ใบตัดไฟเบอร์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการตัดวัสดุประเภทโลหะ เหล็ก สเตนเลส รวมถึงวัสดุแข็งอื่น ๆ เช่น คอนกรีต และกระเบื้อง ในงานช่างอุตสาหกรรมและงานซ่อมบำรุง ใบตัดไฟเบอร์เป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้การตัดเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และลดความสูญเสียของวัสดุ
การเลือกใช้ใบตัดที่เหมาะสมกับประเภทของงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
ใบตัดไฟเบอร์ผลิตจากอะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
ใบตัดไฟเบอร์ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนต่อแรงเสียดทานสูง ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้
1. เม็ดขัด (Abrasive Grains)
เม็ดขัดเป็นวัสดุที่ทำหน้าที่ตัดเฉือนวัสดุที่ต้องการ โดยทั่วไปมีหลายประเภท เช่น อะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide) สำหรับงานตัดโลหะทั่วไป และซิลิคอนคาร์ไบด์ (Silicon Carbide) สำหรับวัสดุที่แข็งกว่า เช่น คอนกรีตและเซรามิก
2. สารยึดเกาะ (Bonding Material)
สารยึดเกาะทำหน้าที่ยึดเม็ดขัดให้ติดกัน สามารถเป็นเรซินหรือสารประกอบเซรามิก ซึ่งมีผลต่อความแข็งและความยืดหยุ่นของใบตัด
3. เส้นใยเสริมแรง (Reinforcement Fibers)
ใบตัดไฟเบอร์มักเสริมด้วยเส้นใยแก้วหรือวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการแตกหักขณะใช้งาน
วิธีอ่านค่าสัญลักษณ์บนใบตัดไฟเบอร์
บนใบตัดไฟเบอร์มักมีสัญลักษณ์และตัวเลขที่บ่งบอกข้อมูลสำคัญ เช่น:
ขนาดของใบตัด ตัวอย่างเช่น “125 x 1.2 x 22.2 mm” หมายถึง
เส้นผ่านศูนย์กลาง 125 มม.
ความหนา 1.2 มม.
ขนาดรูแกน 22.2 มม.
ความเร็วรอบสูงสุด (Max RPM) เช่น “13,300 RPM” หมายถึงความเร็วรอบสูงสุดที่ใบตัดสามารถรองรับได้
ประเภทของวัสดุที่สามารถตัดได้ เช่น “INOX” หมายถึง เหมาะสำหรับตัดสแตนเลส , “METAL” หมายถึง เหมาะสำหรับตัดเหล็กทั่วไป
มาตรฐานความปลอดภัย เช่น “EN12413” หรือ “ANSI B7.1” เป็นเครื่องหมายมาตรฐานสากลที่รับรองความปลอดภัยของใบตัด

เลือกใบตัดไฟเบอร์อย่างไรให้เหมาะกับงาน
การเลือก ใบตัดไฟเบอร์ ให้เหมาะกับงานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัสดุที่ต้องการตัด ความหนาของชิ้นงาน และประเภทของเครื่องมือที่ใช้ พัมคิน รวมแนวทางในการเลือกใบตัดไฟเบอร์ที่เหมาะสมมาให้คุณแล้ว
เลือกใบตัดไฟเบอร์ที่ได้คุณภาพ
ปัจจัยสำคัญที่ควรกล่าวถึงเป็นอันดับแรกคือคุณภาพของใบตัดไฟเบอร์ แม้ว่าใบตัดไฟเบอร์ราคาถูกอาจช่วยลดต้นทุนในระยะสั้น แต่กลับสร้างปัญหาและอันตรายมากมายในการใช้งาน ใบตัดคุณภาพต่ำ มักผลิตจากวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ แตกง่ายเมื่อใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อใช้กับเครื่องที่มีรอบหมุนสูง หากใบตัดแตกขณะใช้งาน อาจก่อให้เกิดบาดเจ็บรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนั้นใบตัดที่ไมได้คุณภาพยังมีอายุการใช้งานที่สั้น สึกหรอเร็ว รวมถึงทำให้ชิ้นงานที่ตัดไม่สวยงาม ไปจนถึงเกิดรอยไหม้ได้
เลือกใช้แผ่นไฟเบอร์ที่ออกแบบมาให้ตัดง่าย และทนต่อการสีกหรอ
การเลือก แผ่นไฟเบอร์ ที่ออกแบบมาให้ ตัดง่าย ตัดเร็ว และทนทาน จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน โดยควรพิจารณาจากวัสดุของแผ่นไฟเบอร์ ความหนาของแผ่นไฟเบอร์ โครงสร้างแผ่นไฟเบอร์และชั้นเสริมแรง (Reinforcement Layers) ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
เลือกตามประเภทของวัสดุที่ต้องการตัด
ชิ้นงานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็รเหล็ก, สแตนเลส, อะลูมิเนียม, คอนกรีต ต้องใช้ใบตัดไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับวัสดุนั้น ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการตัด ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการตัด ไปจนถึงความสวยงามของชิ้นงานที่ออกมา
เลือกความหนาของใบตัด
ใบตัดบาง (1.0-1.2 มม.) → ตัดได้รวดเร็ว คม แต่สึกหรอเร็ว เหมาะกับงานสแตนเลสหรืองานที่ต้องการความเรียบร้อย
ใบตัดหนา (2.5-3.0 มม.) → แข็งแรง ทนทาน ใช้กับเหล็กหนาหรือโลหะหนัก
ความเร็วรอบของใบตัด (RPM)
ใบตัดควรมีความเร็วรอบสูงสุดที่รองรับได้ไม่น้อยกว่าความเร็วรอบของเครื่องมือ เช่น เครื่องเจียรมือ 4 นิ้ว มักหมุนที่ 11,000-12,000 RPM ดังนั้นใบตัดต้องรองรับความเร็วนี้ได้

ใช้ใบตัดไฟเบอร์อย่างไรให้ปลอดภัยและมีอายุการใช้งานยาวนาน
การใช้แผ่นตัดไฟเบอร์ร่วมกับเครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจียรมือ แท่นตัดไฟเบอร์ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มีหลักการทำงานคือการหมุนด้วยความเร็วสูง จึงเสี่ยงเกิดอันตรายจากความเร็วที่เกิดขณะใช้งาน นอกจากเศษชิ้นส่วนที่อาจแตกหักจากใบตัดแล้ว ใบตัดไฟเบอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานยังก่อให้เกิดอันตรายจากอนุภาคฝุ่นเรซินละเอียดจะระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา หรือปอดอีกด้วย
ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานใบตัดไฟเบอร์
เลือกใบตัดให้เหมาะกับงาน
ตรวจสอบว่าใบตัดรองรับวัสดุที่ต้องการตัด เช่น เหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม หรือคอนกรีต ปัจจัยสำคัญของความปลอดภัยคือต้องเลือกใบตัดที่ผลิตอย่างได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง ไม่แตก-หักง่าย
ตรวจสอบใบตัดก่อนใช้งาน
เช็กว่าใบตัด ไม่มีรอยร้าว, แตก หรือบิ่น หากมีความเสียหาย ห้ามใช้งานเด็ดขาด เพราะอาจแตกกระจายและเป็นอันตรายได้
ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและอยู่ในสภาพดี
เครื่องเจียรหรือเครื่องตัดไฟเบอร์ ต้องมีความเร็วรอบ (RPM) ไม่เกินที่ใบตัดรองรับ ตรวจสอบการขันล็อกใบตัดให้แน่นก่อนใช้งาน
สวมอุปกรณ์ป้องกัน (PPE) ทุกครั้ง
อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยคือปัจจัยสำคัญในการทำงานช่างทุกประเภท การใช้ใบตัดไฟเบอร์ให้ปลอดภัยก็เช่นกัน ผู้ใช้งานควรสวมแว่นตานิรภัย (Safety Glasses) , หน้ากากกันฝุ่น, ถุงมือกันบาด, ที่ครอบหู ลดเสียงดัง รวมไปถึงเสื้อแขนยาว ป้องกันสะเก็ดไฟ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานแผ่นตัดไฟเบอร์ได้อย่างปลอดภัย
จับเครื่องมือตัดอย่างมั่นคงและถูกวิธี
จับให้แน่น ใช้แรงกดพอเหมาะ ห้ามกดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ใบตัดแตก ให้ใบตัดหมุนถึงความเร็วสูงสุดก่อนเริ่มตัด
ตัดในทิศทางที่ถูกต้อง
ตัดตามแนวตรง หลีกเลี่ยงการบิดหรือเอียงใบตัด รวมถึงห้ามใช้ใบตัดสำหรับงาน “ตัด” ไปใช้ “เจียร” เพราะอาจทำให้ใบแตก
เพราะจุดเริ่มต้นของการทำงานช่างให้ปลอดภัยคือการเลือกเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน พัมคินขอนำเสนอ มาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในงานตัด ใบตัดไฟเบอร์ PUMPKIN รุ่น T-REX EURO SAFETY Type

เลือกอย่างชาญฉลาด เลือกเพื่อความปลอดภัย เลือกใบตัดไฟเบอร์ T-REX EURO SAFETY Type จากพัมคิน
คุณภาพและความปลอดภัยที่เหนือระดับ
ใบตัดรุ่นนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการตัดสูง แต่ยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานหนักที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยและคุณภาพที่เหนือระดับ
วัสดุและเทคโนโลยีการผลิต
ใบตัดไฟเบอร์ PUMPKIN รุ่น T-REX EURO SAFETY Type ผลิตจากเม็ดขัดคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยใช้ อะลูมิเนียมออกไซด์เกรดพรีเมียม (Premium Aluminum Oxide) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงเสียดสีสูง ทำให้สามารถตัดโลหะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่เสริมความแข็งแรงด้วย ไฟเบอร์กลาสหลายชั้น (Reinforced Fiberglass) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแตกหักของใบตัดขณะใช้งาน
เทคโนโลยีการผลิตใบตัดของพัมคินได้รับมาตรฐานที่กำหนดคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของใบตัดและใบเจียร โดยกระบวนการผลิตมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าใบตัดทุกแผ่นมีโครงสร้างที่แข็งแรงและปลอดภัยสูงสุด
จุดเด่นด้านความปลอดภัย
หนึ่งในคุณสมบัติที่ทำให้ PUMPKIN รุ่น T-REX EURO SAFETY Type แตกต่างจากใบตัดทั่วไป คือ ระบบความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงในการแตกหักและกระเด็นของใบตัด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุในงานตัดโลหะ โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้
เสริมความแข็งแรงด้วยไฟเบอร์กลาสหลายชั้น เพิ่มความทนทาน ลดโอกาสที่ใบตัดจะแตกหักเมื่อเจอแรงกระแทกสูง
มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความเสถียรในการตัด
ทนความร้อนสูง ลดโอกาสที่ใบตัดจะเกิดการไหม้หรือบิดเบี้ยวเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
รองรับความเร็วรอบสูง (Max RPM) สูงกว่าใบตัดทั่วไป ช่วยให้สามารถใช้ร่วมกับเครื่องเจียรได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ประสิทธิภาพในการตัด
ใบตัด PUMPKIN รุ่น T-REX EURO SAFETY Type ถูกออกแบบมาให้สามารถตัดโลหะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยความคมของเม็ดขัดที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้การตัดเกิดขึ้นอย่างราบรื่นและลดการสึกหรอของใบตัด นอกจากนี้ ยังให้รอยตัดที่เรียบเนียน ลดเศษวัสดุที่เกิดขึ้นหลังการตัด ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดเวลาการขัดแต่งชิ้นงานภายหลัง
ใบตัดไฟเบอร์ PUMPKIN รุ่น T-REX EURO SAFETY Type เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานตัดโลหะที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับมาตรฐานยุโรปและการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ใบตัดรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ผู้ใช้งานมืออาชีพให้ความไว้วางใจ การเลือกใช้ใบตัดที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทุกการตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด