี่ยนใบมีดหรือทำความสะอาด ซ่อมบำรุงตามความจำเป็น การดูแลรักษาที่ง่ายนี้ทำให้เครื่องคงประสิทธิภาพได้นานและปลอดภัยเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
ส่วนรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นนั้น มีดังนี้
- รุ่น 20 นิ้ว มี ด้ามจับหลังที่ปรับหมุนได้ 180° ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด่นสำหรับเครื่องขนาดใหญ่ รุ่นนี้สามารถบิดหมุนด้ามจับไปล็อกที่มุมต่างๆ (เช่น 45°, 90° ซ้าย-ขวา) เพื่อให้เหมาะกับท่าทางการตัดในแนวต่างๆ ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง การหมุนด้ามช่วยให้ข้อมือของผู้ใช้อยู่ในมุมที่เป็นธรรมชาติขณะตัด ลดการเกร็งหรือบิดข้อมือในมุมอึดอัดเมื่อจะตัดพุ่มไม้ด้านข้างหรือด้านบนที่มุมเข้าถึงยาก ผลคือผู้ใช้เมื่อยน้อยลงและควบคุมทิศทางการตัดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้รุ่น 20 นิ้วยังมี ด้ามจับเสริมด้านหน้า ที่ออกแบบมาสำหรับให้มืออีกข้างจับช่วยพยุงและควบคุมเครื่องได้มั่นคงยิ่งขึ้น การจับสองมือทำให้การทรงตัวของเครื่องดี แม่นยำ และลดภาระที่มือหลักต้องรับน้ำหนักทั้งหมด
- รุ่น 12 และ 14 นิ้ว มีขนาดเครื่องเล็กกระทัดรัดและศูนย์ถ่วงบาลานซ์ดีอยู่แล้ว การออกแบบทำให้สามารถใช้มือเดียวได้เมื่อจำเป็น แต่ก็มาพร้อมมือจับด้านหน้าสำหรับการจับสองมือเช่นกันในกรณีที่ต้องการความแม่นยำหรือใช้งานนานๆ ก็สามารถจับสองมือเพื่อลดความเมื่อยล้าได้ เครื่องทั้งสองรุ่นนี้ถูกยกย่องว่าควบคุมง่าย คล่องตัวสูง สามารถสอดมือเข้าไปตัดเล็มในที่แคบหรือมุมอับของพุ่มไม้ได้สะดวก ตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะ
โดยสรุป ด้านน้ำหนักและดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN รุ่นเล็ก (12″ และ 14″) โดดเด่นที่ความเบาและจับถนัดมือ ส่วนรุ่น 20″ แม้น้ำหนักมากกว่าแต่ก็มีฟีเจอร์ช่วยผ่อนแรงอย่างด้ามหมุนและด้ามเสริม ทำให้การใช้งานเครื่องใหญ่เป็นไปอย่างสะดวกที่สุดเท่าที่จะทำได้
เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN แต่ละรุ่น เหมาะกับงานแบบไหน
หลังจากทราบรายละเอียดคุณสมบัติของเครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN แต่ละรุ่นแล้ว เรามาสรุปให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่ารุ่นใดจะเหมาะกับความต้องการลักษณะใด เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกของคุณ
- รุ่น INF-S12CHB (ใบตรง 12″) – เหมาะสำหรับงานตกแต่งพุ่มไม้ขนาดเล็กถึงกลาง ไม่ว่าจะเป็นสวนบริเวณบ้าน พุ่มไม้เตี้ยแนวรั้ว หรือไม้พุ่มตกแต่งที่กิ่งไม่ใหญ่มาก รุ่นนี้เป็น “คู่หู” ที่ดีสำหรับงานละเอียดและงานเบา ด้วยน้ำหนักที่เบาที่สุดและความคล่องตัวสูง สามารถใช้งานในที่แคบหรือมุมสวนเล็กๆ ได้อย่างสะดวก ผู้ที่ต้องการแต่งพุ่มไม้ทรงเหลี่ยมให้เรียบเนี๊ยบหรือเล็มกิ่งส่วนเกินเป็นครั้งคราวจะหลงรักความง่ายของรุ่นนี้ ข้อดีอีกอย่างคือราคาประหยัดที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ และค่าบำรุงรักษาต่ำ ถ้าคุณเป็นมือใหม่ในงานสวนหรือมีพื้นที่สวนไม่ใหญ่มาก รุ่น 12 นิ้วนี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ครบถ้วน
- รุ่น INF-C14CHB (ใบโค้ง 14″) – เหมาะสำหรับงานตกแต่งพุ่มไม้ประณีตและกิ่งขนาดกลาง ถือเป็นรุ่น อเนกประสงค์ ที่รวมข้อดีของรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน เพราะน้ำหนักยังค่อนข้างเบาแต่ได้ใบมีดที่ยาวและโค้งเพิ่มขึ้น ทำให้ทำงานได้เร็วและเรียบร้อย รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเนี้ยบในการตัดแต่งทรงพุ่มเป็นพิเศษ เช่น ทำทรงพุ่มกลม พุ่มรูปทรงต่างๆ ในสวนหย่อม โรงแรม หรือรีสอร์ท เพราะใบโค้งจะเก็บรายละเอียดได้ดี ผิวกิ่งหลังตัดเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการกิ่งที่ค่อนข้างหนา (ถึง ~2 ซม.) ได้ หากสวนของคุณมีพันธุ์ไม้พุ่มที่กิ่งแข็งหรือต้องการเครื่องที่ยืดหยุ่นใช้ได้กับทั้งงานเบาและงานหนักปานกลาง รุ่น 14 นิ้วคือคำตอบที่ลงตัว
- รุ่น INF-S20CH (ใบตรง 20″) – เหมาะสำหรับงานตัดแต่งพุ่มไม้ขนาดใหญ่ พื้นที่กว้าง หรืองานมืออาชีพ หากคุณมีแนวรั้วต้นไม้ยาว พุ่มไม้สูงใหญ่หลายจุด หรือทำงานดูแลสวนสาธารณะ สวนโครงการ ที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดแต่งปริมาณงานมาก รุ่น 20 นิ้วนี้จะช่วยทุ่นแรงและเวลาได้มากที่สุด ด้วยใบมีดยาวถึง 20 นิ้ว คุณสามารถกวาดตัดแต่ละครั้งได้พื้นที่กว้าง ลดจำนวนครั้งที่ต้องปาดไปมา แถมด้ามจับหมุนได้ยังช่วยให้ตัดด้านข้างหรือด้านบนของแนวพุ่มไม้สูงๆ ได้สะดวก รุ่นนี้ยังเหมาะกับมืออาชีพด้านดูแลสวนหรือช่างแต่งพุ่มไม้ที่ต้องการเครื่องมือทนทาน รองรับการใช้งานหนักต่อเนื่อง จุดเด่นคือนอกจากประสิทธิภาพการตัดสูงแล้ว ยังออกแบบให้ปลอดภัยมาก (สวิตช์นิรภัยคู่) เหมาะกับงานที่ต้องการความรอบคอบในการใช้งานเครื่องมือหนัก แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรมีแรงพอสมควรในการควบคุมเครื่องและควรใช้สองมือเสมอ รุ่น 20 นิ้วอาจเกินความจำเป็นสำหรับสวนบ้านทั่วไปเล็กๆ แต่ถ้าพื้นที่สวนของคุณใหญ่หรือมีพุ่มไม้จำนวนมาก การลงทุนกับรุ่นนี้ก็จะช่วยให้การดูแลสวนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก
การเลือกเครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สาย PUMPKIN ให้เหมาะกับคุณ ควรพิจารณาจากขนาดและประเภทของพุ่มไม้ในสวนของคุณเป็นหลัก หากเน้นงานเบา เน้นความคล่องตัว เลือกรุ่น 12 นิ้ว ถ้ามีงานทั้งละเอียดและงานหนักปานกลาง เลือกรุ่นใบโค้ง 14 นิ้วที่สารพัดประโยชน์ แต่ถ้าคุณมีงานหนัก ปริมาณมาก หรือต้องการความรวดเร็วในพื้นที่กว้าง รุ่น 20 นิ้วคือตัวเลือกที่จะเป็น “คู่แท้” สำหรับงานสวนของคุณ เมื่อเลือกได้ตรงกับการใช้งานแล้ว เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ไร้สายที่เหมาะสมจะช่วยทุ่นแรงและเวลา ให้คุณสนุกกับการแต่งสวนและชื่นชมสวนสวยที่ดูแลเองได้อย่างเต็มที่
