แชร์ไปที่

ศึก 11.5 นิ้ว เลื่อยยนต์ vs เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

เลื่อยยนต์ หรือ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย จาก PUMPKIN รุ่นไหนที่เหมาะกับคุณ

PUMPKIN ได้พัฒนาและวางจำหน่ายเลื่อยโซ่ขนาด 11.5 นิ้วออกมา 2 รูปแบบ ได้แก่ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ในรุ่น 20V รุ่น INF-115CSB ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และ เลื่อยยนต์ 11.5 นิ้วอีกหลายหลายรุ่น โดยในปี 2025 พัมคินได้เปิดตัว เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 2 จังหวะ ซึ่งเลื่อยโซ่แต่ละแบบนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันของผู้ใช้ หากคุณกำลังสงสัยว่าจะเลือกเลื่อยแบบไหนดี ระหว่างเลื่อยยนต์กับเลื่อยไฟฟ้า บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบความแตกต่างในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังการตัด ความสะดวกในการใช้งาน น้ำหนัก รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก เลื่อยไฟฟ้า หรือเลื่อยยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ง่ายขึ้น

พลังการตัดและประสิทธิภาพของเลื่อยยนต์ เทียบกับ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย 20V

ในแง่พลังการตัด เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 มีความได้เปรียบเรื่องกำลังและความเร็วของโซ่ที่สูงกว่าอย่างชัดเจน รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2 จังหวะขนาดใหญ่ถึง 58 ซีซี ให้กำลังฉุดโซ่ที่แกร่งและแรงเต็มประสิทธิภาพ สามารถเร่งโซ่ให้หมุนด้วยความเร็วสูง (ความเร็วโซ่สูงสุดประมาณ 25.7 เมตรต่อวินาที) ทำให้การตัดไม้ท่อนใหญ่ ๆ หรือต้นไม้ที่มีความแข็งเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดความเหนื่อยล้าของผู้ใช้ในการออกแรงกดเลื่อย นอกจากนี้เลื่อยยนต์รุ่นนี้ยังใช้คาร์บูเรเตอร์เกรด A และหัวเทียน BOSCH แท้ ช่วยให้การจุดระเบิดและการเผาไหม้เชื้อเพลิงเสถียร เครื่องเดินเรียบและส่งกำลังได้เต็มที่ตลอดการใช้งาน เหมาะสำหรับงานตัดหนัก ๆ หรืองานต่อเนื่องที่ต้องการความเร็วและพลังสูงสุดในการเลื่อยไม้โดยเฉพาะ

ทางด้าน เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB ถึงแม้พลังการตัดโดยรวมจะน้อยกว่ารุ่นเครื่องยนต์ แต่ก็มีจุดเด่นที่มอเตอร์ไฟฟ้า ไร้แปรงถ่าน (Brushless) ประสิทธิภาพสูง ให้แรงบิดคงที่และพลังการตัดต่อเนื่องได้ดีสำหรับงานทั่วไป มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน 20V นี้สามารถขับโซ่ขนาด 11.5 นิ้วด้วยความเร็วโซ่ประมาณ 6-7 เมตรต่อวินาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการเลื่อยกิ่งไม้ใหญ่ การตัดแต่งต้นไม้ หรือเลื่อยฟืนเพื่องานสวนและฟาร์มตามที่ออกแบบไว้

แม้ความเร็วและแรงตัดจะไม่สูงเท่ารุ่น P-S5800 แต่ข้อดีคือมอเตอร์ไฟฟ้าจะรักษาระดับพลังอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีตกกำลังในขณะใช้งานปกติ และไม่เกิดความร้อนสะสมเท่าเครื่องยนต์ ทำให้ตัดไม้ต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้การที่มอเตอร์เป็นแบบ Brushless ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง เลื่อยไฟฟ้า เพราะลดการสึกหรอของอะไหล่ภายใน ดังนั้นสำหรับงานตัดทั่วไปในบ้านหรือสวน เลื่อยไฟฟ้าไร้สายรุ่นนี้ก็ให้พลังการตัดที่น่าพอใจและเพียงพอต่อความต้องการเช่นกัน

หากเปรียบเทียบด้านพลังและความเร็วในการตัด เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 จะเหนือกว่า เหมาะกับงานหนักและการตัดไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องการความรวดเร็วเป็นพิเศษ ส่วน เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB นั้นแม้กำลังน้อยกว่าแต่ก็ครอบคลุมงานตัดทั่วไปได้สบาย ๆ และมีข้อดีเรื่องความต่อเนื่องและเสถียรในการตัดสำหรับงานไม่หนักมาก

เลื่อยยนต์ กับ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย รุ่นไหนตอบโจทย์ด้านความสะดวกในการใช้งาน

เมื่อพูดถึงความสะดวกในการใช้งาน เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ย่อมได้คะแนนนำไปก่อนอย่างชัดเจน เริ่มจากการสตาร์ทการใช้งานที่แสนง่ายดายของ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB เพียงแค่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม แล้วใส่แบตเข้ากับตัวเครื่อง จากนั้นกดปุ่มสวิตช์ เครื่องก็พร้อมทำงานทันที ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ต้องผสมออโต้ลูบ หรือดึงเชือกสตาร์ทให้เหนื่อย

ในขณะที่ เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 จะมีขั้นตอนการใช้งานที่ยุ่งยากกว่าเล็กน้อย เพราะใช้เครื่องยนต์น้ำมันแบบ 2 จังหวะ ก่อนใช้งานต้องเตรียมเชื้อเพลิงคือน้ำมันเบนซิน (รองรับค่าออกเทน 91 หรือ 95) ผสมกับน้ำมันหล่อลื่นเครื่อง 2T ในอัตราส่วนประมาณ 25:1 แล้วจึงเติมลงถังเชื้อเพลิง การสตาร์ทเครื่องต้องใช้แรงดึงเชือกสตาร์ท แม้รุ่นนี้จะมี ระบบสตาร์ทลานเบา ที่ออกแบบมาให้ดึงติดเครื่องง่ายขึ้นกว่าปกติ แต่ก็ยังคงเป็นการใช้แรงคนอยู่

นอกจากนี้ระหว่างใช้งานเลื่อยยนต์ ผู้ใช้ต้องคอยสังเกตระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นโซ่ในถังอยู่เสมอ หากใกล้หมดก็ต้องหยุดเติมกลางคัน ซึ่งเป็นความต่อเนื่องที่น้อยกว่าเลื่อยไฟฟ้า (ที่สามารถทำงานได้จนแบตหมดโดยไม่มีขั้นตอนยุ่งยากระหว่างการใช้งาน) อย่างไรก็ตาม เลื่อยยนต์รุ่น P-S5800 ก็ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งานในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับเลื่อยยนต์ทั่วไปในตลาด ด้วยระบบเครื่องยนต์ที่จูนมาเรียบร้อยจากโรงงาน สตาร์ทติดง่ายและเดินเบาได้ทันที รวมถึงมีระบบปั๊มน้ำมันโซ่อัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องคอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นโซ่เองระหว่างใช้งาน ลดภาระไปได้ส่วนหนึ่ง

หากมองภาพรวมแล้วในด้านความสะดวกสบาย เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB จะตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วไปมากกว่า ด้วยการใช้งานที่ง่าย เรียบง่าย ไม่ต้องจัดการเรื่องน้ำมันหรือสายไฟให้วุ่นวาย ผู้ที่ไม่ชำนาญงานช่างก็สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจและรวดเร็ว ในขณะที่เลื่อยยนต์เหมาะกับผู้ที่พอมีทักษะด้านเครื่องยนต์และยอมแลกขั้นตอนที่มากขึ้นเพื่อพลังการตัดที่สูงกว่า

เลื่อยยนต์ หรือ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย ที่ได้เปรียบเรื่องน้ำหนักและการพกพา

เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 มีน้ำหนักเครื่องเปล่าประมาณ 7.5 กิโลกรัม เมื่อเติมน้ำมันเบนซิน 550 มล. และน้ำมันหล่อลื่นโซ่ 260 มล. จนเต็ม ความหนักจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย รวมแล้วเกือบ 8 กิโลกรัมเลยทีเดียว น้ำหนักระดับนี้เวลาจับใช้งานอาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าได้หากต้องเลื่อยต่อเนื่องนาน ๆ หรือใช้งานในท่าทางที่ต้องยกเครื่องระดับไหล่ระดับศีรษะบ่อย ๆ ผู้ใช้ที่มีแรงน้อยหรือไม่คุ้นชินกับเครื่องยนต์ใหญ่ ๆ อาจรู้สึกว่าการควบคุมเลื่อยยนต์หนัก ๆ ทำได้ยากขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อต้องปีนบันไดเพื่อตัดแต่งกิ่งไม้สูง ๆ น้ำหนักของเครื่องจะเป็นภาระที่ต้องพิจารณา

ในทางกลับกัน เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB ได้เปรียบอย่างมากเรื่องน้ำหนักที่เบากว่า โดยตัวเครื่องหนักเพียงประมาณ 3.75 กิโลกรัม (รวมแบตเตอรี่แล้ว) เท่านั้น ซึ่งเบากว่าเลื่อยยนต์เกินกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว น้ำหนักที่ลดลงนี้ทำให้การจับถือและควบคุมทิศทางของเลื่อยทำได้ง่ายและคล่องตัว ผู้ใช้สามารถยกเครื่องขึ้นตัดกิ่งไม้สูง ๆ หรือเลื่อยเป็นเวลานานต่อเนื่องได้โดยเมื่อยล้าน้อยกว่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานตัดแต่งกิ่งไม้รอบบ้านที่ต้องการความละเอียดหรืองานที่ต้องเปลี่ยนจุดตัดไปมา นอกจากนี้การที่เป็นเลื่อยไร้สาย (ไม่มีสายไฟต่อพ่วง) ยิ่งเสริมความสะดวกในการพกพาไปใช้นอกสถานที่ จะยกใส่รถเพื่อนำไปใช้งานในไร่นาหรือสวนก็ทำได้ง่าย ไม่เปลืองแรงยกมาก

โดยสรุปในด้านน้ำหนักและความคล่องตัว เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย รุ่น INF-115CSB กินขาด เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องเบา ๆ ใช้งานสบาย ไม่หนักแรง ในขณะที่เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 นั้นแม้จะหนักกว่าแต่ก็แลกมาด้วยกำลังและความทนทานของโครงสร้างเครื่อง หากงานของคุณต้องการเครื่องที่เบาและพกพาง่าย เลื่อยไฟฟ้าไร้สายคือคำตอบที่เหมาะสมกว่า

เลื่อยยนต์ หรือ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

เสียงรบกวนและมลพิษของเลื่อยยนต์ vs เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย

เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ย่อมส่งเสียงดังขณะใช้งานมากกว่าเลื่อยไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสียงของเครื่องยนต์รอบสูงโดยเฉพาะเวลาเร่งเลื่อยไม้จะดังก้องพอสมควร (มีโอกาสเกิน 100 เดซิเบล) ผู้ใช้งานควรสวมที่ป้องกันหูเพื่อลดความดัง 

นอกจากนี้ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ยังมีการปล่อยไอเสียออกมาจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง 2 จังหวะ กลิ่นควันไอเสียและละอองน้ำมันจะกระจายรอบตัวผู้ใช้ ถือเป็นมลพิษทางอากาศและกลิ่นที่ต้องยอมรับเมื่อใช้งานเลื่อยยนต์น้ำมัน โดยเฉพาะการใช้งานในที่อับหรือพื้นที่ปิดนั้นไม่แนะนำเพราะควันพิษอาจสะสมได้ ด้วยเหตุนี้ เลื่อยยนต์จึงเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือในที่ที่ห่างไกลที่อยู่อาศัยจะดีกว่า เพราะทั้งเสียงดังและกลิ่นควันอาจรบกวนคนรอบข้าง

ในขณะที่ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB มีข้อได้เปรียบชัดเจนในด้านความเงียบและปลอดมลพิษ เนื่องจากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ไม่มีการจุดระเบิดเผาไหม้เหมือนเครื่องยนต์ ทำให้เสียงการทำงานเงียบกว่าอย่างมาก เสียงที่ได้ยินจะมาจากเสียงโซ่ขณะเลื่อยไม้และเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเบากว่าเสียงเครื่องยนต์หลายเท่า ระดับเสียงสูงสุดของรุ่นนี้อยู่ที่ราว 95 เดซิเบล (ขณะเลื่อยเต็มกำลัง) และเมื่อปล่อยไกหยุดเลื่อย มอเตอร์ก็เงียบสนิททันที ไม่มีเสียงเครื่องเดินเบารบกวนต่อ นอกจากนี้ยังไม่มีไอเสียหรือกลิ่นน้ำมันมารบกวนผู้ใช้และคนรอบข้าง คุณสามารถใช้เลื่อยไฟฟ้าในโรงเรือนหรือบริเวณบ้านได้อย่างสบายใจกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องควันพิษหรือคราบเขม่าน้ำมันที่จะเลอะเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า

กล่าวโดยรวม เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้มากกว่าในประเด็นเสียงและมลพิษ เหมาะกับงานที่ต้องการความเงียบ เช่น การตัดแต่งกิ่งไม้ในหมู่บ้านที่มีเพื่อนบ้านใกล้เคียง หรือใช้ในสวนหลังบ้านโดยไม่รบกวนผู้อื่น ส่วนเลื่อยยนต์น้ำมันนั้น แม้จะเสียงดังและมีกลิ่นควัน แต่ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้หากต้องการพลังตัดสูงสุด การใช้งานควรอยู่ในที่โล่งและผู้ใช้ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันเสียงและหน้ากากกันไอเสียไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัย

เลื่อยยนต์ vs เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย การบำรุงรักษาที่แตกต่าง

ในแง่การดูแลรักษา เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย มีความได้เปรียบเรื่องความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับเลื่อยยนต์น้ำมันที่มีชิ้นส่วนเครื่องยนต์มากมายที่จะต้องเอาใจใส่ สำหรับ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB เนื่องจากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก ผู้ใช้แทบไม่ต้องทำอะไรกับตัวมอเตอร์เลยตลอดอายุการใช้งาน เพราะมอเตอร์ไร้แปรงถ่านไม่ต้องเปลี่ยนแปรงถ่านเหมือนมอเตอร์ทั่วไป

สิ่งที่ต้องดูแลก็มีเพียงการชาร์จแบตเตอรี่และเก็บรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้ถูกวิธี เช่น ไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่คายประจุจนหมดเกลี้ยงเป็นเวลานาน และไม่เก็บแบตในที่ร้อนจัด นอกจากนี้ก็คือการเติมน้ำมันหล่อลื่นโซ่ลงในกระปุกตามที่กำหนดก่อนใช้งานแต่ละครั้ง เพื่อให้โซ่เลื่อนได้ลื่นไม่ฝืด และหมั่นตรวจสอบความตึงและความคมของโซ่อยู่เสมอ เมื่อโซ่ทื่อก็ลับให้คม หรือตั้งความตึงโซ่ให้เหมาะสมตามคู่มือ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการดูแลเลื่อยไฟฟ้าไร้สาย โดยไม่ต้องปวดหัวกับการปรับจูนเครื่องยนต์แต่อย่างใด (อ่านเพิ่มเติมได้ในใช้งานและเก็บรักษาแบตเตอรี่เครื่องมือไร้สายอย่างไรให้ปลอดภัย บทความนี้มีคำตอบ)

ฟากของ เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 การบำรุงรักษาจะเยอะกว่าเล็กน้อยตามปกติของเครื่องยนต์น้ำมัน โดยผู้ใช้ต้องใส่ใจหลายส่วน เช่น การตรวจเช็คและเปลี่ยนหัวเทียนเมื่อครบชั่วโมงการทำงานที่กำหนด (รุ่นนี้ใช้หัวเทียนคุณภาพจาก BOSCH ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ก็ต้องเปลี่ยนตามระยะเพื่อให้เครื่องติดง่ายและเผาไหม้สมบูรณ์) การทำความสะอาดกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์อั้น กรองสกปรกจะทำให้กำลังตกและเปลืองน้ำมัน การปรับตั้งคาร์บูเรเตอร์ให้อัตราส่วนอากาศกับน้ำมันเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่อาจต้องทำบ้างหากสังเกตว่าเครื่องเดินไม่เรียบ หรือรอบเครื่องสูงหรือต่ำผิดปกติ รวมถึงการหมั่นตรวจระดับน้ำมันหล่อลื่นโซ่และเติมเมื่อพร่อง

นอกจากนี้หลังใช้งานหนักควรปล่อยให้เครื่องเย็นแล้วทำความสะอาดคราบขี้เลื่อยและเขม่าน้ำมันที่อาจเกาะตามบาร์และโซ่ เพื่อป้องกันการสึกกร่อนและยืดอายุการใช้งานชิ้นส่วนต่าง ๆ หากวางแผนจะเก็บเครื่องไว้นานหลายเดือนโดยไม่ใช้ ก็ควรเทน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือออกจากถังและสตาร์ทเครื่องจนดับเองเพื่อให้น้ำมันในระบบถูกใช้หมด ป้องกันปัญหาน้ำมันค้างในคาร์บูเรเตอร์ที่อาจทำให้สตาร์ทยากในครั้งถัดไป

เมื่อเทียบกันจะเห็นว่าเลื่อยยนต์ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่า ดังนั้นผู้ใช้ที่ไม่มีความถนัดเรื่องเครื่องยนต์อาจรู้สึกยุ่งยากกับการบำรุงรักษาเหล่านี้ แต่หากคุณคุ้นเคยหรือยอมสละเวลาบำรุงรักษาตามคู่มือได้ เลื่อยยนต์ก็พร้อมจะทำงานหนักให้คุณได้เต็มที่ ในขณะที่ เลื่อยไฟฟ้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสบายใจในการดูแลรักษา เพียงชาร์จแบต เติมน้ำมันโซ่ และลับโซ่ตามจำเป็นก็ใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่จุกจิก

ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง

เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 มีจุดแข็งที่การใช้งานต่อเนื่องได้นานตราบเท่าที่คุณมีน้ำมันเติมลงถัง กล่าวคือสามารถเลื่อยได้ทั้งวันโดยหยุดพักเฉพาะตอนเติมน้ำมันไม่กี่นาทีเท่านั้น ถังน้ำมันของรุ่นนี้จุประมาณ 550 มิลลิลิตร ซึ่งในการใช้งานจริงอาจให้เวลาการเลื่อยต่อเนื่องราว 30-40 นาทีต่อการเติมหนึ่งถัง (ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของงานและรอบเครื่องที่ใช้) เมื่อเชื้อเพลิงหมดถังก็เติมใหม่และสตาร์ทต่อได้ทันที ทำให้งานตัดจำนวนมาก ๆ สามารถทำได้รวดเร็วไม่ต้องรอชาร์จอะไรนาน ดังนั้นสำหรับงานที่ต้องเลื่อยทั้งวัน เช่น การตัดฟืนหลายคิวหรือการเคลียร์พื้นที่สวนที่มีต้นไม้จำนวนมาก เลื่อยยนต์ แบบใช้น้ำมันจะตอบโจทย์เรื่องความต่อเนื่องของงานได้ดีกว่า

อย่างไรก็ดี สำหรับการใช้งานเลื่อยตามปกติของบุคคลทั่วไปที่มักเป็นงานเลื่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบบ้านเป็นครั้งคราว (เช่น ตัดแต่งกิ่งเดือนละครั้ง หรือตัดไม้ทำฟืนเล็กน้อย) เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB ก็ถือว่ามีระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จที่เพียงพอแล้ว และยังมีข้อดีคือไม่ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มในแต่ละครั้งด้วย ส่วนน้ำมันหล่อลื่นโซ่นั้นหนึ่งถัง ก็ใช้ได้หลายรอบการชาร์จแบต ในภาพรวมถ้าเน้นงานระยะสั้นและสะดวก เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ทำได้ดี แต่ถ้าเน้นงานต่อเนื่องยาวนานไม่หยุดพัก เลื่อยยนต์น้ำมันจะเหมาะสมกว่า

ระบบนิรภัยและความปลอดภัยในการใช้งาน

เรื่องความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญในการใช้เลื่อยโซ่ทุกรูปแบบ ซึ่งทั้งเลื่อยยนต์และเลื่อยไฟฟ้าที่ดีจะต้องมีระบบนิรภัยมาตรฐานติดตั้งมาให้ครบถ้วน สำหรับ เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 และ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB ก็มีอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานมาให้ เช่น เบรกโซ่ฉุกเฉิน (มือจับเบรกที่อยู่ด้านหน้าสุดของเครื่อง) ซึ่งผู้ใช้สามารถผลักไปข้างหน้าเพื่อหยุดการทำงานของโซ่ทันทีในกรณีเกิดแรงสะบัดหรือเหตุฉุกเฉิน ลดอันตรายจากอุบัติเหตุโซ่ฟาดมือ นอกจากนี้ยังมีการ์ดป้องกันมือและตัวคุมป้องกันโซ่ดีดกลับมาตรฐานมาให้อยู่แล้ว

ความแตกต่างเล็กน้อยอยู่ที่ระบบไฟฟ้ากับระบบเครื่องยนต์ โดย เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย รุ่น INF-115CSB นั้น มอเตอร์จะหยุดหมุนแทบจะทันทีเมื่อผู้ใช้ปล่อยไกสวิตช์ ซึ่งหมายความว่าโซ่จะหยุดนิ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความปลอดภัยสูงในกรณีที่ต้องหยุดเครื่องกะทันหัน อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีระบบล็อกนิรภัยที่สวิตช์ เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือขณะพกพา ผู้ใช้สามารถเปิดระบบล็อกป้องกันการเผลอกดไกคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ ลดความเสี่ยงที่เลื่อยจะทำงานเองโดยไม่ได้เจตนา

ส่วน เลื่อยยนต์ น้ำมันอย่างรุ่น P-S5800 เมื่อปล่อยคันเร่ง โซ่จะหยุดหมุนเช่นกัน (ด้วยระบบคลัตช์แรงเหวี่ยงที่ออกแบบมาให้โซ่หมุนเมื่อเร่งและหยุดหมุนเมื่อเดินเบา) แต่เครื่องยนต์จะยังติดเดินเบาอยู่จนกว่าจะสั่งดับ จึงอาจมีความเสี่ยงหากผู้ใช้เผลอไปโดนคันเร่งเข้า โซ่อาจกลับมาหมุนอีกครั้ง นอกจากนี้น้ำหนักที่มากกว่าของเลื่อยยนต์ก็ทำให้การควบคุมอาจยากขึ้นเล็กน้อย ผู้ใช้ต้องจับสองมือให้มั่นคงเสมอเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม เลื่อยโซ่ทั้งสองแบบจาก PUMPKIN ต่างก็ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ให้ผู้ใช้จับถนัดมือ มีสมดุลน้ำหนักที่ดีเพื่อลดอาการล้าขณะทำงาน และมีมาตรการความปลอดภัยมาครบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรศึกษาและปฏิบัติตามคู่มือความปลอดภัยของเครื่องอย่างเคร่งครัด เช่น สวมอุปกรณ์ป้องกันตาและหู ใช้เสื้อผ้าที่รัดกุม และระมัดระวังท่าทางการเลื่อยที่ถูกต้องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะใช้เลื่อยไฟฟ้าหรือเลื่อยยนต์ก็ตาม

สรุปแล้วควรเลือกรุ่นไหน ระหว่าง เลื่อยยนต์ กับ เลื่อยไฟฟ้า ไร้สาย

การตัดสินใจเลือกระหว่าง เลื่อยยนต์ กับ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ขนาด 11.5 นิ้วนั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะทั้งสองแบบต่างมีข้อดีเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์งานคนละประเภท หากคุณต้องทำงานหนัก เช่น ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ หั่นท่อนฟืนจำนวนมาก หรืองานช่างมืออาชีพในไร่นาหรือป่า ที่ต้องการพลังตัดสูงสุดและการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน เลื่อยยนต์ 58 ซีซี รุ่น P-S5800 คือทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยเครื่องยนต์กำลังแรงที่พร้อมลุยงานหนักได้เต็มที่ไม่หยุดตราบใดที่มีน้ำมันเติม คุณจะได้ความเร็วในการตัดและความทนทานที่เหนือกว่า แลกกับการดูแลรักษาและเสียงดังที่มากขึ้น

แต่หากคุณต้องการเครื่องเลื่อยสำหรับงานรอบบ้านหรืองานสวนทั่วไป ที่เน้นความสะดวก ปลอดภัย และใช้งานง่าย ไม่มีความยุ่งยากเรื่องการผสมเชื้อเพลิงหรือการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์บ่อย ๆ เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย 20V รุ่น INF-115CSB จะเหมาะกับคุณมากกว่า คุณจะประทับใจกับการสตาร์ทง่ายดาย น้ำหนักเบา เสียงเงียบ และไม่มีควันไอเสียรบกวน ทั้งยังเพียงพอสำหรับการตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ หรือตัดไม้ใช้งานในฟาร์มเล็ก ๆ ได้อย่างสบาย

สรุปแล้ว เลื่อยยนต์ vs เลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ไม่มีตัวไหนที่ “ดีกว่า” ในทุกด้าน แต่ละแบบต่างถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองงานคนละลักษณะ เลื่อยไฟฟ้า เหมาะกับงานเบาและผู้ใช้ทั่วไปที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย เลื่อยยนต์ เหมาะกับงานหนักและผู้ที่ต้องการพลังตัดสูงสุดและพร้อมจะดูแลรักษาเครื่อง เมื่อคุณเข้าใจจุดเด่นและจุดต่างของทั้งสองแบบแล้ว ก็จะสามารถเลือกซื้อเลื่อยโซ่ 11.5 นิ้วที่เหมาะกับงานของคุณได้อย่างมั่นใจ และใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่าปลอดภัยสูงสุดในระยะยาว


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.