แชร์ไปที่

ประแจหกเหลี่ยม ไอเทมจิ๋วประโยชน์แจ๋ว เครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่คุณต้องมีติดบ้าน-ติดรถ

ตอบทุกข้อสงสัย ทำไม ประแจหกเหลี่ยม ถึงเป็นไอเทมสามัญประจำบ้าน

ประแจหกเหลี่ยม หรือที่รู้จักกันในชื่ออัลเลนคีย์ (Allen Key) คือเครื่องมือช่างที่มีหน้าตัดเป็นรูปหกเหลี่ยมทั้งแท่ง มักถูกดัดให้เป็นรูปตัว L เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งสองปลาย โดยปลายหนึ่งใช้สำหรับขันในพื้นที่ลึก อีกปลายให้แรงบิดมากกว่า ประแจหกเหลี่ยมถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับสกรูหรือโบลต์ที่มีร่องหกเหลี่ยมด้านใน ซึ่งไม่สามารถใช้ไขควงหัวแฉกหรือหัวแบนทั่วไปได้ การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถถ่ายเทแรงบิดได้มากและมีความแม่นยำสูงในการขันหรือคลาย ไม่เกิดการลื่นไถลง่าย

ต้นกำเนิดของ ประแจหกเหลี่ยม

เครื่องมือนี้เริ่มแพร่หลายในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และยานยนต์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่ช่างทุกคนต้องมีติดกล่อง เนื่องจากความเรียบง่ายในโครงสร้าง ทนทานต่อแรงบิด และไม่เสียรูปง่าย ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงาน DIY และงานซ่อมแซมทั่วไปภายในบ้าน

ประแจหกเหลี่ยม มีหลักการทำงานอย่างไร

การทำงานของประแจหกเหลี่ยมอิงจากหลักการถ่ายเทแรงบิด (Torque Transfer) โดยการหมุนประแจที่เสียบในร่องหัวสกรูหกเหลี่ยม แรงหมุนจะถูกส่งต่อไปยังตัวสกรูอย่างมั่นคงไม่ลื่นหลุด ซึ่งแตกต่างจากไขควงที่อาจลื่นหลุดหากหัวสกรูสึกหรือบิดเอียง การออกแบบรูปหกเหลี่ยมช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างประแจกับหัวสกรู ทำให้แรงบิดกระจายอย่างสม่ำเสมอและลดความเสียหายที่อาจเกิดกับตัวสกรูได้

โครงสร้างตัว L และแรงบิด ของประแจหกเหลี่ยม

การดัดรูปประแจให้เป็นตัว L ไม่ใช่แค่เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ยังเป็นการเพิ่มระยะคานเพื่อสร้างแรงบิดที่มากขึ้นด้วย หากต้องการแรงมาก ให้ใช้ปลายยาวเป็นด้ามจับ แต่หากต้องการความคล่องตัวในพื้นที่จำกัด ให้ใช้ปลายสั้นหมุนแทน จึงนับว่าเป็นเครื่องมือที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างแรงและความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างแท้จริง

สารพัดประโยชน์จากประแจหกเหลี่ยม ใช้งานอะไรได้บ้าง

ประแจหกเหลี่ยมเป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่งานบ้านอย่างการประกอบเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือเหล็ก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สกรูหัวหกเหลี่ยมตามมาตรฐานสากล ไปจนถึงงานจักรยานที่ต้องใช้ประแจชนิดนี้ในการปรับเบรก แฮนด์ หรือขาจาน ด้วยเหตุที่สามารถเข้าถึงจุดแคบได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำ

ประแจหกเหลี่ยม ในงานบ้าน – ตัวช่วยงาน DIY และงานประกอบเฟอร์นิเจอร์

หนึ่งในบทบาทสำคัญของประแจหกเหลี่ยมในชีวิตประจำวันคือการใช้ในการประกอบและซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมักพบในเฟอร์นิเจอร์ประเภทน็อคดาวน์ เช่น โต๊ะ เตียง เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า จากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง IKEA หรือ SB Design Square โดยเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มักใช้สกรูหัวหกเหลี่ยมที่ต้องอาศัยประแจเฉพาะในการขันแน่นหรือคลายออก ซึ่งการใช้ประแจหกเหลี่ยมจะช่วยให้ขันสกรูได้อย่างแนบสนิท โดยไม่ทำให้หัวน็อตเสียหาย

นอกจากนี้ งาน DIY ทั่วไป เช่น การติดตั้งชั้นวางของ การประกอบโครงเหล็กเล็ก ๆ หรือแม้แต่การปรับแต่งชิ้นส่วนของอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น ราวตากผ้า หรือพัดลมตั้งพื้นบางรุ่น ก็สามารถใช้ประแจหกเหลี่ยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตัวประแจสามารถเข้าไปในพื้นที่จำกัด และให้แรงบิดที่พอเหมาะกับชิ้นส่วนที่มีความละเอียด

ประแจหกเหลี่ยม ในงานช่าง – จับขันแน่นทุกระบบกลไก

สำหรับงานช่างทั่วไป ทั้งช่างซ่อมบำรุง ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ช่างไฟฟ้า ไปจนถึงช่างซ่อมเครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน ประแจหกเหลี่ยมถือว่าเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้บ่อยมาก ด้วยคุณสมบัติที่สามารถขันน็อตได้แม่นยำโดยไม่ทำให้หัวน็อตหลุดหรือรูด ทำให้ช่างสามารถถอดหรือขันชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ

ตัวอย่างการใช้งานที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • งานซ่อมจักรยาน: ใช้ในการปรับเบรก ปรับแฮนด์รถจักรยาน ขันขาจาน หรือเปลี่ยนผ้าเบรก เพราะหลายชิ้นส่วนในจักรยานใช้สกรูหัวหกเหลี่ยม

  • งานซ่อมมอเตอร์ไซค์: ใช้ในการขันหรือคลายสกรูฝาครอบ เครื่องยนต์ หรือชุดแฟริ่ง

  • งานซ่อมเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน: เช่น ชั้นไม้ที่ติดเข้ากับโครงเหล็ก ระบบล็อกประตูตู้ หรือกลอนลิ้นชักต่าง ๆ

  • งานระบบไฟ: สำหรับช่างไฟฟ้าที่ต้องติดตั้งหรือเปลี่ยนกล่องพักสายไฟ กล่องควบคุมที่ยึดด้วยสกรูหกเหลี่ยม

นอกจากนี้ ประแจหกเหลี่ยมยังเหมาะกับการพกพาในชุดเครื่องมือของช่างเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และสามารถรวมเป็นชุดพับแบบพกพาได้ง่าย

ประแจหกเหลี่ยมในงานอุตสาหกรรม – เล็กแต่ทรงพลังกับงานหนัก

ในภาคอุตสาหกรรม การใช้งานประแจหกเหลี่ยมจะยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงงานผลิตเครื่องจักรกล โรงกลึง โรงพิมพ์ หรือแม้แต่ในสายการประกอบยานยนต์ เครื่องบิน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หนัก ๆ เพราะสกรูหกเหลี่ยมถูกออกแบบมาให้รับแรงบิดสูงโดยไม่เสียหายง่ายเหมือนหัวน็อตแบบแฉกหรือแบน

ลักษณะงานที่พบในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่:

  • ประกอบเครื่องจักร CNC: ใช้ประแจหกเหลี่ยมในการติดตั้งหรือถอดชิ้นส่วนภายใน เช่น มอเตอร์ เซ็นเซอร์ หรือชุดหัวตัด

  • ติดตั้งโครงสร้างเหล็ก: ประแจหกเหลี่ยมที่ใช้กับน็อตหัวจมหรือหัวกลม จะช่วยลดโอกาสเกิดการเกี่ยวเสื้อผ้าหรือชิ้นงานขณะใช้งานเครื่องจักร

  • งานแม่พิมพ์: ต้องใช้ประแจหกเหลี่ยมในการเปลี่ยนหรือถอดส่วนแม่พิมพ์ ซึ่งมักเป็นน็อตซ่อนอยู่ในจุดที่ยากต่อการเข้าถึง

  • การปรับตั้งระบบไฮดรอลิก: สกรูหกเหลี่ยมในวาล์ว ควบคุมแรงดัน และชุดควบคุมมักต้องใช้เครื่องมือชนิดนี้

  • เครื่องมือแพทย์หรืออิเล็กทรอนิกส์ความละเอียดสูง: ประแจหกเหลี่ยมขนาดเล็กพิเศษ (Mini Hex Key) ใช้ในการถอดหรือประกอบชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กและต้องการความแม่นยำ

ในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความมั่นคงและแม่นยำสูง ประแจหกเหลี่ยมที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี เช่น เหล็กโครมวานาเดียมหรือเหล็ก S2 จะให้ความทนทานต่อแรงบิดมากกว่าและไม่สึกหรอง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน

ประแจหกเหลี่ยมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเล็ก ๆ ที่ไว้ขันเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในงานช่างหลากหลายแขนง ตั้งแต่งานประกอบทั่วไปในบ้าน งานช่างที่ต้องการความละเอียด ไปจนถึงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและแม่นยำสูง ด้วยความสามารถในการส่งแรงบิดได้ดี ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่ายในพื้นที่แคบ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม “ประแจหกเหลี่ยม” ถึงกลายเป็นเครื่องมือสามัญประจำบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมไปพร้อมกัน

ประแจหกเหลี่ยม แบรนด์ PUMPKIN

เลือกประแจหกเหลี่ยมอย่างไรให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์

การเลือกประแจหกเหลี่ยมที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ จำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายประการร่วมกัน ทั้งรูปทรง ขนาด ความยาว และวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งแต่ละปัจจัยล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งานในระยะยาว โดยมีปัจจัยที่ควรพิจารณา ดังนี้

เลือกรูปทรงของประแจให้เหมาะกับลักษณะงาน

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ “รูปทรงของประแจ” โดยทั่วไป ประแจหกเหลี่ยมจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ

  • ประแจหกเหลี่ยมทรงตัว L (L-type): เป็นรูปแบบมาตรฐานที่พบเห็นบ่อยที่สุด จุดเด่นของประแจชนิดนี้คือความแข็งแรง ทนแรงบิดสูง และสามารถใช้สองด้านได้ทั้งด้ามสั้นและด้ามยาว เหมาะกับงานทั่วไปที่ต้องการแรงขันแน่น เช่น งานประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรือซ่อมจักรยาน

  • ประแจหกเหลี่ยมหัวบอล (Ball-end Hex Key): ปลายประแจถูกเจียรเป็นทรงกลมแหลม ทำให้สามารถสอดเข้าไปขันน็อตในมุมเอียงได้ถึงประมาณ 25 องศา เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในพื้นที่แคบหรือจุดที่มองไม่เห็นโดยตรง เช่น ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้า ใต้โต๊ะทำงาน หรือเบรกจักรยานที่อยู่ชิดกับเฟรม

สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ควรเลือกชุดประแจที่มีทั้งหัวตรงและหัวบอล เพื่อรองรับการทำงานทั้งในพื้นที่โล่งและพื้นที่จำกัด

ขนาดต้องพอดี – อย่าใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินจำเป็น

หัวน็อตหกเหลี่ยมมีหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจิ๋วในงานอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงหัวใหญ่ในงานเครื่องจักรกลหนัก ดังนั้น การเลือกขนาดของประแจจึงต้องสอดคล้องกับลักษณะงาน โดยทั่วไปแล้วชุดประแจหกเหลี่ยมที่อเนกประสงค์ควรประกอบด้วยขนาดตั้งแต่ 1.5 มม. จนถึง 10 มม. (หรือ 1/16 นิ้ว ถึง 3/8 นิ้วในระบบนิ้ว) เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งงานบ้าน งานจักรยาน ไปจนถึงงานซ่อมเครื่องยนต์

เคล็ดลับ: หากต้องเลือกซื้อเพียงหนึ่งชุด ให้มองหาชุดประแจแบบ “เมตริก+นิ้ว” ที่รวมทั้งสองมาตรฐานในชุดเดียว เพื่อให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายทั้งจากยุโรป อเมริกา และเอเชีย

ความยาวของประแจ – ควบคุมแรงบิดได้ตามต้องการ

ประแจหกเหลี่ยมแต่ละขนาดจะมี “ความยาวด้าม” ที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อแรงบิดและความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่แคบ

  • ด้ามสั้น (Short Arm): ให้แรงบิดสูง เหมาะกับการขันน็อตที่แน่นหรืออยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น ขันน็อตเฟอร์นิเจอร์ที่ชิดขอบ

  • ด้ามยาว (Long Arm): ให้ระยะการหมุนกว้าง ใช้งานสะดวก เหมาะกับน็อตที่อยู่ลึก เช่น งานซ่อมมอเตอร์ หรืองานที่ต้องสอดประแจเข้าไปลึก

ในกรณีที่ต้องการความอเนกประสงค์สูง ควรเลือกชุดประแจแบบ “Long Arm” เป็นหลัก เพราะสามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นมากกว่า และอาจพิจารณาแบบที่มีหัวบอลเพื่อใช้งานในมุมเอียงร่วมด้วย

วัสดุและคุณภาพของเหล็ก – ความทนทานคือหัวใจสำคัญ

วัสดุที่ใช้ผลิตประแจหกเหลี่ยมมีผลต่อความแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งานอย่างมาก ประแจคุณภาพต่ำจะบิดงอหรือเสียรูปได้ง่ายเมื่อเจอแรงบิดสูง หรืออาจทำให้หัวน็อตเสียหายตามไปด้วย วัสดุที่แนะนำ ได้แก่

  • เหล็กโครมวานาเดียม (Chrome Vanadium Steel): แข็งแรง ทนต่อแรงบิดสูง และไม่ขึ้นสนิมง่าย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

  • เหล็ก S2 (S2 Tool Steel): เป็นเกรดสูงกว่าที่ให้ความแข็งแรงมากกว่าโครมวานาเดียม ใช้ในงานอุตสาหกรรมหรือมืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำและทนทานสูง

  • เหล็กกล้าคาร์บอน: แข็งแต่เปราะง่าย เหมาะกับงานเบา ไม่ควรนำไปใช้กับแรงบิดสูง

นอกจากนี้ การเคลือบผิวของประแจ เช่น เคลือบโครม เคลือบดำ หรือเคลือบฟอสเฟต จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ป้องกันสนิม และทำให้จับถนัดมือมากขึ้น

การเลือกประแจหกเหลี่ยมให้สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์นั้น ไม่ใช่แค่การหยิบอันไหนก็ได้มาใช้งาน แต่ต้องพิจารณาหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม ขนาดที่ครอบคลุมงานส่วนใหญ่ ความยาวที่ตอบโจทย์มุมการเข้าถึง วัสดุที่ให้ความแข็งแรงทนทาน รวมไปถึงรูปแบบการจัดเก็บที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้

เลือก ประแจหกเหลี่ยม ให้คุ้มค่า ต้องเลือกประแจหกเหลี่ยมจากพัมคิน

แบรนด์ PUMPKIN เป็นที่รู้จักในวงการเครื่องมือช่างของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความตั้งใจในการพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมสากล โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องมือประเภทขัน ยึด และจับ ที่แบรนด์ได้ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่งานเบาไปจนถึงงานหนัก

ประแจหกเหลี่ยมจาก PUMPKIN คือหนึ่งในสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมสูง ไม่เพียงเพราะความแข็งแรงทนทาน แต่ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทั้งมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป

ประแจหกเหลี่ยม จาก PUMPKIN ผลิตจากวัสดุเกรดอุตสาหกรรม

ประแจหกเหลี่ยมจาก PUMPKIN ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น เหล็กโอซาก้าชุบแข็งพิเศษ ที่ผ่านการอบชุบเพื่อให้ทนต่อแรงบิดสูงโดยไม่เสียรูป เคลือบผิวป้องกันสนิม พร้อมด้ามจับที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ จับกระชับมือ ไม่ลื่นแม้ในสภาวะที่มือเปียก นอกจากนี้ยังมีราคาคุ้มค่า และหาซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือช่างชั้นนำ

ประแจหกเหลี่ยม PUMPKIN – หลากหลายแบบ ครอบคลุมทุกงาน

ความคุ้มค่าเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกประเภทของประแจที่เหมาะกับงาน โดย PUMPKIN ออกแบบประแจหกเหลี่ยมให้มีความหลากหลาย ทั้งในด้านขนาด รูปทรง และรูปแบบการจัดเก็บ ดังนี้:

  • แบบตัว L หัวตรง: เหมาะกับงานทั่วไป เช่น งานประกอบเฟอร์นิเจอร์ ขันน็อตจักรยาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ให้แรงบิดสูง ใช้งานง่าย

  • แบบหัวบอล (Ball-end): ปลายประแจเจียรทรงกลมเฉียง ช่วยให้ขันน็อตในมุมเอียงได้สะดวก เหมาะกับงานที่มีพื้นที่จำกัดหรือมุมอับ เช่น งานติดตั้งใต้โต๊ะหรือภายในเครื่องจักร

  • ชุดพับพกพา: รวมหลายขนาดไว้ในด้ามเดียว เปิดใช้งานแบบมีดพับ เหมาะสำหรับพกติดรถหรือใช้ภาคสนาม

  • ชุดพร้อมกระเป๋าเก็บ: มาในซองหรือกล่องจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการเลือกขนาดใช้งาน

ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อชุดประแจที่รวมขนาดตั้งแต่ 1.5 มม. ไปจนถึง 10 มม. หรือระบบนิ้ว (Inch) เพื่อรองรับการใช้งานกับน็อตหลากหลายประเภท ทั้งงานในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ

คุ้มค่าทุกบาท ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ PUMPKIN เป็นที่นิยมในหมู่ช่างและผู้ใช้งานทั่วไป คือ ราคาที่สมเหตุสมผล แม้ว่าจะใช้วัสดุคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่เข้มงวด แต่ราคาจำหน่ายยังคงเป็นมิตรกับผู้บริโภค โดยเฉพาะหากเทียบกับคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือที่ทนทาน ใช้งานต่อเนื่องได้ทุกวัน หรือสาย DIY ที่ต้องการชุดประแจคุณภาพดีไว้ซ่อมของในบ้าน ประแจหกเหลี่ยมจาก PUMPKIN คือตัวเลือกที่ “ใช่” ทั้งในด้านคุณภาพ วัสดุ ความทนทาน ความหลากหลาย และราคาที่จับต้องได้ เพราะประแจดี ๆ จะช่วยให้งานช่างของคุณราบรื่น แม่นยำ และปลอดภัยขึ้นอย่างชัดเจน
เลือก PUMPKIN – เครื่องมือดี ๆ ที่ช่างมือโปรไว้วางใจ


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.