คีม มีกี่ชนิด แต่ละชนิดใช้งานต่างกันอย่างไร
คีม เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีหลากหลายรูปแบบตามลักษณะงานแต่ละประเภท แม้จะหน้าตาคล้ายกัน คีม แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะทางแตกต่างกันไป ตั้งแต่การจับ บีบ ดัด งอ ตัด ไปจนถึงการปลอกสายไฟ การติดตั้งห่วงล็อก ฯลฯ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย เราจึงจำเป็นต้องรู้จักคุณสมบัติของคีมแต่ละประเภทอย่างละเอียด จากแบรนด์ PUMPKIN ที่มีคีมหลายรุ่นให้เลือกใช้ ตอบโจทย์ทั้งช่างมืออาชีพและงาน DIY ในบ้าน ในบทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะการใช้งาน จุดเด่น และวิธีเลือกคีมแต่ละชนิดอย่างครบถ้วน โดยแบ่งตามประเภทดังนี้
คีม ปากจิ้งจก (Slip-Joint Pliers)
คีมปากจิ้งจกเป็นคีมพื้นฐานที่ใช้งานได้หลากหลาย มีแกนกลางแบบปรับระดับได้ (slip joint) ซึ่งช่วยให้เปิดปากคีมกว้าง-แคบตามขนาดชิ้นงานได้ ยอดฮิตทั้งงานช่างก่อสร้างและ DIY ชิ้นงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมทั่วไปเพราะสามารถจับ บีบ ดัด หรือแม้แต่ตัดวัสดุบางอย่างได้ในตัวเดียว คุณสมบัติพิเศษคือบริเวณปากคีมมักมีผิวเรียบหรือมีฟันหยาบ (serrated jaws) ด้านใน ทำให้จับจับวัสดุได้มั่นคง และอาจมีฟันตัดลวดอยู่ใกล้ ๆ บริเวณฐานปากคีม ทำให้ใช้ตัดลวดทองแดงหรือลวดเหล็กขนาดเล็กได้ด้วย จุดเด่นคือความอเนกประสงค์และทนทาน เหมาะกับการขันน็อตหรือจับยึดท่อที่มีขนาดไม่แน่นอน
การใช้งาน: นิยมใช้ในงานทั่วไป เช่น งานไฟฟ้า งานประปา และงานซ่อมบำรุงต่าง ๆ เมื่อไม่มีคีมเฉพาะหน้า คีมปากจิ้งจกสามารถจับหรือหนีบชิ้นงานแทนคีมชนิดอื่นได้ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังใช้จับตัดลวดบาง ๆ หรือไขน็อตเล็กได้ บางรุ่นเพิ่มสปริงที่ด้ามเพื่อปากคีมเปิดอัตโนมัติ สะดวกสำหรับใช้งานมือเดียว
จุดเด่น: ปากคีมปรับได้หลายระดับ ตอบโจทย์จับวัตถุหลายขนาด น้ำหนักเบาใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งช่างมืออาชีพและงาน DIY ในบ้าน ส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็กคาร์บอนชุบแข็ง ป้องกันสนิมและทนแรงกดได้ดี ด้ามจับหนา (บางรุ่นหุ้มฉนวน 200V) ช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะใช้งาน
วิธีเลือก: ให้เลือกขนาดที่เหมาะกับมือและชิ้นงาน เช่น คีมขนาด 6-8 นิ้วเป็นมาตรฐานทั่วไป หากต้องจับอุปกรณ์ขนาดใหญ่เลือกคีมขนาด 10 นิ้วขึ้นไป ตรวจสอบความแข็งแรงของเหล็กและคุณภาพการชุบแข็ง คีมที่ด้ามจับหุ้มฉนวนจะเพิ่มความปลอดภัยเมื่อใช้ในงานไฟฟ้า เลือกรุ่นที่มีสปริงอัตโนมัติหรือสวิตช์ล็อกเปิดปิดตามต้องการ เพื่อความสะดวกเมื่อใช้งานมือเดียว

คีม ปากแหลม (Needle-Nose Pliers)
คีมปากแหลมมีปลายคีมยาวเรียวและแคบกว่าแบบปกติ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดและเข้าพื้นที่แคบ เช่น งานอิเล็กทรอนิกส์ งานเครื่องประดับ หรืองานประปาที่ต้องการจับหรืองอชิ้นงานเล็ก ๆ ปากคีมแหลมมีทั้งแบบตรง (straight nose) และแบบงอ (bent nose) ซึ่งช่วยให้คล่องตัวเข้าถึงวัสดุในมุมต่าง ๆ ได้มากขึ้น บางรุ่นมีฟังก์ชันตัดสายไฟแทรกตรงกลางปากคีม ทำให้คีมชนิดนี้ใช้งานได้หลายด้าน ทั้งจับ ตัด ดัดสายไฟ ไปพร้อมกัน
จุดเด่น: ปลายคีมที่เรียวยาวทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบหรือยึดชิ้นงานที่คีมธรรมดาเข้าไม่ถึงได้ งานละเอียดเช่น ไขควงหรือบิดสายไฟในแผงวงจร มักใช้คีมปากแหลมเป็นหลัก เพราะให้ความแม่นยำสูง คนทำเครื่องประดับและช่างอิเล็กทรอนิกส์ชอบใช้คีมปากแหลมดัดหรือตั้งรูปร่างโลหะขนาดเล็กได้สะดวก
วิธีใช้งาน: ใช้หนีบ ตัด หรือม้วนลวดเล็ก ๆ งานที่ต้องการความแม่นยำโดยเฉพาะ เช่น การดัดขั้วสายไฟเข้าชุดคอนเนคเตอร์ หรืองานบัดกรีวงจรไฟฟ้า สามารถดัดชิ้นงานที่บิดงอนในที่คับแคบได้ดีกว่าคีมประเภทอื่น
วิธีเลือก: ควรเลือกขนาดคีมที่เหมาะกับงานและมือของผู้ใช้ คีมปากยาว 6–8 นิ้วเป็นขนาดมาตรฐาน หากต้องการเข้าพื้นที่แคบมาก ๆ อาจเลือกปลายคีมแบบงอ 45° หรือ 90° ดูวัสดุแข็งแรง เช่น เหล็กกล้าคาร์บอนชุบแข็ง และหากใช้งานกับไฟฟ้าให้เลือกคีมที่หุ้มฉนวนกั้นไฟ 1,000V
คีม ปากเฉียง (Diagonal Cutting Pliers)
คีมปากเฉียง หรือเรียกว่า คีมตัดเฉียง (Nipper) เป็นคีมสำหรับงานตัดโดยเฉพาะ ปลายคีมมักมีรูปทรงโค้งเฉียงและมีขอบคมบริเวณหน้าปากทั้งสองข้าง เหมาะสำหรับตัดวัสดุที่เป็นเส้น เช่น ลวดทองแดง ลวดเหล็ก ลวดสลิงขนาดเล็ก ไปจนถึงตะปูตื้น หรือลวดนำไฟฟ้า (VA, VFF)
จุดเด่น: มีโครงสร้างแข็งแรง ปลายคมที่เจียรอย่างประณีตเพื่อการตัดที่เรียบเนียน คีมตัดเฉียงบางรุ่นมีเลี้ยวเฉียงออกทำให้ได้แรงตัดมากขึ้น แม้จะเป็นคีมสั้นก็สามารถตัดลวดหนาได้ดีกว่าคีมตัดตรงชนิดเดียวกัน งานไฟฟ้าระดับช่างและงานก่อสร้างต่าง ๆ เช่น ตัดสายไฟ ตัดตะปูหรือตะกั่วที่ยื่นออกมา หลังติดตั้งชิ้นงาน เสร็จงานได้เรียบร้อย
วิธีใช้งาน: ใช้วัสดุเล็กหรือปานกลาง ข้อควรระวังคือต้องอยู่ในพิกัดที่คีมระบุไว้ ห้ามตัดสายเคเบิลแรงดันสูงหรือวัสดุที่แข็งเกินขนาด เช่น ลวดเหล็กเส้นขนาดใหญ่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการตัดวัตถุมีไฟที่ไม่ได้ตัดไฟ (แม้ว่าปลายคีมจะหุ้มฉนวนก็ตาม) เพื่อให้คมคมตลอด ควรหลีกเลี่ยงการตีหรือใช้แรงกระแทกกับคีมตัด
วิธีเลือก: พิจารณาความกว้างของปากคีมและความแข็งของวัสดุคีมที่ระบุขีดจำกัดความหนาของลวดได้ ควรเลือกคีมตัดเฉียงที่ใบมีดผ่านการชุบแข็ง (HRC 52-58) เพื่อความทนทาน เคสด้ามจับมีให้เลือกทั้งแบบด้ามหนา (กันลื่นได้ดี) และด้ามบาง (ควบคุมง่าย) ตามแต่ถนัด

คีมอเนกประสงค์ (Combination Pliers)
คีมอเนกประสงค์ เป็นคีมที่ผสมคุณสมบัติของการจับและการตัดไว้ด้วยกัน คีมชนิดนี้มักมีฟันหยาบตรงกลางปากสำหรับจับวัสดุสี่เหลี่ยม รวมถึงมีใบตัดลวดบริเวณฐานของกรามคีม ด้วยเหตุนี้ จึงนิยมนำมาใช้ในงานไฟฟ้า งานก่อสร้าง และงานช่างทั่วไป โดยเฉพาะงานเดินสายไฟ เพราะสามารถดึง จับ และตัดลวดได้พร้อมกัน
จุดเด่น: คีมอเนกประสงค์มีความหลากหลายดีไซน์ ทั้งแบบด้ามจับฉนวน (สำหรับงานไฟฟ้า) หรือด้ามปกติ น้ำหนักเบา บางรุ่นหุ้มฉนวนสำหรับงานแรงดันสูง สามารถใช้ดัด ลวด เหล็ก หรือสกรูเล็ก ๆ ได้ ด้วยโครงเหล็กคุณภาพ (วัสดุชุบโครเมียม) ตัวคีมจึงแข็งแรง ทนทาน เหมาะเป็นคีมคู่กายประจำกล่องเครื่องมือประจำบ้าน สำหรับช่างมือใหม่ที่ยังไม่รู้จะเริ่มจากคีมตัวไหนก็แนะนำคีมอเนกประสงค์ไว้ก่อน
การใช้งาน: ใช้จับชิ้นงานทั่วไป ปอกสายไฟ บิดลวดและตัดได้พร้อมกัน เช่น การดึงหัวสายไฟเข้าเข็มขัดงานไฟฟ้า หรือตัดลวดบริเวณกล่องสวิตช์ไฟ เป็นต้น
วิธีเลือก: ดูความหนาของปากคีมและใบมีดตัด ว่าพอดีกับขนาดลวดที่ใช้บ่อยหรือไม่ ควรเลือกรุ่นที่มีการชุบอลูมิเนียม หรือชุบแข็งตรงใบมีดเพื่อให้ทนทานต่อการตัดสายแข็ง ให้ความสำคัญกับด้ามจับควบคุมง่าย รวมถึงตรวจสอบว่าคีมสามารถเปิดได้กว้างพอสำหรับวัตถุชิ้นงานที่ต้องการจับหรือไม่
คีมตัดพลาสติก (Plastic Cutting Pliers)
คีมตัดพลาสติกเป็นคีมเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อ ตัดวัสดุอ่อน เช่น สายรัดพลาสติก (สายรัดเคเบิลไทร์), แผ่นพลาสติกบาง รวมถึงลวดอ่อนบางประเภทได้เรียบเรียง โดยมีใบมีดออกแบบพิเศษให้ตัดแบบ flush cut เพื่อให้ขอบวัสดุเรียบเนียนไม่บาดมือ ใช้วัสดุเหล็กคุณภาพดีและมักชุบแข็งใบมีดเพื่อความคมทนทาน
จุดเด่น: มาพร้อมใบมีดโค้งหรือเอียงเฉียงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับวัสดุทรงกลมอ่อน ทำให้ตัดผ่านสายเคเบิล เครื่องมือไฟฟ้าหรือชิ้นงานพลาสติกต่าง ๆ ได้สะอาดไร้คราบเหลือด้านหลัง เพราะใบมีดถูกเจียร์ให้บางและคมพิเศษ สามารถตัดได้ทั้งวัสดุพลาสติกและโลหะอ่อนเล็กน้อยโดยไม่เกิดการแตกหัก
การใช้งาน: เหมาะสำหรับตัดสายรัดพลาสติกต่าง ๆ เช่น สายรัดสายไฟ หรือตัดแผ่นพลาสติกใส กระเบื้องโฟม หรือผ้ารัดแบบอ่อน หลังติดตั้งงานที่เหลือชิ้นส่วนโครงสร้างพลาสติก ขนาดเล็ก–กลาง ต้องการตัดให้เรียบ จึงไม่บาดนิ้ว นอกจากนี้ยังใช้ตัดสายไฟเส้นคู่ขนาดบาง หรือสายทองแดงที่มีฉนวนเล็กน้อยได้ด้วย
วิธีเลือก: พิจารณาขนาดปากคีมกับชิ้นงานทั่วไปที่ตัดบ่อย เช่น สายรัดไทร์หรือสายไฟหลายมัด ควรเลือกคีมใบมีดโค้งตามที่ใช้งานบ่อย ทั้งนี้ควรเลือกด้ามจับเป็นแบบหุ้มยางหรือโพลิเมอร์ให้กระชับมือ โดยใช้วัสดุเหล็กแข็ง (alloy steel) เพื่อการตัดฉับไว และตรวจสอบว่าใบมีดสามารถตัดวัสดุที่ต้องการได้โดยไม่เกิดคราบหรือเศษพลาสติกติดอยู่บนคมมากนัก
คีมหุบแหวน – คีมถ่างแหวน (Snap-Ring/Circlip Pliers)
คีมถ่างแหวน (Snap-Ring Pliers) ใช้สำหรับติดตั้งและถอด แหวนล็อก (snap ring, circlip) ที่ยึดอยู่กับชิ้นงาน เช่น แหวนล็อกลูกสูบ หรือแหวนล็อกบนเพลา คีมถ่างแหวนมี 2 แบบหลักคือ ถ่างแหวนภายนอก (external circlip pliers) ซึ่งจะหุบปลายคีมเพื่อเปิดแหวนภายนอก และ หุบแหวนภายใน (internal circlip pliers) ที่บีบปลายคีมเพื่อขยายแหวนภายใน
จุดเด่น: ปลายคีมถ่าง/หุบแหวนจะมีลักษณะตะขอเล็ก ๆ เพื่อเกี่ยวเข้าไปในรูของแหวนล็อกโดยเฉพาะ และบางรุ่นสามารถสลับปรับได้ (แบบ 2-in-1) ซึ่งสะดวกกับงานซ่อมที่ต้องถอด/ติดตั้งทั้งแหวนภายในและภายนอก เครื่องจักรยนต์ งานยานยนต์ หรืองานเครื่องจักรกลต่าง ๆ ที่ใช้แหวนล็อก ทั้งในขั้นตอนซ่อมบำรุงเพื่อเปลี่ยนหรือทำความสะอาดชิ้นส่วน ตัวคีมช่วยให้ดึงแหวนออกได้โดยไม่ต้องขูดแหวน หรือดันจนบาดมือ
การใช้งาน: ใช้ติดตั้งหรือถอดวงแหวนล็อกบนเพลาหรือกระบอกสูบ เช่น การบำรุงรักษาเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรที่ต้องถอดไส้หม้อน้ำ หรืองานติดตั้งตลับลูกปืน หลังการทำงานควรเปลี่ยนกลับเป็นตำแหน่งเปิดปากตามปกติและล้างคราบน้ำมันหล่อลื่นออกเพื่อรักษาความลื่นของแกนคีม
วิธีเลือก: ตรวจสอบชนิดของแหวนล็อกที่ต้องใช้บ่อย (ภายใน/ภายนอก) และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหัวคีมที่พอดี เช่น หากทำงานกับแหวนล็อกเส้นผ่านศูนย์กลาง 3–10 มม. ให้เลือกคีมถ่างแหวนที่รองรับช่วงขนาดนั้น ด้ามจับควรเป็นพลาสติกหุ้มฉนวนหรือวัสดุกันลื่น เพื่อการจับถนัดและปลอดภัย ยิ่งถ้าคีมมีหัวเปลี่ยนปลายได้ จะช่วยประหยัดและสะดวกเมื่อต้องทำงานกับแหวนหลากชนิด หลักสำคัญคือต้องไม่เลือกคีมที่เล็กหรือใหญ่กว่ารูแหวนล็อกที่ต้องใช้ มิฉะนั้นจะใช้งานลำบากหรือคีมอาจเสียหายได้

คีม ตัด–ปอกสายไฟ (Wire Stripper Pliers)
คีมตัด–ปอกสายไฟเป็นคีมเฉพาะทางสำหรับงานไฟฟ้า โดยผสมฟังก์ชัน ตัด และ ปอกฉนวนสายไฟ ไว้ด้วยกัน ปลายคีมอาจมีใบมีดหุ้มฉนวนเพื่อป้องกันการลัดวงจร พร้อมช่องเจาะหลายขนาดสำหรับเล็งตัดฉนวนของสายไฟตามเกจด์ที่กำหนด ขณะเดียวกันบริเวณฐานของปากคีมก็มีครีบตัดลวดเพื่อใช้ตัดสายไฟได้เลย
จุดเด่น: ช่วยให้การทำงานกับสายไฟรวดเร็วขึ้นเพราะสามารถตัดและปอกสายไฟขนาดต่าง ๆ ได้ในเครื่องมือเดียว โดยไม่ต้องสลับไปหาคีมตัดหรือมีดปอกสายไฟแยก นักไฟฟ้าจะนิยมใช้คีมชนิดนี้สำหรับงานเดินสายไฟภายในตู้หรือการซ่อมสายไฟรถยนต์เป็นต้น คีมดี ๆ จะทำจากเหล็กทนทาน ชุบแข็งหน้าใบมีด และด้ามจับมักหุ้มฉนวน 1,000V เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
การใช้งาน: เลือกขนาดช่องเจาะให้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟที่จะใช้งานมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ตัดถูกแกนทองแดง คีมชนิดนี้ใช้สำหรับผ่า ฉีกหรือตัดฉนวนพลาสติกออกจากสายไฟ และตัดสายไฟเปลือยได้ รวมถึงสามารถใช้ตัดลวดทองแดงหรือสายลวดเล็ก ๆ ได้ด้วย หลังตัดแล้วดึงกระดาษฉนวนออกไป ทำให้งานติดตั้งสายต่อสะดวก
วิธีเลือก: ตรวจสอบเกจด์สายไฟที่ต้องการตัดปอกว่าคลอบคลุมหรือไม่ (เช่น 22–10 AWG) ควรเลือกคีมที่ปอกสายได้ตามเกจด์เหล่านั้น ด้ามจับต้องหุ้มพลาสติกฉนวนกันไฟ ถ้าต้องใช้งานในสภาพที่สายอาจมีแรงดันไฟฟ้าตกค้าง ควรเลือกคีมที่ออกแบบมาสำหรับไฟฟ้าโดยเฉพาะ บางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันปอกแบบอัตโนมัติที่เพียงย้ำจุดปอกก็ปอกฉนวนได้อย่างเดียว จึงสะดวกกับงานจำนวนมาก
คีม ตัดสายเคเบิ้ล (Cable Cutter Pliers)
คีมตัดสายเคเบิ้ลออกแบบมาเฉพาะสำหรับ ตัดสายไฟและสายเคเบิ้ลขนาดใหญ่ขึ้น (เช่น สายทองแดง, อะลูมิเนียม ถักหลายเส้น หรือสายไฟบ้านขนาด 2.5–4 มม.² ขึ้นไป) ปลายคีมมักมีใบมีดโค้งพิเศษและส่วนจับที่แข็งแรงเป็นพิเศษ การออกแบบใบมีดโค้งช่วยห่อหุ้มตัวสายไว้ตลอดจังหวะตัด จึงทำให้ตัดได้สะอาด ไม่ดันสายออกนอกปากคีม และไม่บิดออกขณะตัด กล่าวคือ สามารถตัดวัสดุกลมได้เป๊ะกว่าคีมใบตัดตรงธรรมดา
จุดเด่น: ใบมีดคมโค้งทรงพิเศษออกแบบมาให้ล้อมจับสายไว้ตลอดการตัด ทำให้ได้ขอบตัดที่สะอาดและไม่ทิ้งเสี้ยน เช่น ตัดสายแกนทองแดงที่มีชั้นฉนวน (ROMEX) หรือสายไฟแรงสูงบางชนิดได้เรียบร้อย พื้นผิวใบมีดชุบแข็งคมทน ความทนทานสูง เหมาะสำหรับช่างไฟและช่างประปาที่ต้องตัดสายเคเบิ้ลบ่อยครั้ง ในขณะที่คีมทั่วไปอาจตัดได้แค่สายเล็ก
การใช้งาน: ใช้สำหรับตัดสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลที่มีขนาดหนา เช่น สายไฟเฟส สายไฟเกจใหญ่ สายอลูมิเนียมต่าง ๆ ในงานติดตั้งไฟหลัก อาคาร และระบบไฟบ้าน ซึ่งต้องการการตัดที่สะอาดและรวดเร็ว บางรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อสายไฟแรงดันต่ำและสายอลูมิเนียมโดยเฉพาะ สามารถตัดสายเส้นลวดที่มีผิวห่อหุ้มหลายชั้น เช่น สาย CAT5/CAT6 หรือสายโทรศัพท์ได้เช่นกัน
วิธีเลือก: เลือกจากขีดจำกัดการตัดสาย (Capacity) ว่าเหมาะกับสายเคเบิ้ลที่ต้องใช้งานหรือไม่ เช่น ตัดสายไฟบ้านใช้สายขนาด 2.5–4 มม.² ควรเลือกคีมที่ตัดสายได้ 6–10 มม. สำหรับสายไฟแรงสูงหรือสายเคเบิ้ลเครื่องจักรอาจต้องการรุ่นที่ตัดได้ 20 มม. ขึ้นไป ควรเลือกคีมที่ใบมีดใหญ่ แข็งแรง และปากมีลักษณะโค้งเก็บสายได้ดี ด้ามจับหนาช่วยให้ทนแรงกด ใช้สะพานเสริมถ้าต้องตัดบ่อย (บางรุ่นเป็นไฮดรอลิก) และตรวจสอบว่าใบมีดผ่านการเจียร์มุมเทียบตัดเฉพาะพลาสติกหรือโลหะอ่อนตามการใช้งาน

คีมล็อค (Locking Pliers)
คีมล็อค (หรือคีมวิสกริป) เป็นคีมที่มี กลไกล็อกค้าง ช่วยหนีบจับชิ้นงานให้อยู่กับที่โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องใช้แรงบีบค้างเองตลอดเวลา คีมชนิดนี้มีสกรูปรับความกว้างของปากและแรงล็อกอยู่ปลายด้าม ช่วยให้ล็อกคีมที่ตำแหน่ง “เปิด-ล็อก” ได้ตามขนาดชิ้นงาน เช่น หัวน็อตหรือชิ้นส่วนโลหะต่าง ๆ หลังล็อกแล้วก็จะยึดได้มั่นคงเหมือนได้รับแรงบีบต่อเนื่องโดยไม่ต้องออกแรงจับ
จุดเด่น: มีแรงยึดจับสูง คล้ายกับปากคีมจับยึดแนบติดกับชิ้นงานตลอดเวลา ช่วยให้เรามี “มือที่สาม” คอยหนีบจับชิ้นงานยึดไว้ เช่น หากมีสกรูหลุดออกมา ตรึงตัวคีมล็อคที่หัวสกรูแล้วหมุนออกได้ง่ายกว่าการใช้ไขควงที่ลื่นหลุด บางงานใช้คีมล็อคลากเพื่อดัดเหล็กหรือดัดก้านเหล็กดัดเหล็กดัดเป็นรูปต่าง ๆ ได้ มล็อคจึงเหมาะกับงานซ่อมบำรุงทั่วไป เช่น ยึดแผ่นโลหะให้ติดกันเวลาเชื่อม สกรูถูกกรีดหลวม งานประปาต้องเปลี่ยนท่อที่แน่น ฯลฯ ใช้ในงานก่อสร้าง การเกษตร และการซ่อมแซมยานยนต์ก็จะอุ่นใจเมื่อมีคีมล็อคติดบ้านไว้อย่างน้อยหนึ่งตัว
การใช้งาน: ก่อนใช้ต้องขันสกรูที่ปลายคีมเพื่อปรับให้ปากเปิดในระยะที่ต้องการ จากนั้นนำมาหนีบชิ้นงานและบีบด้ามคีมจนคลิกล็อก หนีบคีมเข้าไปแน่นกับวัตถุนั้น หากจะปล่อยใช้งานต่อเพียงดึงกลอนปลดปล่อย (release lever) ที่ด้าม คีมก็จะปลดล็อก การใช้งานเช่น ถอดสกรูหัวติด เช่น ดึงกลอนถอดโซ่เก่าออก ดัดปลายแผ่นเหล็ก หรือยึดหีบห่อชิ้นงานให้แนบกันเวลาติดตั้งอุปกรณ์ก็ได้ ซึ่งการใช้งานลักษณะนี้ต้องใช้งานทั้งสองมือ จึงเกิดความล้าช้าได้หากต้องละมือที่จับชิ้นงานมาดึงกระเดื่องที่ด้าม พัมคิน จึงได้พัฒนาคีมล็อคในซีรีส์ Quick release ขึ้นมา เพื่อเพิ่มความสะดวกและคล่องตัวให้กับผู้ใช้งาน เพราะสามารถปลดล็อกได้ไว ทำงานได้ด้วยมือเดียว
วิธีเลือก: คำนึงถึงรูปทรงหัวคีมที่ตอบโจทย์ เช่น คีมล็อคปากตรง เหมาะจับวัสดุสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยม (เช่น น็อต หัวรีเวท) ได้เต็มหน้าสัมผัส กินแรงได้มาก เหมาะงานโลหะทั่วไป ส่วนคีมล็อคปากแหลม/โค้ง เหมาะกับงานที่เข้าถึงพื้นที่แคบ หรือต้องการหนีบจับชิ้นงานชิ้นเล็ก เช่น การจัดสายไฟดัดจับสายที่ช้อนยาก ควรเลือกขนาดความยาวของตัวคีมให้เหมาะกับงานทั่วไป (6–11 นิ้ว) ด้ามจับควรหนาแข็งแรง ใช้เหล็กไนคุณภาพสูงหน้าเหล็กอัดแข็ง เพื่อรองรับแรงขณะล็อก และดูระบบสกรูปรับปากที่ละเอียด สามารถปรับละเอียดได้ว่าชิ้นงานหนาจะจับแรงหรือเบาจับ เพื่อป้องกันชิ้นงานเสียหายจากแรงกดสูงเกินไป
คีมปากนกแก้ว (Bird-Beak/Circle Nose Pliers)
คีมปากนกแก้วเป็นคีมด้ามยาว ปลายคีมโค้งเหมือนปากนก มีหลายสไตล์ ตั้งแต่ปลายกว้างคล้ายนกแก้ว ไปจนถึงปลายเรียวยาวคล้ายปากช้อน ใช้สำหรับงานที่ต้องดัดงอหรือตั้งรูปร่างของลวด เช่น การม้วนห่วงประดับ งานทองหลอม ทองเหลือง หรืองานประดิษฐ์ทั่วไป ปลายคีมโค้งช่วยให้ควบคุมการดัดได้ละเอียด และสามารถจับวัสดุรูปทรงกลมเล็ก ๆ เช่น ท่อข้อต่อหรือสกรูหัวโค้งได้ดี จุดเด่นคือให้ความแม่นยำสูง ไม่ทำลายพื้นผิวที่บอบบาง เช่น สายเคเบิลเล็ก หรืออุปกรณ์นาฬิกา
การใช้งาน: ใช้งานดัดห่วงลวด ถักหนาม้า หรือบิดหูฟังทองเหลือง วัสดุเหล็กละเอียด หรืองานประดิษฐ์ที่ต้องรักษาความโค้งของวัสดุ ไม่ควรใช้กับชิ้นงานหนักหรือมีแรงมาก เพราะปลายคีมอาจเสียรูปได้
วิธีเลือก: ดูรูปทรงปลายคีมให้เหมาะกับชิ้นงาน เช่น ปลายกว้างดัดห่วงหรือวัตถุกลม ปลายเรียวยาวสำหรับเข้ารูเล็ก งานอิเล็กทรอนิกส์อาจต้องปลายบางพิเศษ หัวคีมควรชุบแข็งหรือใช้สเตนเลสคุณภาพสูงเพื่อทนรอยขีดข่วน ด้ามจับสบายมือควบคุมง่าย
คีมย้ำ (Crimping Pliers)
คีมย้ำเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อสายไฟกับขั้วต่อ โดยใช้แรงกดอัดเพื่อให้สายไฟแนบกับหางปลา หรือหัวต่อแบบต่าง ๆ อย่างมั่นคง แน่นหนา และปลอดภัย เหมาะสำหรับช่างไฟ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ และงานติดตั้งระบบไฟฟ้าทั่วไป โดยเฉพาะในรถยนต์ ตู้ไฟ หรืออุปกรณ์สื่อสาร
จุดเด่น: ปลายคีมมีร่องย้ำหลายขนาดสำหรับหางปลาประเภทต่าง ๆ เช่น หางปลาเปลือย หางปลาหุ้มฉนวน หรือขั้วต่อแบบปลายกลม ปลายแฉก ฯลฯ การย้ำด้วยคีมย้ำที่ถูกต้องจะช่วยให้การเชื่อมต่อไฟฟ้าปลอดภัย ไม่หลวม ไม่หลุด และไม่เกิดความร้อนสะสมในจุดเชื่อมต่อ
การใช้งาน: ปอกปลายสายไฟให้ได้ขนาดพอดี ใส่สายเข้าไปในหางปลา แล้วนำไปวางในช่องร่องของคีมย้ำที่เหมาะกับขนาดสาย จากนั้นออกแรงบีบจนแน่น หากย้ำถูกต้องจะไม่มีการหลุดหรือขยับของสาย และเมื่อนำไปทดสอบแรงดึง สายจะไม่หลุดออกจากขั้วต่อ
วิธีเลือก: ควรเลือกคีมย้ำที่มีร่องสำหรับสายที่ใช้งานบ่อย เช่น 1.5/2.5/6.0 มม.² หรือที่รองรับขั้วต่อหลายประเภท หากต้องการความแม่นยำและสะดวกยิ่งขึ้น ให้เลือกคีมย้ำแบบ “Ratchet” ซึ่งจะล็อกคีมไว้จนกว่าจะกดย้ำจนสุดแรง ทำให้ได้แรงย้ำที่สม่ำเสมอทุกครั้ง คีมย้ำของ PUMPKIN ยังมีรุ่นอเนกประสงค์ ที่สามารถตัด-ปอกสาย-ย้ำ ได้ในตัวเดียว เหมาะกับงานไฟที่ต้องการความคล่องตัว
จะเห็นได้ว่าเครื่องมือประเภท “คีม” นั้น ก็ยังมีแยกย่อยออกไปอีกหลายชนิดตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งพัมคิน ครบทุกเรื่องเครื่องมือช่าง ได้พัฒนาสินค้าประเภทคีมออกมา ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งาน คีมแต่ละชนิดของ PUMPKIN ถูกออกแบบให้รองรับงานเฉพาะทางอย่างมืออาชีพ มีทั้งขนาดเล็ก-ใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ตั้งแต่งานช่างไฟฟ้า งานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม ไปจนถึงงาน DIY และงานซ่อมแซมภายในบ้าน โดยจำเป็นต้องเลือกคีมให้เหมาะกับลักษณะงาน เช่น คีมปากเฉียงสำหรับตัดสายไฟ คีมล็อคสำหรับยึดจับงานหนัก คีมถ่างแหวนสำหรับถอดแหวนล็อก เป็นต้น ด้วยการเลือกใช้คีมให้ถูกประเภทและขนาด งานจะสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ PUMPKIN ก็มีคีมหลากหลายฟังก์ชันทั้งคีมตัด คีมย้ำ คีมล็อค ฯลฯ และหลายขนาด ให้ครบทุกความต้องการของช่างมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไปในบ้าน