ทำไมต้องใช้งานและเก็บรักษา แบตเตอรี่ลิเธียมไออน ให้ถูกวิธี
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สำหรับเครื่องมือไร้สาย ถือเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์ช่างยุคใหม่ การใช้งานและการเก็บรักษาแบตเตอรี่เหล่านี้อย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกทุกประเด็นที่ผู้ใช้ทุกกลุ่มควรรู้ เกี่ยวกับความปลอดภัยของแบตเตอรี่เครื่องมือไร้สาย โดยมุ่งเน้นที่การใช้งานและการเก็บรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และข้อความระวังต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกับเครื่องมือไร้สายของคุณ
บทความนี้จะอธิบายว่า เหตุใดเราจึงต้องใส่ใจการใช้งานและเก็บรักษาแบตเตอรี่, ระบบ BMS ในแบตเตอรี่คืออะไรและทำงานอย่างไร, มาตรฐาน มอก. สำคัญอย่างไร, แนวทางการใช้งานอย่างปลอดภัย และ วิธีการเก็บรักษาแบตเตอรี่ ให้ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมสรุปด้วยข้อดีของแบตเตอรี่ 20V PUMPKIN ที่มีครบทั้งระบบป้องกันอัจฉริยะและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
ทำไมควรใส่ใจเรื่องการใช้งานและเก็บรักษา แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
การใช้งานหรือเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างผิดวิธี อาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงได้ เช่น ไฟลุกไหม้หรือแบตเตอรี่ระเบิด เนื่องจากแบตเตอรี่ชนิดนี้ไวต่อความร้อนและแรงกระทบภายนอก หากแบตเตอรี่เกิด ไฟฟ้าลัดวงจรภายใน, การชาร์จไฟเกิน, หรือได้รับความเสียหายทางกายภาพ อาจเกิดความร้อนสะสมจนลุกไหม้ขึ้นได้ โดยไฟที่เกิดจากแบตเตอรี่ลิเธียมนั้นมีความรุนแรงเพราะอิเล็กโทรไลต์ติดไฟง่ายและแบตเตอรี่เก็บพลังงานไว้สูงมาก ดังนั้นการใช้งานที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจจุดชนวนให้เกิดเหตุไม่คาดฝันได้
พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเสื่อมเร็วหรือเกิดอันตราย
- ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงเป็นประจำ การใช้งานแบตเตอรี่จนแรงดันไฟฟ้าต่ำถึง 0% บ่อยครั้ง จะเร่งให้แบตเตอรี่ เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และความจุลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเซลล์ลิเธียมไอออนจะเกิดความเครียดเมื่อแรงดันตกต่ำเกินไป
- ชาร์จแบตเตอรี่นานเกินหรือค้างบนแท่นชาร์จ การปล่อยแบตเตอรี่ค้างอยู่ในสภาพไฟเต็ม 100% เป็นเวลานาน ทำให้อุณหภูมิแบตเตอรี่สูงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อไฟไหม้ แม้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ รวมถึง PUMPKIN จะมีวงจรป้องกันการชาร์จเกิน แต่การถอดแบตเตอรี่ออกจากที่ชาร์จเมื่อเต็มแล้วก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยง
- เก็บหรือใช้งานในที่อุณหภูมิสูง ความร้อนคือศัตรูตัวฉกาจของแบตเตอรี่ การวางแบตเตอรี่ไว้กลางแดด ในรถที่ร้อนจัด หรือใกล้แหล่งความร้อน จะทำให้เซลล์ภายในเสื่อมไว และอาจเกิดความร้อนสะสมจนอันตรายได้ (กรณีร้ายแรงคือเกิด ความร้อนสูงเกิน (thermal runaway) จนไฟลุก) นอกจากนี้ การเก็บในที่เย็นจัดเกินไปก็อาจกระทบโครงสร้างเคมีของแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
- การกระแทก ตกหล่น หรือเจาะแบตเตอรี่ การทำแบตเตอรี่ตกจากที่สูงหรือกระแทกอย่างแรง อาจสร้างความเสียหายให้เซลล์ภายในหรือวงจรป้องกัน แบตเตอรี่ลิเธียมถูกออกแบบให้ทนต่อแรงกระแทกในระดับหนึ่ง แต่หากเสียหายทางกายภาพ เช่น แตก, บวม, หรือร้าว ให้หยุดใช้งานทันที เพราะความเสียหายนี้อาจนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจรภายในเซลล์และก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
ใช้แบตเตอรี่ผิดวิธีหรือดัดแปลงเอง การนำแบตเตอรี่ไปใช้กับเครื่องมือที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกัน (เช่น การดัดแปลงให้ใช้แบตต่างยี่ห้อหรือต่างแรงดัน) เป็นสิ่งที่ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเครื่องมือบางชนิดอาจดึงกระแสไฟสูงเกินกว่าที่แบตเตอรี่รองรับได้ ส่งผลให้แบตเตอรี่ร้อนจัดหรือวงจรคุมไม่ทันจนเกิดอันตราย นอกจากนี้การแกะประกอบเซลล์เองหรือดัดแปลงวงจร BMS โดยไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ จะทำให้ระบบความปลอดภัยในแบตเตอรี่ไม่ทำงานตามที่ควร ซึ่งเสี่ยงอย่างมากต่อการลัดวงจรและไฟลุกไหม้
จะเห็นได้ว่าทั้งการใช้งานและการเก็บรักษาแบตเตอรี่ล้วนมีผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยตรง ผู้ใช้จึงควรใส่ใจและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเสมอ อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ 20V ของ PUMPKIN ทุกก้อนได้รับการออกแบบด้านความปลอดภัยมาอย่างดี เช่น มีวงจรควบคุมให้แรงดันจ่ายไฟคงที่ ป้องกันปัญหาไฟเกิน-ไฟตก และลดความร้อนสะสมขณะใช้งาน จึงใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานโดยไม่ต้องกังวลมากนัก แต่ผู้ใช้ก็ยังต้องใช้งานอย่างถูกวิธีควบคู่กันไป เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด

ระบบ BMS คืออะไร และช่วยให้การใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนปลอดภัยได้อย่างไร
BMS (Battery Management System) คือ ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นวงจรอัจฉริยะที่ติดตั้งอยู่ภายในแพ็กแบตเตอรี่ มีหน้าที่หลักในการ ตรวจสอบและควบคุมการทำงานของเซลล์แบตเตอรี่แต่ละก้อนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด BMS เปรียบเสมือนผู้จัดการส่วนตัวของแบตเตอรี่คอยดูแลไม่ให้เกิดสถานการณ์เกินขอบเขตที่เป็นอันตราย โดยประโยชน์สำคัญของระบบ BMS มีดังนี้
ป้องกันการชาร์จไฟเกิน (Overcharge Protection)
BMS จะตรวจวัดแรงดันของแบตเตอรี่ขณะชาร์จอยู่ตลอดเวลา หากพบว่าแบตเตอรี่ใกล้เต็มหรือเต็ม 100% แล้ว ระบบจะสั่งตัดไฟ หรือหยุดการชาร์จโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้แรงดันเกินขีดจำกัดที่ปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสูงหรือเซลล์เสียหายจากการอัดไฟเกินความจุ
ป้องกันการคายประจุต่ำเกิน (Over-discharge Protection)
ในทางกลับกัน BMS จะคอยตรวจระดับแรงดันไฟของแบตเตอรี่ขณะใช้งาน หากแรงดันตกต่ำใกล้ถึงระดับวิกฤต ระบบจะ ตัดการจ่ายไฟ เพื่อหยุดการใช้งานชั่วคราว (เครื่องมือจะดับไปเอง) ไม่ให้แบตเตอรี่ถูกดึงไฟจนหมดเกลี้ยง เพราะการปล่อยให้แบตเตอรี่แรงดันต่ำเกินไปจะทำให้เซลล์เสื่อมสภาพหรือเสียหายจนชาร์จไฟไม่เข้าได้
ป้องกันกระแสไฟเกินและไฟรั่ว (Overcurrent & Short-circuit Protection)
BMS ทำหน้าที่เหมือน ฟิวส์อัจฉริยะ ที่คอยตรวจสอบกระแสไฟที่ไหลเข้าออกแบตเตอรี่ หากเกิดกรณี ไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีกระแสสูงผิดปกติ (เช่น มอเตอร์ของเครื่องมือเกิดการขัดข้องจนดึงกระแสเกิน) ระบบจะตัดการจ่ายไฟทันทีในเสี้ยววินาที เพื่อตัดวงจรก่อนที่กระแสสูงนั้นจะทำให้สายไฟหรือเซลล์แบตเตอรี่ร้อนจนเกิดความเสียหายหรือไฟไหม้ BMS ยังช่วยป้องกันกรณี กระแสรั่วไหล ที่อาจเกิดจากความชื้นหรือสิ่งแปลกปลอม ทำให้วงจรปลอดภัยมากขึ้น
ป้องกันอุณหภูมิสูงเกิน (Overheat Protection)
ภายในแบตเตอรี่จะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ (NTC) ที่เชื่อมกับระบบ BMS หากแบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงเกินค่าที่กำหนด (เช่น ร้อนจัดจากการใช้งานหนักหรือจากการชาร์จนาน) BMS จะสั่งลดกระแสชาร์จ/ดิสชาร์จหรือหยุดการทำงานบางส่วนลง เพื่อให้แบตเตอรี่ได้ระบายความร้อน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนสะสมจนเป็นอันตราย นอกจากนี้บางรุ่นยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ร้อนเกินไป เพื่อให้ผู้ใช้หยุดพักการใช้งานก่อน
สมดุลเซลล์และสุขภาพแบตเตอรี่
ในแพ็กแบตเตอรี่ที่ประกอบด้วยเซลล์หลายก้อน BMS จะมีวงจร Balance ที่คอยปรับความสมดุลของแรงดันแต่ละเซลล์ให้เท่ากันระหว่างการชาร์จ (Cell Balancing) เพื่อให้เซลล์ทุกก้อนเต็มพร้อมกันและไม่มีเซลล์ใดถูกชาร์จเกิน นอกจากนี้ BMS ในบางรุ่นยังบันทึกข้อมูล สถานะสุขภาพของแบตเตอรี่ (State of Health) เช่น ความจุที่เหลืออยู่และจำนวนรอบชาร์จ เพื่อประเมินอายุการใช้งาน ทั้งหมดนี้ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น
สำหรับ แบตเตอรี่ 20V ของ PUMPKIN ทุกรุ่น (P20, X20 และ E20) ได้ติดตั้งระบบ BMS คุณภาพสูงที่ทำงานดังฟังก์ชันข้างต้นอย่างครบถ้วน โดยใน รุ่น P20 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสำหรับงานหนักจะมี ไมโครชิพ (IC) ภายในที่สามารถสื่อสารกับวงจรของเครื่องมือไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ ทำหน้าที่ปรับจ่ายพลังงานให้เหมาะสมและตัดการทำงานทันทีเมื่อมีการใช้งานผิดปกติ ส่งผลให้ดึงพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพและช่วยยืดอายุแบตเตอรี่อีกทางหนึ่ง ส่วนแบตเตอรี่ รุ่น X20 ซึ่งออกแบบสำหรับงานทั่วไปและงาน DIY นั้นใช้วงจร MOSFET ขั้นสูงในการควบคุมการจ่ายไฟให้เสถียร มาพร้อมระบบป้องกันอัจฉริยะที่เพียงพอกับงานเบา ถึงแม้น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดกว่า แต่ยังคงมีมาตรการป้องกันครบถ้วนเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
กล่าวได้ว่าไม่ว่าจะเลือกรุ่นใด แบตเตอรี่ PUMPKIN ก็ให้ความมั่นใจเรื่อง ความปลอดภัย ได้เต็มเปี่ยม เพราะระบบ BMS ภายในถูกออกแบบและทดสอบมาอย่างเข้มงวด
ระบบ BMS คือผู้คุมความปลอดภัยในแบตเตอรี่ที่คอยเฝ้าระวังเหตุผิดปกติทุกช่วงเวลาทั้งตอนชาร์จและตอนใช้งานจริง ช่วยป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ทำงานนอกเหนือขอบเขตความปลอดภัยที่กำหนดไว้ แบตเตอรี่ 20V PUMPKIN ทุกก้อนมีระบบ BMS ชั้นนำนี้ติดตั้งมาจากโรงงาน ทำให้ผู้ใช้หมดห่วงเรื่องไฟเกิน ไฟตก ไฟลัดวงจร หรือแบตเตอรี่ร้อนเกินไป เพราะหากมีอะไรผิดปกติ BMS จะเข้าควบคุมสถานการณ์ทันที
มาตรฐาน มอก. คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
มอก. หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คือ มาตรฐานรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าอุตสาหกรรมที่กำหนดโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ของประเทศไทย เครื่องหมาย มอก. จะมอบให้กับสินค้าที่ผ่านการทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งในกรณีของ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับเครื่องมือไฟฟ้าแบบพกพา จะอยู่ภายใต้มาตรฐาน มอก. 2879-2560
ทำไมแบตเตอรี่ต้องผ่าน มอก.? เพราะมาตรฐานนี้เป็น การการันตีด้านความปลอดภัยและคุณภาพ ของแบตเตอรี่นั่นเอง แบตเตอรี่ที่ได้รับมอก. ต้องผ่านเงื่อนไขการทดสอบหลายด้านอย่างเข้มงวด เช่น
- ทนต่อแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟสูง: แบตเตอรี่ต้องไม่เกิดความเสียหายหรือระเบิดเมื่อถูกชาร์จด้วยแรงดัน/กระแสสูงเกินปกติในการทดสอบ
- ความปลอดภัยจากการลัดวงจร: หากขั้วบวก-ลบของแบตเตอรี่เกิดลัดวงจร (ต่อชนกัน) แบตเตอรี่ต้องไม่ระเบิดหรือเกิดไฟไหม้ วงจรภายในควรตัดการทำงานได้ทัน
- ความสามารถในการทนความร้อน: แบตเตอรี่จะถูกอบทดสอบในอุณหภูมิสูงเพื่อตรวจสอบว่าจะไม่เกิดการลุกไหม้หรือระเบิดเมื่อร้อนจัด
- ความทนทานต่อแรงกระแทกและการตกหล่น: มีการทดสอบปล่อยแบตเตอรี่ตกจากความสูง หรือกระแทกอย่างแรง เพื่อยืนยันว่ากรณีอุบัติเหตุแบตเตอรี่จะไม่แตกหรือเกิดไฟไหม้

เมื่อแบตเตอรี่ผ่านเกณฑ์ทุกข้อข้างต้น จึงจะได้รับอนุญาตให้ติด ตราสัญลักษณ์ มอก. บนตัวผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ และสามารถจัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย นั่นหมายความว่าผู้บริโภคสามารถมั่นใจ ได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย มอก. เป็นของแท้มีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยมาแล้ว ไม่ใช่แบตเตอรี่เถื่อนหรือของปลอมที่ไม่ได้ตรวจคุณภาพ
สำหรับ แบตเตอรี่ PUMPKIN 20V ทุกรุ่น ทั้ง P20, X20 และ E20 ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. 2879-2560 อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกประการ โดย PUMPKIN ผลิตแบตเตอรี่ภายใต้การควบคุมคุณภาพเข้มงวด และส่งทดสอบตามข้อกำหนดของ สมอ. จนผ่านทุกขั้นตอน ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะซื้อแบตเตอรี่รุ่นใดของ PUMPKIN ไปใช้งาน ก็ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ใช้งานได้อย่างหมดห่วง ไร้ความกังวลเรื่องอันตรายที่อาจเกิดจากแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐาน
ข้อควรปฏิบัติในการใช้งาน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน อย่างปลอดภัย
เมื่อรู้ถึงความสำคัญของ BMS และมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว เราควรใช้งานแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีตามคำแนะนำดังนี้ เพื่อให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไปพร้อม ๆ กัน
- หลีกเลี่ยงการใช้งานแบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง ดังที่กล่าวไป การดึงพลังงานจนแบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อย ๆ จะทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลง ควรหยุดใช้งานและนำไปชาร์จก่อนที่แบตจะหมดสนิท อย่างน้อยควรเหลือประจุไว้ประมาณ 20-30% แล้วค่อยชาร์จ นอกจากจะช่วยยืดอายุเซลล์แล้วยังป้องกันไม่ให้ BMS ต้องตัดไฟกระทันหันขณะใช้งาน ซึ่งอาจทำให้งานสะดุด
- ชาร์จด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม ควรใช้แท่นชาร์จที่มาพร้อมเครื่องหรือแท่นชาร์จแบตเตอรี่รุ่นที่ระบุไว้เท่านั้น ไม่ควรใช้แท่นชาร์จที่มีไฟออกสูงกว่าที่กำหนด เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนจัดเกินไปและเสื่อมเร็ว
- ไม่ใช้งานแบตเตอรี่ขณะมีอุณหภูมิสูงผิดปกติ หากสังเกตว่าแบตเตอรี่ร้อนจัดมากในระหว่างใช้งาน หรือรู้สึกร้อนผิดปกติเมื่อสัมผัส ควรหยุดพักการใช้งานและรอให้แบตเตอรี่เย็นลงก่อน การฝืนใช้ในขณะที่แบตร้อนเกินไปอาจนำไปสู่ความเสียหายภายใน หรือในกรณีร้ายแรงอาจเกิดความร้อนสะสมจนลุกไหม้ได้ แม้ว่า BMS ของแบตเตอรี่ PUMPKIN จะมีเซ็นเซอร์ตัดการทำงานเมื่อร้อนเกิน แต่การระมัดระวังของผู้ใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ใช้แบตเตอรี่ร่วมกับเครื่องมือที่ออกแบบให้ใช้ด้วยกันเท่านั้น แบตเตอรี่แต่ละรุ่นถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องมือหรือระบบแรงดันที่เฉพาะเจาะจง การนำแบตเตอรี่ไปใช้กับเครื่องมือยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่นที่ไม่ได้รองรับ (เช่น นำแบต 20V ไปใส่เครื่อง 18V หรือ ดัดแปลงขั้วให้ใส่กับเครื่องมือข้ามยี่ห้อ) เป็นการใช้งานที่เสี่ยงภัย เพราะเครื่องมืออาจดึงกระแสเกินขนาดหรือวงจรการสื่อสารไม่เข้ากัน ส่งผลให้ไม่มีระบบป้องกันใด ๆ ทำงาน แบตเตอรี่อาจเกิดความร้อนสูงหรือลัดวงจรจนเสียหายได้ ผู้ใช้ควรใช้แบตเตอรี่ PUMPKIN 20V กับเครื่องมือไร้สายของ PUMPKIN 20V เท่านั้น และตรวจสอบคู่มือว่าแบตเตอรี่รุ่นใดเหมาะกับเครื่องมือรุ่นไหน (เช่น เครื่องมือหนักควรใช้แบต P20 ตามที่ PUMPKIN แนะนำ เป็นต้น)
- ไม่แกะ, เจาะ, ทุบ หรือดัดแปลงแบตเตอรี่ด้วยตนเอง ห้ามเปิดฝาแบตเตอรี่หรือแก้ไขวงจรภายในเองเด็ดขาด เพราะจะทำให้การรับประกันสิ้นสุดทันที และที่สำคัญคืออันตรายมาก แบตเตอรี่ลิเธียมมีสารเคมีไวไฟและบรรจุไฟฟ้าอยู่ หากการแกะทำให้เกิดการลัดวงจรแม้เพียงเล็กน้อย หรือเกิดประกายไฟ จะทำให้แบตเตอรี่ลุกไหม้หรือระเบิดได้ทันที นอกจากนี้การเจาะหรือทุบแบตเตอรี่ (เช่น ด้วยความเข้าใจผิดว่าจะทำให้แบตกลับมาทำงานได้หรือรีไซเคิลเซลล์ภายใน) เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เซลล์ลิเธียมเมื่อทะลุถึงอากาศจะทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรง เกิดไฟลุกและควันพิษ ดังนั้นหากแบตเตอรี่มีปัญหา ควรส่งศูนย์บริการหรือเปลี่ยนก้อนใหม่ อย่าพยายามซ่อมหรือดัดแปลงเอง
การปฏิบัติตามข้อควรระวังข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การใช้แบตเตอรี่เครื่องมือไร้สายของคุณเป็นไปอย่าง ปลอดภัยสูงสุด และยังรักษาให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพดี มีอายุการใช้งานยาวนานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

การเก็บรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีอายุการใช้งานยาวนานและปลอดภัย
การเก็บรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างถูกวิธี เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและความเสื่อมของแบตเตอรี่โดยตรง เราควรใส่ใจเรื่องสภาพแวดล้อมและวิธีเก็บแบตเตอรี่ดังนี้
- เก็บในที่อุณหภูมิห้อง และอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป พยายามเก็บในบริเวณที่อุณหภูมิใกล้เคียงอุณหภูมิห้อง อุณหภูมิที่มากกว่า 40-50°C จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรืออาจเกิดปฏิกิริยาภายในจนบวมได้ ขณะที่อุณหภูมิต่ำต่ำกว่า 0°C ก็อาจทำให้สารเคมีภายในเซลล์จับตัวและความจุลดลงชั่วคราว นอกจากนี้ควรเก็บในที่ที่แห้ง ไม่ชื้น เพื่อป้องกันวงจรภายในเกิดสนิมหรือไฟรั่วไหล อย่าวางแบตเตอรี่ใกล้แหล่งน้ำ หรือที่ที่มีไอน้ำ/ความชื้นสูง เช่น ในห้องน้ำ หรือใกล้พื้นดินที่ชื้น
- ไม่ตากแดดหรือไว้ในรถที่ตากแดด หากจำเป็นต้องเก็บแบตเตอรี่ไว้ในรถหรือไซต์งาน ควรเลือกที่ร่มและไม่โดนแสงแดดโดยตรง แบตเตอรี่ที่ตากแดดจะร้อนจัดเกินพิกัดและอาจเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว (เคยมีกรณีแบตเตอรี่ Power Bank บางยี่ห้อระเบิดเพราะลืมไว้ในรถที่จอดตากแดด) ดังนั้นทางที่ดีหลังใช้งานเครื่องมือเสร็จ ไม่ควรปล่อยแบตเตอรี่คาเครื่องมือไว้กลางแจ้ง ให้ถอดออกและเก็บในที่ร่มเสมอ
- ชาร์จไฟประมาณ 40-60% หากต้องเก็บนาน หากไม่ได้ใช้แบตเตอรี่เป็นเวลานาน เช่น เก็บเข้ากรุหลายเดือน ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้มีประจุประมาณครึ่งหนึ่ง (สัก 40-60%) ก่อนเก็บ แล้วค่อยนำไปพักไว้ การเก็บแบตเตอรี่ที่ระดับประจุต่ำเกินไป (ใกล้ 0%) เป็นเวลานานอาจทำให้แบตเตอรี่ Deep Discharge จน BMS สั่งตัดและเข้าโหมดป้องกัน ทำให้ชาร์จไม่เข้าเมื่อนำมาใช้อีก หรือถ้าเก็บไว้ที่ระดับไฟเต็ม 100% นาน ๆ ก็อาจเสื่อมเร็วขึ้น เนื่องจากแรงดันสูงตลอดเวลาส่งผลให้เซลล์เครียด ทางที่ดีคือเก็บไว้กลาง ๆ และหากเก็บไว้นานหลายเดือน ควรนำออกมาชาร์จเติมหรือใช้งานบ้างเป็นระยะ (เช่น ทุก 3-4 เดือน) เพื่อให้เซลล์ได้ขยับประจุและไม่เสื่อม
- เก็บแบตเตอรี่ให้ห่างจากโลหะหรือของที่อาจทำให้ขั้วลัดวงจร วิธีเก็บที่ปลอดภัยคือ ใส่แบตเตอรี่ไว้ในกล่องหรือซองเก็บที่แห้งสะอาด แยกต่างหาก อย่าโยนแบตเตอรี่ลงในกล่องเครื่องมือที่มีชิ้นส่วนโลหะกระจัดกระจาย เช่น ตะปู น็อต หรือประแจ เพราะหากขั้วแบตเตอรี่ไปสัมผัสกับโลหะเหล่านั้นพร้อมกัน อาจเกิดการลัดวงจรขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และควรหลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ใกล้วัตถุไวไฟเช่นเดียวกัน
- รักษาความสะอาดและตรวจสภาพแบตเตอรี่ ก่อนเก็บ ควรเช็ดทำความสะอาดฝุ่นหรือคราบน้ำมันที่ตัวแบตเตอรี่ให้แห้งสนิท เพราะฝุ่นละอองอาจก่อให้เกิดความชื้นหรือเข้าไปขัดขวางขั้วสัมผัสไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ควร ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ ก่อนเก็บทุกครั้ง เช่น ดูว่าไม่มีรอยแตกร้าว, ไม่มีส่วนใดบวมผิดปกติ, ขั้วแบตเตอรี่ไม่สกปรกหรือมีสนิม หากพบปัญหาควรส่งศูนย์หรือเปลี่ยนแบตใหม่ทันที ไม่ควรเก็บแบตเตอรี่ที่มีความเสียหายร่วมกับแบตเตอรี่ปกติ
- อย่าลืมเรื่องมาตรฐาน มอก. เมื่อพูดถึงการเก็บแบตเตอรี่ให้ปลอดภัย แบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานย่อมมีความน่าเชื่อถือในการเก็บรักษามากกว่า เนื่องจากผ่านการทดสอบทั้งเรื่องอุณหภูมิและการตกหล่นมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานในระยะยาว การเก็บรักษาที่ดีบวกกับการใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน ย่อมทำให้แบตเตอรี่ของคุณมีอายุยืนยาวและปลอดภัยเต็มร้อย
แบตเตอรี่เครื่องมือไร้สายแม้จะเพิ่มความสะดวกในการทำงานช่าง แต่หากใช้งานหรือเก็บรักษาไม่ถูกวิธีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ทั้งจากการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วไปจนถึงการเกิดไฟไหม้ระเบิด ดังนั้น การใช้งานและเก็บรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ทุกคนควรให้ความสำคัญ
แบตเตอรี่ 20V ของ PUMPKIN ทุกรุ่นถูกออกแบบมาโดยเน้นเรื่องความปลอดภัยสูงสุด ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ด้วย ระบบ BMS อัจฉริยะ ที่ติดตั้งมาในแบตเตอรี่ ซึ่งคอยดูแลป้องกันการชาร์จเกิน, ไฟต่ำเกิน, ป้องกันไฟรั่ว-ไฟลัดวงจร และควบคุมความร้อนสะสม นอกจากจะช่วยให้ใช้งานได้อย่าง ปลอดภัยไร้กังวล แล้ว BMS ยังมีส่วนช่วย ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ให้ยาวนานขึ้นด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้น แบตเตอรี่ 20V ทุกรุ่น จาก PUMPKIN ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 2879-2560 อย่างถูกต้อง มีเครื่องหมายและเลข มอก.ระบุชัดเจนบนฉลาก การมีมาตรฐานรับรอง นี้คือเครื่องยืนยันว่าคุณจะได้รับแบตเตอรี่ที่ปลอดภัย มีคุณภาพ ไม่ต้องกังวลกับอันตรายต่าง ๆ ที่มักเกิดกับแบตเตอรี่ไร้มาตรฐาน
ด้วยการใช้งานอย่างถูกวิธี บวกกับแบตเตอรี่ PUMPKIN ที่มีทั้งระบบ BMS และมาตรฐาน มอก. รับรอง คุณก็สามารถใช้งานเครื่องมือไร้สายได้เต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดอายุแบตเตอรี่ไปได้อีกนาน ทำงานช่างหรือ DIY ได้อย่างสบายใจ หายห่วงทุกสถานการณ์