เครื่องตัดเหล็กแบบแท่นใช้ใบไฟเบอร์หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “แท่นตัดไฟเบอร์” เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะการใช้งานที่สามารถตัดวัสดุได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง ไม่เปลืองแรงผู้ใช้งานมากนัก แถมยังมีราคาที่เป็นมิตรต่อช่างมืออาชีพตลอดจนผู้ทำงาน DIY อีกด้วย
บทความนี้พัมคินจะมาแนะนำวิธีเลือกแท่นตัดไฟเบอร์ให้เหมาะกับงานของคุณ อ่านจบเลือกถูกแน่นอน
ขนาดของชิ้นงานที่ต้องการตัด
ชิ้นงานที่ต้องการตัด ต้องรู้ก่อนว่า จะเอาไปใช้งานอะไร ตัดวัสดุประเภทไหน มีความหนาเท่าไหร่ และต้องการใช้งานหนักขนาดใด แล้วถึงจะรู้ว่า ควรใช้เครื่องตัดกำลังขนาดไหนถึงจะเหมาะกับงาน
กำลังไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับชิ้นงาน
เราจะนำไปใช้ตัดเหล็กที่ความหนาเท่าไหร่เป็นส่วนใหญ่ กำลังของเครื่องยิ่งสูง จะทำให้เราตัดชิ้นงานที่หนาขึ้นได้โดยเครื่องไม่ overload มากเกินไป สำหรับงาน DIY ที่มักจะใช้เหล็กอยู่ที่ความหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ส่วนช่างมืออาชีพก็อาจจะหนากว่านั้น
เครื่องตัดไฟเบอร์ กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ขนาดของเหล็กที่ตัดแล้วไม่เป็นภาระเครื่องมากเกินไปก็จะอยู่ที่ประมาณ 12 มิลลิเมตร
เครื่องตัดไฟเบอร์ กำลังไฟ 1,800 วัตต์ ควรใช้ตัดเหล็กที่มีความหนาไม่เกิน 15 มิลลิเมตร
เครื่องตัดไฟเบอร์ กำลังไฟ 2,000 วัตต์ เหมาะสำหรับใช้ตัดเหล็กที่มีความหนาไม่เกิน 30 มิลลิเมตร
เครื่องกำลังน้อย ก็จะทำให้เวลาที่เราใช้งานตัดเหล็กหนา ๆ เครื่องจะเกิดความร้อนสูง ทุ่นก็อาจจะไหม้และทำให้เครื่องตัดเสียหายอย่างรวดเร็ว
แล้วทำไมเราถึงไม่ซื้อแท่นตัดไฟเบอร์ที่กำลังเครื่องสูง ๆ ไปเลยล่ะ ?
สำหรับคำถามข้อนี้ก็ตอบว่า เป็นเพราะกำลังวัตต์ของเครื่องมือยิ่งสูงราคาก็จะสูงตาม แถมยังเปลืองไฟโดยใช่เหตุ สำหรับแท่นไฟเบอร์ตัดเหล็กกำลังวัตต์ 2,800 วัตต์นั้นก็เพียงพอต่อความต้องการของช่างทั่วไป
ถ้าไปเลือกซื้อที่ร้าน ลองทดสอบเครื่องดูความแข็งแรงของจุดต่าง ๆ
หากมีโอกาสไปเลือกชมสินค้าที่ร้าน และได้สัมผัสสินค้าตัวจริง คุณสามารถประเมินว่าเครื่องมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ , น้ำหนักเยอะมากเกินไปหรือไม่ เพราะถ้าเครื่องหนักจนเกินไปอาจไม่คล่องตัวเวลาเคลื่อนย้ายไปใช้นอกสถานที่
ตอนเปิดไฟกระชากหรือไม่ สามารถทดสอบได้โดยลองเสียบปลั๊กแล้วเปิดเครื่อง เพราะแท่นตัดไฟเบอร์บางรุ่นดึงไฟ กระชากไฟเมื่อเปิดเครื่อง
อีกจุดที่สำคัญคือสลักคอเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนที่ที่เราใช้กดใบลงบนชิ้นงาน เพราะบางยี่ห้อแกนสามารถขยับไปมาได้ ไม่มั่นคง ก็จะทำให้เวลาที่กดแกนใบตัดลงบนชิ้นงานก็อาจจะไม่ได้ฉากหรือระยะที่ตัดคลาดเคลื่อนไปได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไปหน้าร้าน ไปเลือกชมเครื่องก็ลองโยกซ้าย-ขวาดูความแข็งแรงมั่นคงโดยรวมของเครื่องก่อน แล้วก็ลองหมุนตัวล็อคดูว่าสามารถจับชิ้นงานได้แน่นหนาหรือไม่
เลือกใบตัดให้เหมาะกับเครื่องตัด
นอกจากการเลือกเครื่องแล้ว การเลือกใบตัดก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว เพราะใบตัดเป็นสิ่งสำคัญที่สัมผัสกับวัตถุโดยตรง หากเครื่องตัดคุณภาพดี แต่ใบตัดคุณภาพไม่ดี งานก็ไม่สามารถออกมาดีได้ ซึ่งใบตัดไฟเบอร์ในท้องตลาดสำหรับแท่นตัดไฟเบอร์ที่ใช้กันโดยทั่วไปจะมีขนาด 14 นิ้ว หรือ 16 นิ้ว ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับแท่นตัดไฟเบอร์นั่นเอง
ปริมาณของไฟเบอร์ในใบตัด
ปริมาณของเส้นใหญ่ไฟเบอร์ภายในใบตัดเหล็กที่ผสมมา มีความสำคัญต่อความแข็งแรงความเหนียวและความยืดหยุ่น ลดการแตกกระจายของใบตัดเหล็กได้ดี ควรสังเกตทุกครั้งก่อนเลือกใช้คือ ใบตัดเหล็กจะต้องมีไฟเบอร์ผสม 1 ชั้น หรือ 2 ชั้น ถือได้ว่าควรเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงมากที่สุด
รู้วิธีใช้งานให้ถูกต้องคือกุญแจสำคัญ
การใช้งานเครื่องตัดและใบตัดได้อย่างถูกต้องตามวิธีการ มีส่วนช่วยในเรื่องประสิทธิภาพของการทำงานได้ดีขึ้น การตัดได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยตลอดการใช้งาน หากผู้ใช้งานยังไม่มีความชำนาญและวิธีการใช้งานของเครื่องตัดหรือการใช้งานของใบตัดเหล็ก ไม่ควรปฏิบัติงานโดยลำพัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
คุณภาพของใบตัดทำให้งานออกมาดีและปลอดภัย
หลักการทำงานของแท่นตัดไฟเบอร์ เครื่องตัดเหล็ก หรือแม้กระทั่งเจียรมือ ต่างก็มีหลักการเดียวกันคือการทำงานด้วยความเร็วรอบสูง เมื่อกดใบตัดที่หมุนด้วยความเร็วลงบนชิ้นงาน หากใช้ใบตัดที่ไม่มีมาตรฐาน นอกจากจะไร้ประสิทธิภาพในการตัดแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย เพราะอาจแตก หัก กระเด็นมาทำให้ผู้ใช้งานบาดเจ็บได้
ใบตัดที่ได้มาตรฐานต้องมีมอก.หรือมีระบบ iso รองรับถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการควบคุมประสิทธิภาพและคุณภาพของใบตัดเหล็ก ทำให้เราสามารถเลือกใช้งานใบตัดเหล็กที่ดีมีคุณภาพ มากกว่าการเลือกแบรนด์ที่เราไม่รู้จักมากนักหรือราคาถูกกว่าท้องตลาดมากกว่าปกติ ให้สันนิษฐานได้ว่าแบรนด์เหล่านี้ถูกนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายหรือสินค้าอาจไม่ได้คุณภาพ
สำหรับใบตัดไฟเบอร์แบรนด์พัมคินนั้น ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001-2000 เยอรมนี ตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองคุณภาพ และความปลอดภัย
ตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น ใบมีความคมสูง จึงตัดชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาในการตัดน้อยกว่ารุ่นอื่น 25% อีกทั้งยังให้ความคงทนที่มากกว่า
