เจาะลึกทุกมุมมอง เลื่อยญี่ปุ่น เลื่อยพูลซอ เลื่อยดึง คู่ใจคนรักงานสวนและงาน DIY
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เลื่อยญี่ปุ่น หรือ เลื่อยพูลซอ หรือเรียกตามลักษณะการใข้งานว่า เลื่อยดึง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเลื่อยมือคู่ใจของคนรักงานสวนและงาน DIY หลาย ๆ คน เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ มีลักษณะเฉพาะคือการตัดไม้ด้วยการดึงเลื่อยเข้าหาตัว แทนที่จะผลักออกเหมือนเลื่อยทั่วไป ทำให้การเลื่อยเป็นไปอย่างนุ่มนวล ควบคุมง่าย และได้แนวตัดที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น คนทำสวนใช้เลื่อยชนิดนี้ในการตัดแต่งกิ่งไม้ ส่วนช่างไม้และนัก DIY ก็นิยมใช้เลื่อยพูลซอในการทำเฟอร์นิเจอร์หรืองานไม้ประณีตต่าง ๆ
ทำไม เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ ถึงกลายมาเป็นเครื่องมือคู่ใจของใครหลายคน บทความนี้จะขยายความในทุกแง่มุม ตั้งแต่คุณสมบัติของ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ ข้อดี วิธีเลือกให้เหมาะกับงาน เคล็ดลับการใช้งานอย่างปลอดภัย ตลอดจนตัวอย่างเลื่อยพูลซอที่น่าสนใจ พร้อมสรุปปิดท้ายเพื่อจูงใจให้คุณลองเลือกใช้เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอในงานสวนหรืองาน DIY ครั้งต่อไปของคุณ
คุณสมบัติของ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ
นอกจากนี้ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอมักทำจากเหล็กคุณภาพสูง ฟันเลื่อยถูกเจียระไนอย่างประณีตและผ่านการชุบแข็ง (บางรุ่นฟันเลื่อยผ่านกระบวนการ Impulse Hardening ทำให้มีความคมทนทานแต่ไม่สามารถลับคมใหม่ได้) ตัวใบเลื่อยบางรุ่นสามารถถอดเปลี่ยนได้เมื่อสึกหรอ ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานโดยรวม
ลักษณะใบเลื่อยและฟันเลื่อยของ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ
ใบเลื่อยของ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอมักมีความบางเฉียบ (ประมาณ 0.3–0.5 มม.) ฟันเลื่อยได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้เฉียงและคมเป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการตัดเมื่อดึง แต่ละฟันมีมุมและรูปร่างที่ช่วยขจัดเศษไม้ได้ดี ทำให้การเลื่อยไม่สะดุดหรือติดขัดระหว่างการดึง นอกจากนี้ฟันเลื่อยส่วนใหญ่จะชุบแข็งให้คงความคมนาน เมื่อตัดจะเกิดขี้เลื่อยน้อยเนื่องจากใบเลื่อยบาง (ร่องตัดหรือคลองเลื่อยมีขนาดแคบ) จึงสูญเสียเนื้อไม้น้อยและใช้แรงน้อยในการเลื่อย
ประเภทของ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ
เลื่อยพูลซอมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามลักษณะงาน ดังนี้:
เลื่อยโดซูกิ (Dozuki): เลื่อยญี่ปุ่นชนิดนี้มีสันเหล็กเสริมความแข็งแรงอยู่ด้านบนของใบเลื่อย ทำให้ใบเลื่อยบางแต่ไม่งอง่าย เหมาะสำหรับงานตัดที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ตัดเข้ามุม ทำเดือยหรือบากไม้เล็กๆ ฟันเลื่อยละเอียดมาก ทำให้ได้แนวตัดที่เนียนกริบ
เลื่อยเรียวบะ (Ryoba): เลื่อยมือสองคมที่มีฟันเลื่อยสองด้านในเล่มเดียว ด้านหนึ่งออกแบบสำหรับตัดขวางลายไม้ (ฟันถี่สำหรับตัดขวางเสี้ยนไม้) และอีกด้านสำหรับตัดตามยาวลายไม้ (ฟันห่างและรูปทรงเหมาะกับตัดตามเสี้ยน) ความยาวใบเลื่อยมีหลายขนาด (ทั่วไปประมาณ 240 มม. สำหรับงานช่างทั่วไป และรุ่นยาวขึ้น ~270 มม. สำหรับงานไม้ขนาดใหญ่) เลื่อยเรียวบะถือเป็นเลื่อยอเนกประสงค์ที่ช่างไม้ DIY นิยมใช้เพราะเล่มเดียวทำได้หลายรูปแบบการตัด
เลื่อยคาตะบะ (Kataba): เลื่อยญี่ปุ่นฟันเดี่ยว (มีฟันเลื่อยด้านเดียวเหมือนเลื่อยมือทั่วไปของตะวันตก) ไม่มีสันเสริม ทำให้สามารถตัดได้ลึกไม่ถูกสันขวาง เหมาะกับงานตัดทั่วไปและใช้ตัดตกแต่งชิ้นงานหรือเลื่อยขัดมัน (flush cut) ได้ดี เพราะใบเลื่อยบางและยืดหยุ่นเล็กน้อย สามารถเลื่อยตัดส่วนเกินให้เรียบเสมอผิวงานได้
เลื่อยดึงตัดกิ่ง (Pruning Saw แบบดึง): เป็นเลื่อยพูลซอที่ออกแบบมาสำหรับงานสวนโดยเฉพาะ ใบเลื่อยมักจะโค้งเล็กน้อยและฟันค่อนข้างห่างเพื่อช่วยให้ตัดผ่านกิ่งไม้สดและเปียกชื้นได้ง่าย ด้ามจับอาจทำเป็นทรงปืน (pistol grip) หรือทรงตรง มีทั้งแบบใบเลื่อยติดตายกับด้ามและแบบ เลื่อยพับได้ เพื่อความสะดวกในการพกพาและจัดเก็บ
ข้อดีของเลื่อยพูลซอ
เนื่องจากเลื่อยพูลซอได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่นักทำสวนและนัก DIY เพราะมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับเลื่อยมือแบบดั้งเดิมหรือเครื่องมือตัดอื่น ๆ ดังนี้:
แนวตัดเรียบเนียนและแม่นยำ: ด้วยใบเลื่อยที่บางและฟันเลื่อยที่คมพิเศษ เลื่อยพูลซอสามารถสร้างแนวตัดที่เรียบเนียนกว่าการใช้เลื่อยมือแบบผลักหรือเลื่อยทั่วไป รอยตัดมีความเที่ยงตรง ไม่แตกหรือฉีกขาดตรงขอบชิ้นงานมากนัก จึงเหมาะอย่างยิ่งกับงานที่ต้องการความประณีต เช่น การเข้ามุมไม้ การทำเดือยหรือบั้งไม้เล็กๆ รวมถึงการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ต้องการรอยตัดสะอาดเพื่อให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็ว
ใช้แรงน้อยกว่า แต่ตัดได้รวดเร็วกว่า: การเลื่อยในจังหวะดึงทำให้ผู้ใช้ควบคุมเลื่อยได้มั่นคงโดยใช้กล้ามเนื้อและน้ำหนักตัวอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ใบเลื่อยจะบางแต่เพราะการดึงทำให้ใบเลื่อยตึงตรง ไม่ดีดงอง่าย ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องออกแรงกดมากเหมือนเลื่อยแบบผลัก ความบางของใบเลื่อยยังช่วยลดแรงเสียดทานและแรงต้านระหว่างการตัด ส่งผลให้การเลื่อยรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้มีการกล่าวอ้างว่าเลื่อยพูลซอตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าและทิ้งรอยตัดที่แคบกว่าเลื่อยแบบผลักทั่วไปen.wikipedia.org ทำให้งานเสร็จไวขึ้นและสูญเสียเนื้อไม้น้อยลง
ควบคุมง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่: เลื่อยพูลซอขึ้นชื่อว่าเริ่มต้นร่องตัดได้ง่าย ผู้ใช้สามารถวางฟันเลื่อยลงบนตำแหน่งที่ต้องการแล้วดึงเบา ๆ เพื่อสร้างร่องนำร่องโดยไม่กระโดดหรือเลื่อนหนีจุด เมื่อเริ่มตัดไปแล้วก็สามารถรักษาแนวตัดได้ตรงตามต้องการ การดึงเลื่อยเข้าหาตัวให้ความรู้สึกควบคุมได้มั่นคงกว่าการผลักออก (ซึ่งบางครั้งการผลักอาจทำให้เลื่อยสั่นหรือใบแอ่นโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ชำนาญ) ดังนั้นแม้แต่มือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้เลื่อยมือ ก็สามารถใช้เลื่อยพูลซอได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด: เนื่องจากเลื่อยพูลซอหลายรุ่นมีใบเลื่อยค่อนข้างบางและสั้นกว่าเลื่อยมือใหญ่ ๆ การใช้งานในพื้นที่คับแคบหรือมุมแคบจึงทำได้สะดวก ยกตัวอย่างเช่น การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ในจุดอับ หรือการเลื่อยกิ่งไม้ในพุ่มที่เข้าถึงยาก เลื่อยพูลซอจะช่วยให้การตัดทำได้โดยไม่ต้องมีพื้นที่เหวี่ยงใบเลื่อยมากนัก อีกทั้งแบบที่เป็นเลื่อยพับได้ก็ยิ่งพกพาไปใช้นอกสถานที่หรือปีนต้นไม้ขึ้นไปตัดกิ่งได้ง่าย
อเนกประสงค์ทั้งงานสวนและงาน DIY: ดังที่กล่าวมา เลื่อยพูลซอมีหลายแบบ ตั้งแต่เลื่อยญี่ปุ่นสำหรับงานไม้ละเอียดไปจนถึงเลื่อยตัดกิ่งสำหรับงานสวน ซึ่งล้วนใช้หลักการดึงเหมือนกัน ดังนั้นเลื่อยพูลซอเพียงเล่มเดียว (เช่น เลื่อยเรียวบะสองคม) สามารถใช้ทำงานได้หลากหลาย ทั้งตัดไม้แผ่น ตัดท่อน ตัดพลาสติกบางชนิด หรือตัดแต่งกิ่งต้นไม้เล็ก ๆ ในสวนก็ยังทำได้ ถือเป็นเครื่องมือเอนกประสงค์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนสำหรับคนที่ทำงานช่างเองที่บ้านหรือดูแลสวนเองโดยไม่ต้องการเครื่องมือไฟฟ้าหลายชนิด
จากข้อดีเหล่านี้ จะเห็นว่าทำไมเลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพที่ต้องการงานตัดที่มีคุณภาพ ใช้แรงน้อย และได้ผลงานสวยงามคมชัด

วิธีเลือก เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอให้เหมาะกับการใช้งาน
เมื่อตัดสินใจว่าจะเพิ่มเลื่อยพูลซอเข้ามาในชุดเครื่องมือของคุณ การเลือกเลื่อยพูลซอให้เหมาะสมกับงานที่ทำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเลื่อยพูลซอมีหลายแบบหลายขนาด เราจึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้:
ลักษณะงานที่ทำ: พิจารณาก่อนว่างานหลักของคุณคืออะไร หากคุณเน้นงานไม้หรืองาน DIY ในการสร้างชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ เลื่อยพูลซอสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียวบะหรือโดซูกิอาจตอบโจทย์ เพราะให้ความละเอียดและความเที่ยงตรงในการตัดสูง แต่หากงานหลักคือการดูแลสวน ตัดแต่งกิ่งไม้ ควรเลือกเลื่อยพูลซอแบบเลื่อยตัดกิ่งที่ออกแบบมาเพื่อเลื่อยไม้สด ใบเลื่อยโค้งและฟันห่างจะช่วยให้เลื่อยกิ่งได้ง่ายและรวดเร็ว
ประเภทของใบเลื่อยและฟันเลื่อย: สำหรับงาน DIY งานไม้ ให้ดูว่าควรใช้เลื่อยฟันประเภทใด เช่น ฟันละเอียด (สำหรับตัดขวางเสี้ยนไม้ให้เรียบ) หรือฟันหยาบ (สำหรับตัดเร็วหรือตัดไม้หนา) หากต้องการเลื่อยที่ทำได้ทั้งตัดขวางและตามยาว เลื่อยเรียวบะสองคมก็เป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากนี้บางงานอาจต้องการใบเลื่อยเฉพาะทาง เช่น ใบเลื่อยบางมากสำหรับการเลื่อยตัดเดือยออกเสมอผิว (flush cut) กรณีนี้เลื่อยคาตะบะหรือเลื่อยคูกิฮิกิ (Kugihiki) ที่ใบยืดหยุ่นจะเหมาะสม
ขนาดและความยาวใบเลื่อย: เลื่อยพูลซอมีหลายขนาดความยาวใบ หากต้องการพกพาสะดวกหรือใช้งานจุกจิกทั่วไป เลื่อยขนาดเล็กถึงกลาง (ใบยาว ~150–240 มม.) ก็เพียงพอและคล่องตัว แต่ถ้าต้องการเลื่อยชิ้นงานใหญ่ หรือตัดไม้หนา ๆ ควรเลือกใบเลื่อยที่ยาวขึ้น (เช่น 270–300 มม.) เพื่อให้ช่วงชักในการเลื่อยกว้างขึ้น ตัดได้ลึกและเร็วขึ้น ทั้งนี้ควรคำนึงด้วยว่าความยาวใบมากขึ้นจะเก็บลำบากขึ้นเล็กน้อยหากเป็นเลื่อยพับ
ด้ามจับและการออกแบบโดยรวม: จับเลื่อยลองสัมผัสดูว่าถนัดมือหรือไม่ ด้ามจับควรมีผิวที่จับกระชับมือ วัสดุด้ามอาจเป็นไม้ หุ้มยาง หรือพลาสติกตามแต่รุ่น เลื่อยพูลซอบางรุ่นด้ามจับและใบเลื่อยอยู่ในแนวเดียวกัน (แบบด้ามตรง) ขณะที่บางรุ่นโดยเฉพาะเลื่อยตัดกิ่งอาจมีด้ามทำมุมเล็กน้อย ให้การออกแรงในมุมที่เหมาะสม นอกจากนี้ถ้าเป็นเลื่อยพับ ให้ตรวจสอบกลไกการล็อกใบเลื่อยว่ามั่นคงแข็งแรง เมื่อกางใบเลื่อยออกแล้วไม่พับหนีบมือโดยไม่ได้ตั้งใจ
วัสดุและความทนทานของใบเลื่อย: เลือกเลื่อยที่ใบทำจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง ฟันเลื่อยผ่านการชุบแข็งมาอย่างดี ฟันคมทนนาน แม้เลื่อยพูลซอส่วนใหญ่จะไม่สามารถลับคมฟันได้ (เพราะฟันผ่านการอบชุบจนแข็งมาก) แต่เราสามารถเปลี่ยนใบเลื่อยใหม่ได้เมื่อฟันเริ่มทื่อ ดังนั้นควรตรวจสอบว่ารุ่นที่เลือกมีอะไหล่ใบเลื่อยจำหน่ายหรือไม่ นอกจากนี้ความบางของใบเลื่อยมีผลต่อความเปราะ – ใบที่บางมากตัดเนี๊ยบก็จริงแต่ก็อาจเปราะแตกหักง่ายกว่าหากใช้งานผิดวิธี ดังนั้นถ้าคุณมือใหม่ อาจเลือกใบเลื่อยที่ไม่บางจนเกินไปเพื่อความทนทาน
ชนิดของไม้ที่ต้องการตัด: หากงานของคุณส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้ออ่อนถึงปานกลาง เช่น ไม้สน ไม้ยางพารา หรือกิ่งไม้สด เลื่อยพูลซอมาตรฐานสามารถรับมือได้สบาย แต่ถ้าคุณต้องตัดไม้เนื้อแข็งมาก ๆ เป็นประจำ (เช่น ไม้เต็ง ไม้โอ๊ค) ควรเลือกเลื่อยพูลซอที่ออกแบบฟันมาสำหรับงานหนักโดยเฉพาะ หรือพิจารณาว่าเลื่อยพูลซออาจตัดไม้เนื้อแข็งได้ช้ากว่าเลื่อยมือแบบตะวันตกที่มีฟันหยาบใหญ่ซึ่งเหมาะกับไม้ประเภทนี้มากกว่าen.wikipedia.org การรู้ประเภทไม้จะช่วยให้เลือกเลื่อยได้เหมาะ ลดความเสี่ยงที่ใบเลื่อยจะสึกหรอเร็วหรือหักเสียหายเมื่อเจองานหนักเกินตัว
งบประมาณและแบรนด์ที่เชื่อถือได้: สุดท้าย พิจารณางบประมาณที่คุณมี เลื่อยพูลซอมีตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์หลักร้อยบาทไปจนถึงหลักพันสำหรับรุ่นมืออาชีพ แบรนด์ญี่ปุ่นแท้ ๆ เช่น Gyokucho, Z-Saw, Tajima, Suizan หรือแบรนด์เครื่องมือสวนอย่าง Silky, ARS มักได้การยอมรับเรื่องคุณภาพและความคมที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่แบรนด์ยุโรปหรืออเมริกาบางรายก็ผลิตเลื่อยพูลซอออกมาเช่นกัน เลือกแบรนด์ที่มีรีวิวดีและมีศูนย์บริการหรือผู้แทนจำหน่ายในไทยจะอุ่นใจมากกว่า นอกจากนี้หากมีโอกาส ควรทดลองจับหรือทดลองเลื่อยดูคร่าว ๆ จากร้านเครื่องมือเพื่อให้มั่นใจว่าเลื่อยที่เลือกเหมาะมือและตอบโจทย์งานของคุณจริง
เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมดนี้ร่วมกัน คุณจะสามารถเลือกเลื่อยพูลซอที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานสวนหรืองาน DIY ของคุณได้ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
แนะนำ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ สองรุ่นขายดีจาก PUMPKIN
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเลื่อยพูลซอคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า เพื่อใช้งานในงานไม้ งาน DIY หรืองานสวน พัมคิน PUMPKIN มีตัวเลือก เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครันหลากหลายรุ่น โดย 2 รุ่น ที่เราเลือกมาแนะนำกันในบทความนี้ คือรุ่นเลื่อยฟัน 2 ข้างสำหรับงานไม้ และรุ่นเลื่อยพับได้สำหรับงานตัดแต่งกิ่งไม้ในสวน

PUMPKIN เลื่อยดึงพูลซอ ฟัน 2 ข้าง 10″ SK-5 รุ่น PTT-BK28/34 : จัดจ้านทุกงานเฟอร์นิเจอร์
ตัวแรกที่เรายกมาดูฟังก์ชันกัน คือ เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ รุ่น PTT-BK28/34 จาก PUMPKIN มาพร้อมใบเลื่อยยาว 10 นิ้ว ผลิตจากเหล็กกล้า SK-5 ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และคมกริบ เหมาะสำหรับงานตัดไม้หลากหลายประเภท ด้วยฟันเลื่อย 2 ด้านในเล่มเดียว ช่วยให้สามารถเลือกใช้ด้านฟันหยาบสำหรับตัดไม้หนาหรือตัดเร็ว และด้านฟันละเอียดสำหรับตัดเรียบเนียนต้องการความประณีต
หากคุณกำลังมองหาเลื่อยสักปื้นที่มีความอเนกประสงค์ ให้ได้ทั้งความเร็วในการเลื่อยและความละเอียดในการเลื่อย เลื่อยพูลซอฟัน 2 ข้างรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ด้วยฟันเลื่อย 2 ด้าน สำหรับงาน 2 ลักษณะ อเนกประสงค์ทั้งงานที่ต้องการความละเอียดและความคมในด้ามเดียว โดยด้านฟัน 18TPI ให้งานละเอียด เหมาะสำหรับการเลื่อยไม้อัดตามแนวขวางของลายไม้ ส่วนด้านฟันไล่ความละเอียด 6 – 9 TPI เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วในการเลื่อย เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ งาน DIY งานตกแต่งไม้ต่าง ๆ
ใบเลื่อยบาง ตัดได้แม่นยำ: ด้วยความบางของใบเลื่อยและความคมของฟัน ช่วยให้การตัดไม้ทำได้เรียบร้อย แนวตัดสวย ลดเศษขี้เลื่อย
ใช้งานสะดวก: ตัวด้ามจับถูกออกแบบให้กระชับมือ ทำให้ควบคุมทิศทางการเลื่อยได้ง่าย ลดความเมื่อยล้าในการใช้งานนาน ๆ
เหมาะกับงาน DIY และงานช่างไม้: ไม่ว่าจะเป็นงานสร้างเฟอร์นิเจอร์ งานซ่อมแซม หรืองานตกแต่งภายใน รุ่นนี้สามารถรองรับได้อย่างครบครัน
PUMPKIN เลื่อยตัดกิ่งไม้พูลซอ พับเก็บได้ 10″ SK-5 ฟัน 3 หน้า ชุบแข็ง รุ่น PTT-10PF : ให้ความปลอดภัยสูง เอาอยู่ทุกงานตัดกิ่ง
สำหรับงานตัดแต่งกิ่งไม้ในสวน เลื่อยตัดกิ่งพูลซอรุ่น PTT-10PF จาก PUMPKIN เป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่ง ด้วยดีไซน์แบบพับเก็บได้ เพิ่มความสะดวกในการพกพาและจัดเก็บ ใบเลื่อยผลิตจากเหล็กกล้า SK-5 เช่นเดียวกับรุ่นงานไม้ ฟันเลื่อยแบบ 3 หน้า (Triple Edge Teeth) ชุบแข็งมาอย่างดี ให้ประสิทธิภาพการตัดที่รวดเร็วกว่าเดิม
จุดเด่นที่สำคัญของเลื่อยรุ่นนี้คือ ให้ความปลอดภัยสูง ด้ามจับสามารถพับเก็บใบเลื่อยได้ สะดวกต่อการจัดเก็บและพกพาไปใช้นอกสถานที่ คมเลื่อยมีขนาดฟันใหญ่ เลื่อยได้เร็วกว่าเดิม เหมาะกับกิ่งไม้ใหญ่และไม้ที่มีหน้ากว้าง งานที่ต้องการความรวดเร็วในการตัด เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีติดบ้านไว้เพื่อตัดแต่งกิ่งไม้ ไปจนถึงเป็นเลื่อยคู่ใจชาวสวนในการตัดแต่งสวนของคุณ เลื่อยได้ดีทั้งไม้สด ไม้แห้ง ไม้เนื้ออ่อน เนื้อแข็ง ก็เลื่อยง่ายด้วยฟันที่คม แกร่ง ลับมาอย่างดีด้วยเทคโนโลยีการผลิตล้ำหน้า มาตรฐานสินค้าพัมคินแบรนด์คนไทย
ฟันเลื่อย 3 หน้า: ช่วยเพิ่มความเฉียบคมและความเร็วในการตัด ลดแรงต้านขณะเลื่อยกิ่งไม้
พับเก็บได้ ปลอดภัย: ตัวใบเลื่อยสามารถพับเก็บเข้าตัวด้ามได้อย่างแน่นหนา ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และง่ายต่อการพกพาไปยังสวนหรือสถานที่ต่าง ๆ
เหมาะกับงานสวนโดยเฉพาะ: ออกแบบมาสำหรับงานตัดแต่งกิ่งไม้สด กิ่งไม้แห้ง หรือแม้แต่งานจัดสวนมืออาชีพ ด้วยน้ำหนักเบาและความคล่องตัวสูง
เลือก เลื่อยญี่ปุ่น หรือเลื่อยพูลซอ PUMPKIN ให้เหมาะกับงานของคุณ
หากคุณต้องการเลื่อยพูลซอสำหรับงานไม้ งานช่าง งาน DIY รุ่นฟันสองด้านจะช่วยให้คุณทำงานได้หลากหลายและแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนถ้าเน้นงานสวนหรืองานกลางแจ้ง รุ่นพับได้ คือผู้ช่วยที่ตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็ว ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย
ทั้งสองรุ่นจาก PUMPKIN ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพได้ใช้งานอย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกโปรเจกต์