แชร์ไปที่

ประแจคอม้า vs ประแจเลื่อน ใช้งานต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี

เจาะลึก ประแจคอม้าและประแจเลื่อน ความแตกต่างและการใช้งาน

ประแจคอม้า (หรือที่บางครั้งเรียกว่า ประแจท่อ ประแจจับท่อ ประแจจับแป๊บ) เป็นประแจปรับขนาดได้ที่ออกแบบมาเพื่อจับและขันท่อโลหะหรือข้อต่อท่อที่มีผิวกลมโดยเฉพาะ โครงสร้างของประแจคอม้าโดยทั่วไปมีรูปทรงตัว F แข็งแรง ด้ามจับยาวทำจากเหล็กกล้า เมื่อหมุนขันท่อ ฟันหยักที่หน้าปากประแจจะกัดลงในผิวท่อช่วยยึดให้จับกับท่อแน่นขึ้น ด้วยเหตุนี้ ประแจคอม้าจึงให้แรงบิดสูง เหมาะสำหรับท่อที่ขันแน่น หรือในงานเดินท่อขนาดใหญ่ที่ต้องการแรงบิดมากๆ. อย่างไรก็ตามข้อควรระวังคือ ฟันของประแจคอม้ามีความคมหยักลงบนผิวท่อ เมื่อใช้งานจะทิ้งรอย หากใช้กับหัวน็อตหรือวัสดุที่ต้องการความเรียบสวย ประแจคอม้าจะทำให้เกิดรอยและเสียหายได้ จึงไม่เหมาะกับงานขันน็อตทั่วไป

หลักการทำงานของประแจคอม้ามีดังนี้: เมื่อวางประแจบนท่อ โดยให้ฟันของปากล่าง (lower jaw) กัดเข้ากับผิวท่อและให้ด้ามประแจยาวออกในแนวตั้งฉาก หลังจากนั้น เมื่อดึงหรือดันด้ามประแจไปในทิศทางที่ต้องการจะหมุนท่อ ฟันหยักจะขบลงไปลึกขึ้นในผิวท่อ ทำให้จับได้แน่น และใช้แรงบิดจากด้ามประแจปลดหรือขันท่อนั้น ๆ ได้อย่างมั่นคง การปรับขนาดปากประแจคอม้าทำได้ด้วยการหมุนสกรูปรับหรือเลื่อนจับที่บริเวณใกล้ๆ กับปาก ทำให้กว้าง-แคบได้ตามขนาดท่อที่จะใช้งาน

ประแจคอม้ามีขนาดหลายแบบ ตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับงานซ่อมทั่วไป เช่น 6, 8 นิ้ว ไปจนถึงขนาดใหญ่ 18–36 นิ้ว หรือมากกว่า สำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก การเลือกขนาดประแจคอม้าให้เหมาะกับงานจึงสำคัญมาก เพราะประแจที่เล็กเกินไปจะขันท่อใหญ่ไม่ไหว แต่ถ้าใหญ่เกินก็อาจใช้งานไม่ถนัดในที่แคบ ในการใช้งานประแจคอม้า ควรวางท่อให้ตรงกลางฟันทั้งสอง และบีบให้ฟันยึดแน่นกับท่อทุกครั้งก่อนหมุนน็อต เพื่อหลีกเลี่ยงการลื่นหลุดขณะขัน

ทำความรู้จักประแจเลื่อน และความแตกต่างจากประแจคอม้า

ประแจเลื่อน (Adjustable Wrench หรือ Adjustable Spanner) เป็นประแจที่สามารถปรับความกว้างของปากประแจได้เพื่อให้รองรับกับหัวน็อตหรือโบลต์ขนาดต่าง ๆ กัน ลักษณะทั่วไป คือมีด้ามจับยาว ส่วนหัวเป็นรูปตัว C (วงเดือน) หนึ่งข้างของปากประแจเป็นตายกับด้าม ส่วนอีกข้างหนึ่งเคลื่อนที่ได้ ประกอบด้วยสกรูหมุน (ตัวหนอน) ที่ใช้ปรับขนาดปาก เมื่อหมุนสกรูให้ปากแคบหรือกว้างก็จะสามารถใช้งานกับน็อตหลายขนาดได้ จุดเด่นของประแจเลื่อนคือความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะสามารถใช้ไขงานได้หลายขนาดเพียงแค่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งฟันจับโดยไม่ต้องพกชุดประแจหลายตัวหลายเบอร์

ในแง่หลักการทำงาน การใช้ประแจเลื่อนก็คล้ายกับประแจปากตายทั่วไป คือใช้ขอบปากทั้งสองข้างยึดหัวน็อตแล้วดึงหรือดันด้ามประแจให้ขัน แต่เนื่องจากฟันข้างหนึ่งสามารถปรับได้ ประแจเลื่อนจึงจับน็อตได้เต็มสองหน้าเดียวเท่ากันเหมือนประแจปากตาย จึงควรให้ฟันปรับอยู่ทางด้านไม่เคลื่อนตามกับแรงขันเพื่อป้องกันฟันลื่นขณะใช้งาน เนื่องจากประแจเลื่อนใช้สกรูหมุน (worm screw) ในการปรับความกว้างของปาก ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าสกรูทำงานได้ดี ปากไม่คลอนหลวมก่อนเริ่มใช้งาน

ความแตกต่างเชิงเทคนิคของประแจคอม้า VS ประแจเลื่อน

ประแจคอม้าและประแจเลื่อนมีโครงสร้างและการออกแบบแตกต่างกันอย่างชัดเจน ประแจคอม้ามักจะผลิตจากเหล็กกล้าแบบ I-Beam มีโครงสร้างรูปตัว F หนักและแข็งแรง ข้อดีคือสามารถรับแรงบิดสูง จึงเหมาะกับงานหนักและงานที่พื้นผิวชิ้นงานไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ (เพราะฟันหยักกัดผิวไว้) ในขณะที่ประแจเลื่อนมักเป็นโลหะกล้าแบบยืดหยุ่น มีทั้งรุ่นที่ทำจากเหล็ก Cr-V แข็งแรงทั่วไป และรุ่นอะลูมิเนียมเพื่อความเบา โดยโครงสร้างเป็นรูปตัว C (วงเดือน) ที่มีสกรูปรับเปลี่ยนตำแหน่งฟันจับได้. ประแจเลื่อนจึงมีปากประแจขนานกัน ทำให้จับน็อตได้ทั่วทั้งสองด้านเต็มที่ ต่างจากฟันของประแจคอม้าที่หยักเป็นมุม

ในด้านการปรับขนาด ประแจเลื่อนปรับได้ด้วยเกลียวหมุนจึงใช้งานได้ง่ายและละเอียด แต่การปรับอาจสึกได้เมื่อใช้งานนาน หากสกรูคลอนอาจทำให้ปากประแจโยก. ส่วนประแจคอม้ามีระบบปรับรูปแบบสไลด์หรือไกด์ซึ่งมักทนทานกว่าแต่ปรับได้น้อยกว่าประแจเลื่อน เพราะจะต้องการขนาดที่พอดีกับเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ จึงกล่าวได้ว่าประแจเลื่อนมีความยืดหยุ่นในการใช้งานกับขนาดน็อตที่หลากหลายกว่า แต่ประแจคอม้ามีความแข็งแรงทนทานต่อแรงบิดที่สูงกว่า

นอกจากนี้ ประแจคอม้ามักมีขนาดยาวมาก (เช่น 12, 18, 24 นิ้วขึ้นไป) เพื่อให้เกิดแรงบิดสูง ขณะที่ประแจเลื่อนมีตั้งแต่เล็ก (4 นิ้ว) จนถึงขนาดใหญ่ (30 นิ้วขึ้นไป) และยังมีรุ่นขนาดเทียบเท่าประแจทั่วๆ ไป เช่น 6, 8, 10 นิ้ว แต่ตัวเลขนี้เป็นความยาวด้าม ไม่ใช่ความกว้างปาก มืออาชีพจึงเลือกตามความยาวด้ามที่ต้องการแรงบิดมากขึ้น ในขณะที่งาน DIY อาจเลือกประแจขนาดเล็ก-กลางเพื่อความสะดวกและน้ำหนักเบา

ประแจทั้งสองชนิดเหมาะกับงานแบบไหน

ประแจคอม้า (Pipe Wrench): เหมาะกับงานประปาและงานช่างที่เกี่ยวข้องกับท่อ โดยเฉพาะท่อเหล็กหรือท่อโลหะที่ต้องมีการขันแน่น เช่น งานติดตั้งหรือถอดท่อใต้ซิงก์ล้างจาน งานซ่อมท่อแป๊ปในบ้าน หรือการติดตั้งท่อน้ำในโครงการใหญ่. ประแจคอม้าสามารถจับยึดท่อได้มั่นคง ไม่ลื่นหลุดแม้ผิวท่ออาจเก่า มีสนิม หรือมีคราบน้ำมันอยู่ ด้วยด้ามจับยาว จึงให้แรงบิดสูงช่วยให้ขันท่อแน่นๆ ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้สะดวกในที่แคบ เช่น ใต้ซิงก์หรืออ่างล้างหน้า ที่เครื่องมืออื่นเข้าไม่ถึง อย่างไรก็ตาม ประแจคอม้ามีทั้งแบบขาเดี่ยวและขาสอง ซึ่งแบบขาสอง (มีขาค้ำยัน) จะเพิ่มแรงหนีบและลดโอกาสที่ประแจเลื่อนหลุดขณะใช้งาน

ประแจเลื่อน (Adjustable Wrench): เหมาะกับงานขันน็อตหรือโบลต์ทั่วไปหลายขนาด โดยเฉพาะงานซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้านทั่วไป งานบำรุงรักษารถยนต์ หรืองานช่างเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการประแจหลายขนาดแต่ไม่สะดวกพกประแจหลายเล่ม ประแจเลื่อนช่วยอำนวยความสะดวกในงานด่วนหรืองาน DIY ต่างๆ เพราะสามารถครอบคลุมน็อตหลายเบอร์ได้ในตัวเดียว เมื่อเทียบกับประแจคอม้า ประแจเลื่อนจะเหมาะกับงานขันหัวน็อตแบบสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยมมากกว่า เพราะหน้าปากเป็นเรียบไม่กัดผิวดังเช่นประแจคอม้า ไม่ทิ้งรอยกับชิ้นงาน ประแจเลื่อนหลายรุ่นจึงมีสเกลหรือเครื่องหมายบอกความกว้างไว้ที่ปาก ช่วยให้ปรับให้พอดีกับหัวน็อตได้แม่นยำยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของ ประแจคอม้ากับประแจเลื่อน

ประแจคอม้า:

  • ข้อดี: ให้แรงบิดสูง เหมาะกับงานขันท่อหนักๆ จับท่อและข้อต่อกลมได้มั่นคง ไม่ลื่นหลุดง่าย โครงสร้างแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก

  • ข้อเสีย: น้ำหนักมากและมีขนาดใหญ่ ไม่สะดวกพกพาติดตัว ใช้ในพื้นที่แคบลำบาก ปากประแจมีฟันคม ซึ่งจะกัดผิวชิ้นงานและทำให้เกิดรอย (จึงไม่เหมาะกับน็อตหรือชิ้นงานที่ต้องการความเรียบร้อย) ไม่สามารถใช้งานกับน็อตทั่วไปได้เพราะหัวน็อตจะเสียหาย

ประแจเลื่อน:

  • ข้อดี: ปรับขนาดได้หลากหลาย ใช้ขันน็อตและโบลต์หลายขนาดได้โดยไม่ต้องพกหลายตัว ลดความยุ่ง ยาก น้ำหนักเบาและกะทัดรัดกว่าประแจคอม้า พกพาสะดวก ใช้งานง่ายในพื้นที่จำกัด ปากประแจเรียบจึงไม่ทำลายผิวน็อตหรือหัวโบลต์
  • ข้อเสีย: มีขีดจำกัดในการจับน็อต ต้องปรับให้พอดีกับขนาด หากปรับไม่กระชับ หรือใช้เลื่อนเปิดกว้างเกินไป จะเกิดเสียงแกว่งและถอดหลุดได้ง่าย ประแจเลื่อนแต่ละขนาดจับน็อตได้เพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น (หากต้องใช้น็อตใหญ่ขึ้นต้องใช้ประแจเลื่อนขนาดใหญ่ขึ้นด้วย) และโดยทั่วไปรับแรงบิดได้ต่ำกว่าประแจคอม้า จึงไม่เหมาะกับงานขันท่อหนักหรือแรงบิดสูง

วิธีเลือกประแจให้เหมาะกับงานของคุณ

  • พิจารณาชนิดงาน: หากงานเป็นงานประปา เช่น ต้องขันหรือถอดท่อเหล็กหรือตัวยึดท่อ กลึง ปั๊มน้ำ ฯลฯ ควรเลือกใช้ ประแจคอม้า เพราะออกแบบมาสำหรับท่อโดยเฉพาะ จับท่อกลมได้แน่น แต่ถ้าเป็นงานขันสกรู น็อต หรืองานประกอบชิ้นส่วนทั่วไป ให้เลือก ประแจเลื่อน เนื่องจากปรับได้เข้ากับขนาดหัวน็อตต่างๆ และไม่ทำลายผิวน็อต
  • วัดขนาดชิ้นงาน: กรณีที่เป็นงานขันน็อตหรือโบลต์ ให้ใช้สูตรง่ายๆ โดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Ø) ของหัวน็อต แล้วคูณด้วย 1.5 (ผลลัพธ์ = N×1.5) เพื่อให้ได้ขนาดปากประแจที่เหมาะสม เช่น น็อต Ø 0.5 นิ้ว จะใช้ประแจเลื่อนขนาดประมาณ 0.75 นิ้ว (หรือ 3/4 นิ้ว). หลังจากรู้ขนาดแล้ว ให้เลือกรุ่นที่ระบุความยาวด้ามประมาณตัวเลขนี้ (ขนาดใหญ่กว่าที่ต้องการเล็กน้อยก็ได้ แต่ไม่ควรใหญ่เกินไป เพราะจะจับลำบากและกินพื้นที่มาก)
  • ขนาดและแรงบิดที่ต้องการ: สำหรับประแจคอม้า ให้เลือกล้อกว้างหรือยาวกว่าขนาดท่อเล็กน้อย เนื่องจากด้ามที่ยาวกว่าจะให้แรงบิดมากขึ้น แต่พึงระวังเรื่องน้ำหนัก หากพื้นที่จำกัดอาจเลือกขนาดสั้นลง สำหรับประแจเลื่อน ให้เลือกความยาวด้ามที่เหมาะสมกับแรงบิดที่ต้องการ (ด้ามยาวจะให้แรงบิดสูงกว่า) และตรวจสอบค่าปากประแจสูงสุดที่รุ่นนั้นรองรับ
  • วัสดุและการใช้งานเฉพาะ: สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานประแจเลื่อนในที่แคบ เข้าถึงยาก ไม่สามารถใช้ประแจเลื่อนขนาดปกติในการขันได้ ทาง PUMPKIN ก็พัฒนาประแจเลื่อนแบบพิเศษออกวางจำหน่าย นั่นคือ ประแจเลื่อนอะลูมิเนียมปากกว้าง 8 นิ้ว รุ่น PTT-ALW8 ซึ่งใช้ขันในที่แคบได้ดี แถมมีน้ำหนักเบา ตัวสั้นไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ เหมาะกับการมีไว้ติดกล่องเครื่องมือช่างเป็นอย่างยิ่ง หรือใช้ประแจคอม้าที่มีโครงสร้าง I-Beam บางรุ่นเพื่อความเบาลง

แนะนำ 3 รุ่น ประแจคอม้า หรือประแจจับแป๊บ จาก PUMPKIN เครื่องมือทรงพลังสำหรับมืออาชีพตัวจริง

ในการเลือกเครื่องมือสำหรับงานประปา งานประกอบท่อ และงานอุตสาหกรรมหนัก “ประแจคอม้า” หรือที่รู้จักกันว่า “ประแจจับแป๊บ” ถือเป็นไอเทมที่ต้องมีติดกล่องเครื่องมือ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการแรงจับสูงในงานที่ต้องล็อกท่อหรือลำกล้องกลม PUMPKIN จึงออกแบบประแจคอม้าไว้ 3 รุ่นหลักที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นสำหรับงานหนักพิเศษ น้ำหนักเบา หรือเน้นแรงจับเต็มมือ มาดูแต่ละรุ่นกันว่ามีจุดเด่น วัสดุ และการใช้งานที่เหมาะสมอย่างไร 

ประแจคอม้า 2 ขา รุ่น Cr-V สีส้ม : จับแน่นอยู่หมัด งานหนักแค่ไหนก็ไม่ถอย

วัสดุ:
ประแจจับแป๊ป หรือประแจคอม้า รุ่นนี้ ผลิตจากเหล็กกล้าโครมวานาเดียม (Chrome Vanadium Steel – Cr-V) ที่มีความแข็งแรงและความเหนียวในระดับสูง ผ่านกระบวนการ Drop Forged หรือ “ขึ้นรูปด้วยแรงกระแทก” ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับเครื่องมือระดับอุตสาหกรรม

ขนาดที่มีให้เลือก: 1 นิ้ว, 1.5 นิ้ว, 2 นิ้ว, 3 นิ้ว, 4 นิ้ว
เหมาะกับงาน: ประกอบท่อเหล็ก งานติดตั้งระบบประปา งานก่อสร้างอาคาร และงานซ่อมแซมโครงสร้างเหล็ก

จุดเด่นของรุ่นนี้:

  • ความแข็งแรงสูงในราคาคุ้มค่า: ตัวประแจสามารถรับแรงบิดสูงได้โดยไม่เสียรูป และทนต่อการใช้งานหนักต่อเนื่อง เหมาะกับมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือราคาดีแต่คุณภาพอุตสาหกรรม

  • ฟันจับลึกและคม: ฟันของประแจผ่านกระบวนการเจียรพิเศษและชุบแข็ง ทำให้มีความคม จับได้แน่นแม้ท่อที่มีคราบน้ำมันหรือสนิม ไม่ลื่น ไม่หลุดมือ

  • ปรับระยะการจับได้แม่นยำ: เกลียวปรับด้านในถูกออกแบบให้หมุนลื่นมือ ทำให้การปรับระยะจับท่อทำได้รวดเร็วและแม่นยำ ไม่กินเวลาหน้างาน

  • ด้ามจับเคลือบสีส้มสด: ไม่ใช่แค่เพิ่มความสวยงาม แต่ช่วยให้มองเห็นชัดเจนบนพื้นที่รกหรือมืด เช่น ใต้พื้น ฝ้า หรือพื้นที่ทำงานจำกัด

ประแจคอม้า Cr-MO ด้ามอะลูมิเนียม : แกร่ง ทน พร้อมโครงสร้างเสริมแรงแบบ I-beam

วัสดุ:
หัวประแจทำจากโลหะผสมโครมโมลิบดีนัม (Chrome Molybdenum – Cr-MO) ซึ่งมีคุณสมบัติทนแรงบิดสูงได้โดยไม่บิ่นหรือเสียรูป ส่วนด้ามผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยพิเศษ แข็งแรงแต่น้ำหนักเบาอย่างมีนัยสำคัญ

ขนาดที่มีให้เลือก: 14″, 18″, 24″, 36″
เหมาะกับงาน: งานติดตั้งระบบแอร์ ระบบน้ำ งานซ่อมบำรุงในพื้นที่สูง หรืองานที่ต้องใช้งานเครื่องมือต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง

จุดเด่นที่ขยายเพิ่มเติม:

  • เบากว่า 40% แต่แข็งแรงเทียบเท่าเหล็ก: ด้วยโครงสร้างแบบ I-beam พร้อมโลหะผสมพิเศษที่คำนวณค่าน้ำหนักต่อแรงบิด ทำให้ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ล้าแขน โดยเฉพาะในหน้างานที่ต้องยกขึ้นระดับสูง

  • ฟันจับที่รองรับแรงกัดแบบมืออาชีพ: ฟันผลิตจาก Cr-MO ผ่านความร้อนเฉพาะจุดเพื่อให้ความแข็งกระจายอย่างสม่ำเสมอทั่วพื้นผิว ฟันมีความละเอียด จับได้แน่นแม้ในพื้นที่เล็ก

  • เหมาะกับงานแบบเคลื่อนที่: น้ำหนักเบาของด้ามทำให้สามารถพกติดตัว หรือขึ้น-ลงบันได/นั่งร้านได้ง่าย เหมาะสำหรับงานติดตั้งท่อในไซต์งานที่ต้องเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

  • มาตรฐานอุตสาหกรรม: รองรับแรงเปิดได้ตั้งแต่ 60 มม. – 140 มม. ตามขนาด และรองรับงานประกอบท่อขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ได้สบาย

ประแจคอม้า Cr-MO ด้ามเหล็ก : ตัวจริงทุกงาน จับ-ขัน แกร่งขั้นสุดแบบ Heavy Duty

วัสดุ:
ผลิตจากเหล็กกล้าเกรดอุตสาหกรรม เคลือบด้วยโครมโมลิบดีนัม (Cr-MO) เต็มชิ้น พร้อมโครงสร้างเสริมแรงแบบ I-beam สำหรับงานหนักเป็นพิเศษ

ขนาดที่มีให้เลือก: 8″, 10″, 12″, 14″, 18″, 24″, 36″, 48″
เหมาะกับงาน: โรงงานขนาดใหญ่ งานโครงสร้างท่อเหล็กในอุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืองานที่ต้องการแรงกัดและแรงบิดสูงที่สุด

จุดเด่นที่ขยายเพิ่มเติม:

  • รองรับแรงจับสูงสุด: ด้วยฟันที่ลึกและแข็งพิเศษ ผนวกกับโครงสร้างทั้งชิ้นที่ผ่านการขึ้นรูปด้วยแรงอัดระดับตัน ทำให้สามารถกัดท่อขนาดใหญ่โดยไม่เสียรูปหรือสึกง่าย

  • รองรับงานต่อเนื่องยาวนาน: ทนทานต่อการใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมงต่อวัน เช่นในโรงงานผลิต ช่างติดตั้งระบบแก๊ส หรือบริษัทรับเหมาระบบท่ออุตสาหกรรม

  • ฟันออกแบบให้ “กัดแล้วล็อก”: รูปฟันแบบโค้งเฉียงช่วยให้ยิ่งหมุน ยิ่งกัดแน่น เสริมความมั่นใจแม้ในท่อขนาดใหญ่หรือผิวท่อเปียกน้ำมัน

  • มีขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่พิเศษ: ตั้งแต่ขนาด 8 นิ้ว (จับได้ 1 นิ้ว) ไปจนถึง 48 นิ้ว (จับได้สูงสุด 139 มม.) เหมาะทั้งช่างทั่วไปและช่างระดับวิศวกรรมโครงสร้าง

เครื่องมือจาก PUMPKIN รุ่นดังกล่าวเป็นตัวอย่างของประแจคุณภาพ ที่ตอบโจทย์งานช่างตั้งแต่ระดับช่างบ้านทั่วไปจนถึงช่างมืออาชีพ โดยเน้นวัสดุมาตรฐานสูงและการออกแบบเพื่อความสะดวกในการใช้งาน การเลือกประแจที่ดีมีคุณภาพ เช่น PUMPKIN จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจทั้งเรื่องประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ในการทำงานช่างทุกประเภทได้อย่างคุ้มค่า

ทั้ง ประแจคอม้า และ ประแจเลื่อน มีบทบาทแตกต่างกันในงานช่าง หากต้องการงานขันท่อหรือขั้วต่อโลหะ ควรใช้ประแจคอม้าที่จับท่อได้แน่นและรับแรงบิดสูง แต่หากเป็นงานขันน็อตทั่วไปและต้องการความยืดหยุ่น ประแจเลื่อนคือคำตอบ โดยการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงานจะช่วยให้คุณทำงานได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และไม่ว่าจะเลือกใช้ประแจชนิดไหน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก PUMPKIN คือตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies)
Pumpkin ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

บริษัท พัมคิน คอร์ปอเรชัน จำกัด (“บริษัท”) เก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้และรับประกันสินค้า และขอความยินยอมในการนำข้อมูลไปใช้ทางการตลาด โดยท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บ การใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรืออื่นๆ และข้อมูลการติดต่อได้ที่รายละเอียด (กดดูรายละเอียด)

0
No products in the cart.